วันเสาร์, ธันวาคม 27, 2551

ตอนที่ 38

วันรุ่งขึ้นเราสองคนต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับป๋ากับแม่ขับรถล่องลงมากรุงเทพเพื่อไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงรับรองภาคสองที่ป๋าจัดให้มีขึ้นที่ราชกรีฑาสโมสร งานนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ป๋ากับแม่รับผิดชอบส่งบัตรเชิญไปทั้งสิ้นกว่าสองร้อยใบ คะเนจากแขกที่มาร่วมงานก็เต็มตลอดความยาวของระเบียงคลับเฮาส์ชั้นสองพอดี ๆ มีนักร้องยอดนิยมในสมัยนั้นซึ่งได้แก่สุเทพ วงศ์กำแหงและจินตนา สุขสถิตย์ รับเชิญมาเป็นดาราชูโรงร้องเพลงขับกล่อมแขกที่มาร่วมในงานด้วย นอกจากนั้นยังมีการแสดงที่เรียกว่า “ฟลอโชว์” ซึ่งเป็นการแสดงของฝรั่งคล้าย ๆ กับจำอวดและการแสดงมายากลผสมปนเปกันไป ที่ฉันและแขกที่ไปในงานต่างเห็นว่าแปลกเพราะการแสดงเช่นนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นกันในงานรับรองการแต่งงานใด ๆ มาก่อน

พ่อเทพกับแม่ปัญญาและญาติข้างตุ่มไม่มีใครตามลงมางานที่กรุงเทพฯเลย ทุกคนให้เหตุผลสั้น ๆ แต่กินใจว่า “ย่านอีหลีตั๊ว บ่ไปนำดอก” แขกของฉันก็คงมีแต่เพื่อน ๆ สมัยเรียนและพวกเพื่อนและพี่ที่ทำงานอยู่ซีเอโอในกรุงเทพกับเพื่อนสองสามคนจากอุดรที่ตามลงมาให้กำลังใจด้วย แขกของตุ่มจริง ๆ ในคืนนั้นจึงไม่มีเอาเลย เหมือนกับเป็นลางเตือนให้รู้ว่าชีวิตของตุ่มในกรุงเทพในวันข้างหน้าไม่น่าจะอบอุ่นแต่จะอ้างว้างกว่าที่อุดรอย่างแน่นอน ฉันขอให้ มร.เบลค เป็นตัวแทนผู้ใหญ่ฝ่ายชายขึ้นกล่าวอวยพร ส่วนผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงนั้นแม่ไปเชิญให้ใครก็ไม่รู้ฉันไม่รู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน ได้ยินแม่เรียกว่า “พี่หมอ พี่หมอ” ให้ขึ้นมากล่าวในนามของตัวแทนผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว ท่านผู้นั้นก็เก่งสมกับที่แม่ให้ความไว้วางใจ ขึ้นมากล่าวยกยอเจ้าสาวว่าดีอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ได้เป็นฉาก ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วแถมยังกำชับกำชาให้ฉันดูแลเจ้าสาวให้ดี ไม่งั้นจะเอาเรื่อง เรียกเสียงเฮฮาจากแขกที่มาในงานได้พอควร ทั้ง ๆ ที่เราทั้งสามคนต่างไม่เคยพบกันมาก่อนหน้านั้นแต่อย่างใด

หลังจากงานเลี้ยงฉลองการแต่งงานครั้งที่สองผ่านพ้นไปเรื่องก็คล้ายว่าน่าจะแฮปปี้เอนดิ้งแต่ที่ไหนได้กลับมีเรื่องรกหัวใจเข้ามาเป็นเรื่องแรก ซึ่งได้แก่เรื่องทะเบียนสมรส พอเสร็จงานเลี้ยงพากันกลับมาตั้งหลักที่บ้านเอกมัย ทั้งป๋าและแม่ก็ตามมาถึงในห้องนอนทีแรกฉันก็ตกใจคิดว่าจะมาส่งตัวกันเป็นรอบที่สองแต่ที่ไหนได้ป๋ากลับมาขอร้องแกมบังคับให้ฉันและตุ่มชะลอเรื่องการจดทะเบียนไว้สักพักหนึ่งก่อนโดยอ้างเหตุผลซึ่งต่อมาในชีวิตการทำงานของฉันได้ยินจนกลายเป็นเรื่องปกติทุกครั้งที่ผู้อ้างหาเหตุผลที่ฟังเข้าหูกว่าไม่ได้ว่า “เพื่อความเหมาะสม”

ด้วยความอ่อนด้อยประสบการณ์ในด้านความละเอียดอ่อนของอารมณ์ทำให้ฉันซึ่งไม่ได้คิดอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงตกปากรับคำไป ปรากฏว่าเมื่อป๋ากับแม่กลับออกไปกันแล้ว ตุ่มซึ่งทีแรกก็นั่งเงียบไม่ออกความเห็นใด ๆ กลับประท้วงไม่ยอมนอนนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำหูน้ำตาร่วงเผาะ ๆ เป็นเผาเต่าปากก็พร่ำรำพันว่าเสียใจนักที่ป๋ากับแม่รีบหยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องทะบงทะเบียนเสียด้วยซ้ำ คล้ายกับกลัวว่าจะเข้ามาปอกลอกเอาสมบัติหรืออย่างไร พร่ำพรรณนาจนจะกลายเป็นเรื่องระหว่างไทยกับลาวไป ฉันก็ได้แต่ลูบหลังลูบไหล่ปลอบไปว่าเรื่องจะจดทะเบียนหรือไม่นั้นมันอยู่ที่เราสองคนคนอื่นไม่เกี่ยว ปลอบกันไปซุกกันมาจนในที่สุดก็เลย

เลียมลูบจูบโฉมประโลมลอง
ประคองกอดอุ้มแก้ว (ตุ่ม) ขึ้นเตียงพลัน

ทรุดลงประจงวางกลางที่นอน
อย่าอาวรณ์มาพี่จะรับขวัญ
ยิ้มพลางทางเคล้าพัลวัน
รวยระรื่นรสจันทร์กระแจะทา

อ่อนนุ่มเนื้อหนังสนิทนิ่ม
จิ้มลิ้มน่ารักเป็นหนักหนา
เต้าตั้งดังดอกปทุมมา
เมื่อกลีบแย้มผกาเสาวคนธ์

คึกคึกพยุกล้าเมฆาเกลื่อน
ธุลีเลื่อนฝุ่นฟุ้งเป็นลมฝน
ประเปรี้ยงเสียงซ่าในสากล
ไม่ทานทนไหลนองทั้งแดนไตร

เสื่อมคลายหายมืดมัวพยับ
เดือนกลับส่องกระจ่างสว่างไสว
ทั้งสองสุขเกษมเปรมใจ
ตีเหล็กไฟจุดประทีบประเทืองพราย**

**คัดลอกมาจากบทอัศจรรย์ระหว่างขุนแผนกับนางลาวทอง คำกลอนเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน**

เช้าวันรุ่งขึ้นฉันและตุ่มก็พร้อมใจกันไปกราบลาป๋าและแม่กลับอุดรโดยไม่รอเปิดห่อของขวัญที่ขนมากองอยู่เป็นอันมากเลยสักห่อ ช่วงเวลาที่ฉันทำงานอยู่ที่อุดรกว่าสี่ปีได้เดินทางไปกลับระหว่างอุดรและกรุงเทพหลายครั้ง ทุกครั้งที่กลับมาอุดรฉันจะมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดในใจทุกครั้งว่าได้กลับมาถึง “บ้าน” แล้ว ครั้งนี้ก็เช่นกัน ความรู้สึกอยาก “กลับบ้าน” มีขึ้นตั้งแต่ต้องไปยืนปั้นหน้าปั้นตาอยู่ในงานเลี้ยงที่สปอร์ตคลับแล้ว

กลับมาอุดรเที่ยวนี้ตุ่มกันฉันก็ต้องวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องหาบ้านหาช่องใหม่แทนบ้านเช่าที่บ้านถ่อนซึ่งที่แรกกะว่าจะใช้เป็นเรือนหอ สู้อุตส่าห์ให้ตุ่มย้ายออกมาจากบ้านพี่แอ๋มานอนเฝ้าเรือนหอกับ “ไอ้เตื้อง” เด็กช่วยทำงานบ้านอยู่ก่อนหน้างานแต่งตั้งหลายเดือนจึงมารู้ความจริงเอาในภายหลังว่า บ้านหลังนั้นไม่น่าจะเหมาะที่จะลงหลักปักฐานอยู่เป็นเวลานาน ๆ เพราะเพื่อนบ้านส่งเสียงดังหนวกหูมากในเวลากลางคืน ตุ่มกับฉันจึงต้องเร่ตระเวนหาบ้านเช่าแห่งใหม่และโชคดีที่ไปพบบ้านเช่าคุณภาพค่อนข้างดีอยู่ในย่านหนองประจักษ์ซึ่งเป็นย่านอยู่อาศัยของผู้ดีมีสตางค์ที่อุดร หากจะเทียบกับกรุงเทพแล้วก็น่าจะเป็นแถว ๆ บางกะปิ เป็นบ้านบังกาโลกระทัดรัดชั้นเดียวมีสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำทาสีน้ำมันสวยงามต่างกับบ้านส่วนใหญ่ซึ่งมักจะไม่ทาสี

แม้ว่าเจ้าของบ้านจะเรียกค่าเช่าถึงพันห้าร้อยบาทต่อเดือนซึ่งถือว่าแพงมากในสมัยนั้นที่ราคาบ้านเช่าอยู่ระหว่างห้าร้อยถึงเจ็ดร้อยบาทก็ถือว่าเลิศหรูแล้ว เหตุที่แพงเพราะเจ้าบ้านต้องการกันคนไทยกะให้ฝรั่งเช่าเท่านั้นเพราะกลัวว่าจะเสียบรรยากาศบ้านที่น่าอยู่มาก แต่เมื่อฉันกับตุ่มได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงมีอายุหน้าตาใจดีแล้วก็เกิดถูกอัธยาศัยซึ่งกันและกัน แกจึงตกลงให้ฉันเช่า แม้ว่าจะไม่ยอมลดค่าเช่าให้แต่ก็ใจป้ำเพราะเห็นว่าเป็นฉันกับตุ่มคนไทยไม่มีสตางค์มากมายเหมือนฝรั่งแถมยังเพิ่งจะแต่งงานกันก็เลยตกลงที่จะเป็นฝ่ายออกค่าน้ำค่าไฟให้ บ้านหลังนี้เองที่ตุ่มกับฉันใช้เป็นเรือนหออยู่ร่วมกันตลอดเวลาที่เหลืออยู่ที่อุดร

เมื่อจัดการเรื่องบ้านเรื่องช่องเรียบร้อย ฉันกับตุ่มก็จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสกันที่อำเภอเมืองจังหวัดอุดรเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2516 โดยที่ป๋าและแม่ไม่มีโอกาสติดตามมาทักท้วงทัดทานแต่ประการใด ใบทะเบียนสมรสนี้ได้ใช้ประโยชน์เป็นครั้งแรกเมื่อฝ่ายบุคคลของธนาคารที่กรุงเทพทวงถามขอสำเนามาเพื่อประโยชน์ในทางภาษีเงินได้ ที่ลืมเล่าให้ฟังไปคือเรื่องที่ธนาคารมีระเบียบกำหนดไว้แน่นอนว่า หากพนักงานธนาคารคู่หนึ่งคู่ใดจะแต่งงานอยู่กินกัน จะต้องมีคนหนึ่งที่ออกจากงานไปจะอยู่ทำงานด้วยกันทั้งคู่ไม่ได้เพราะฝรั่งเกรงว่าผัวเมียทำงานด้วยกันจะเสียการปกครองอาจมีการให้คุณให้โทษกันด้วยความเกรงใจได้โดยง่าย เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันทำเป็นเก่งตั้งใจว่าจะเป็นฝ่ายลาออกแล้วหางานอื่นในแคมพ์ทำทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหางานที่ไหนทำ แต่เมื่อเรื่องรู้ไปถึงหูฝรั่ง ฉันก็ถูกเรียกเข้าไปเกลี้ยกล่อมว่าน่าจะให้ตุ่มเป็นฝ่ายออกไปทำหน้าที่แม่บ้านก็แล้วกัน ฉันก็ทำท่าบ่ายเบี่ยงไปต่าง ๆ นานา ด้วยในใจแล้วไม่ต้องการให้ทั้งตัวฉันเองและตุ่มต้องออกไปวัดดวงหางานทำใหม่นั่นเองเพราะรู้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำลง ทหารอเมริกันเริ่มถอนตัวออกไป การหางานใหม่จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะง่ายนัก

การบลั๊ฟในครั้งนั้นของฉันได้ผล พวกฝรั่งเห็นท่าไม่ดีก็เลยเรียกประชุมลับหารือกันแล้วสรุปหาทางออกอย่างง่าย ๆ ให้โดยมีคำสั่งให้โอนย้ายตุ่มไปทำงานที่แคมพ์รามสูรซึ่งเป็นสาขาย่อยของอุดรอีกที โดยวิธีนี้ พวกฝรั่งก็อนุโลมเอาว่าฉันและตุ่มอยู่คนละสาขา ไม่สามารถให้คุณให้โทษต่อกันหรือเสี่ยงต่อการเสียการปกครองได้ จึงไม่จำเป็นที่คนใดคนหนึ่งจะต้องลาออกไปให้วุ่นวาย แม้ว่าในข้อเท็จจริงนั้น ฉันซึ่งมีตำแหน่งเสริมเป็นแค็ชซุปจะต้องมีหน้าที่ขับรถธนาคารไปส่งและรับตุ่มกับหัวหน้างานอีกหนึ่งคนที่ต้องวิ่งรอกระหว่างอุดรกับรามสูรทุกวันก็ตาม ที่ฝรั่งยอมหาทางออกง่าย ๆ เช่นนี้มิใช่หมายความว่าฝรั่งจะใช้วิธีแก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอด แต่น่าจะเป็นด้วยเหตุที่ฝรั่งเห็นว่าอีกไม่นานนักก็จะต้องแยกย้ายกันไปอยู่แล้ว

ชีวิตหลังแต่งงานของฉันที่อุดรยังสนุกสนานและครื้นเครงเหมือนเช่นเดิม ฉันและตุ่มก็ถูกเพื่อน ๆ ตั้งสรรพนามเสียใหม่ว่า “ผัวหนุ่มเมียสาว” พูดคำนี้ที่ไหนเป็นต้องรู้ว่าหมายถึงตุ่มกับฉัน หลังจากที่เราย้ายมาอยู่บ้านหนองประจักษ์ได้ไม่นาน ฉันก็ชวนให้ทวีและสลิดย้ายมาอยู่บ้านบังกะโลหลังที่ปลูกอยู่ติดกันซึ่งเพิ่งจะว่างลงได้สำเร็จ จึงกลายเป็นว่าทวีกับฉันเป็นเจ้าของได้ครอบครองเกือบทั้งหมดของบริเวณส่วนหลังของบ้านเช่าแห่งนี้เพราะนอกจากบังกาโลสองหลังที่ฉันกับทวีเช่าก้นคนละหลังแล้วก็มีเพียงบ้านใหญ่สองชั้นซึ่งจ่าทหารอเมริกันแก่ ๆ เช่าอยู่กับเมียคนไทยเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นบ้านที่ปลูกอยู่ในส่วนหน้าของบริเวณบ้านเช่านั้นทั้งสิ้น ลานบ้านระหว่างบังกะโลทั้งสองหลังของฉันและทวีจึงกลายเป็นลานสโมสรกลางแจ้งส่วนตัวของเราไปโดยปริยาย เราไปจ้างช่างแกวต่อโต๊ะปิงปองเอามาตั้งไว้กลางลานหนึ่งชุด แต่ปรากฏว่าคนที่ตีปิงปองได้เก่งที่สุดไม่มีใครโค่นลงได้กลับไม่ใช่คนที่พากันไปต่อโต๊ะปิงปองมา กลายเป็นตุ่มไปเสียฉิบ ถ้าจะตีเอาแรงแล้วตุ่มคงสู้ฉันกับทวีไม่ได้เพราะต่างก็เป็นมือตบระเบิดระเบ้อกันทั้งสองคน แต่ตุ่มมีดีที่ลูกเสิร์ฟ ที่เรียกว่า “ลูกเหม็น” กับลูกตื้อ ที่ตื้อใจขาด ตบอย่างใดรับได้หมด จนคนตบตายไปเองบ่อย ๆ

ถัดจากโต๊ะปิงปองมามีชุดสนามที่เจ้าของบ้านเช่าตั้งไว้ให้หนึ่งชุด เป็นโต๊ะหิน ตรงกลางด้านใต้โต๊ะเป็นช่องสามารถยกเตาถ่านใส่เข้าไปข้างในได้ อากาศในหน้าหนาวที่อุดรนั้นหนาวจับใจนัก หากคิดว่าจะนั่งกินเหล้าติดลมขี้เกียจย้ายในภายหลังแล้วจะต้องเตรียมเอาเตาถ่านมาใส่ใต้โต๊ะหินไว้ พอเริ่มอากาศเริ่มเย็นก็ติดไฟผิงไฟไป กินเหล้าไป อุ่นพอสบาย ๆ สุขอะไรจะเทียมเท่า นอกจากโต๊ะปิงปองแล้วทวียังไปจ้างช่างแกวต่อแป้นบ้าสมาติดไว้กับหลังคาโรงรถซึ่งแยกต่างหากจากตัวบ้านไว้ให้ใครที่ต้องการเรียกเหงื่อแก้เมาซ้อมยิงลูกโทษได้หรือจะเล่นบ้าสครึ่งสนามก็ยังได้อีกด้วย

(โปรดอ่านต่อไปได้อีกนิดที่ความคิดเห็นที่ 1)


จากคุณ : แมงกระพรุน - [2 ส.ค. 45 03:52:14 A:203.149.40.146 X:]

--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

ด้วยเหตุนี้ บ้านบังกะโลหนองประจักษ์จึงกลายเป็นทางเสือผ่านแทนบ้านเก่าทวีที่ย้ายจากบ้านโนนมาที่บ้านปลัดเชิดก่อนที่จะย้ายตามฉันมาอยู่ที่หนองประจักษ์ไปได้อย่างรวดเร็ว สโมสรกลางแจ้งของฉันและทวีกลายเป็นที่ชุมนุมของพลพรรค ใครอยากจะเล่นโบว์ปาเป้าก็ขึ้นไปบนบ้านทวีที่มันอุตส่าห์ลงทุนสั่งซื้อเป้ารุ่นใหม่มาจากพีเอ๊กซ์ เป็นเป้าที่ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์ปาแล้วไม่มีรอยลูกดอกให้เกะกะสายตาพร้อมกับลงทุนเขียนกระดานจดแต้มตีเส้นเคลือบพลาสติกถาวรมาแขวนไว้เข้าชุดกัน ในห้องรับแขกยังมีชุดรับแขกใหม่เอี่ยมอ่องที่เจ้าของบ้านเช่าจัดหามาให้แต่แปลกที่นั่งนอนไม่สบายเท่าชุดเก่าที่บ้านโนน หรือใครอยากจะเล่นไพ่ตีรัมมี่ก็ขึ้นมาบ้านฉันที่มีห้องว่างจัดไว้เป็นห้องเล่นไพ่หนึ่งห้องพร้อมกับระบบเสียงขับกล่อมจากเครื่องเสียงไฮไฟสี่ลำโพงให้เสียงเซอร์ราวนด์สเตอริโอที่นุ่มลึกสั่งซื้อโดยตรงจากญี่ปุ่นผ่านเบสเอ๊กซ์เซนจ์ในฐานบินอุดร

นอกจากเครื่องเสียงจะดีแล้วฉันยังมีคอลเลคชั่นแผ่นเสียงลองเพลย์ทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ที่ฝากฝรั่งซื้อจากพีเอ๊กซ์มาเดือนละแผ่นสองแผ่นอีกหลายสิบแผ่น มีเทปคาสเซทเพลงไทยทั้งลูกทุ่งลูกกรุงและเพลงฝรั่งอีกมาก หรือจะเลือกรับฟังรายการวิทยุเอฟเอมจากในแคมพ์ฉันก็จัดหาเสาอากาศพิเศษมาติดตั้งสามารถรับฟังรายการวิทยุจากในแคมพ์ได้อย่างชัดเจน โดยปกติรายการวิทยุเอฟเอมจากสถานีในแคมพ์จะรับฟังไม่ได้เมื่อออกมานอกแคมพ์เพราะดักสัญญาณไว้เนื่องจากบางทีบางครั้งจะมีประกาศด่วนประกาศฉุกเฉินเฉพาะในกิจการทหารอเมริกันผ่านสถานีวิทยุแห่งนี้ ใครอยากจะฟังวิทยุจากในแคมพ์จะต้องมีซี้ที่ซี้กันมาก ๆ เป็นธุระจัดหาเสาอากาศชนิดพิเศษให้ เมื่อนำมาติดตั้งตามแบบที่กำหนดแล้วเท่านั้นจึงจะรับฟังได้

หากใครไม่อยากเล่นไพ่และไม่อยากนั่งเชียร์รอบ ๆ วงไพ่ ก็สามารถนั่งกินเหล้าฟังเพลง หากไม่ชอบฟังเพลง ไม่อยากจะตีปิงปองหรือชู๊ตบ้าส อยากจะตกปลาก็สามารถทำได้เพราะในบริเวณบ้านเช่ามีสระน้ำใหญ่อยู่สระหนึ่ง เป็นสระธรรมชาติซึ่งริมสระมีต้นก้ามปูใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่หลายต้นจนบริเวณนั้นร่มครื้มไปหมด ต่อมาไม่รู้ว่าเพื่อนคนไหนขนเอาโฟมที่ใช้แพ๊คใส่ลูกระเบิดเครื่องบินมาลอยไว้ในสระ โฟมนี้ก็กลายสภาพเป็นแพลอยน้ำไป เป็นทางเลือกให้ใครที่อยากกินเหล้าในแพเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หรือจะนอนเล่นพักผ่อนในแพซึ่งลอยอยู่กลางสระก็สามารถทำได้โดยง่าย หากยังไม่พอใจอีกอยากจะวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นก็สามารถทำได้โดยออกจากบ้านเลี้ยวซ้ายไปสักหน่อยก็จะปะเข้ากับซุปเปอร์ไฮเวย์เลี่ยงเมืองสายใหม่ที่เพิ่งจะตัดเสร็จสมบูรณ์ วิ่งออกกำลงได้เลย รับรองว่าอากาศดีไม่มีมลพิษเพราะยังไม่ค่อยมีรถวิ่งมากมายเหมือนในปัจจุบัน

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นอะไรที่ฉันกับทวีช่วยกันจัดช่วยกันหามาคนละไม้คนละมือ ทีละอย่างสองอย่างจนในที่สุดเราก็เห็นว่าเรามีอุปกรณ์สันทนาการพร้อมทุกอย่างที่ต้องการ แทบจะไม่ต้องออกไปสรรหาที่ไหนให้เหนื่อยยากอีก ทุกวันอาทิตย์หรือในวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเป็นวันที่มีพลพรรคมารวมตัวกันที่นี่มากที่สุด ทวีจะสนุกมากกว่าเพื่อนในการหาสูตรผสมเหล้าแปลก ๆ มาชงเลี้ยงเพื่อน ๆ สูตรที่ลงตัวและทำกินบ่อยที่สุดน่าจะเป็นสูตรที่มันตั้งชื่อเสียงเพราะพริ้งว่า “แม่โขงซาวเออร์” ลักษณะคล้าย ๆ พั๊นช์แม่โขงผสมน้ำมะนาว โซดาและน้ำตาลกรวดเคี่ยวกับน้ำสุกแล้วกรองด้วยผ้าขาวจนใสแจ๋วในอัตราส่วนที่ลงตัวพอดี ช่วงอากาศร้อน ๆ ได้ดื่มแล้วหอมเย็นชื่นใจนัก แต่ก็เมาซึมสะบัด นอกจากเหล้าและโซดาแช่ในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่เย็นเฉียบแล้ว เรื่องกับแกล้มก็มีอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน ใครมาก็หิ้วมาคนละอย่างสองอย่าง ที่บ้านทวีกับฉันจัดเตรียมไว้ก็มี กินเท่าใดไม่มีหมด

พูดเรื่องเล่นไพ่กันสักนิดจะได้ไม่เข้าใจผิด คืนเล่นไพ่ของพวกเราคือคืนวันเสาร์เรื่อยเปื่อยไปจนถึงเช้าวันอาทิตย์ ไพ่ที่พวกฉันนิยมเล่นกันในสมัยนั้นคือไพ่รำมี่หรือบางคนก็เรียกเป็นดำมี่ เมื่อเริ่มเล่นกันแล้วก็จะติดลมทั้งคืนไปจนสว่างคาตา มีพวกผู้หญิงคอยส่งเหล้าส่งเสบียง ขาประจำก็มี ไอ้วี ฉัน ตุ๊แบงค์ และ ไอ้สาน บางทีอ๊อดทอมเลิกงานแล้วแวะมาจอย ไอ้สานก็จะลุกให้อ๊อดเล่นแทน มีแดงแฮนด์ซั่มเป็นกองเชียร์ เล่นกันแต้มละแค่ห้าสตางค์ ได้เสียเท่าใดไม่เคยมีใครเอาเข้ากระเป๋าซื้อเหล้าซื้อกับแกล้มกินกันทั้งสิ้น คืนไหนพวกฉันตั้งวงจะเล่นรำมี่ พวกผู้หญิงจะรู้แกวไม่ยอมแกร่วอยู่กับบ้านให้ซึมเซา นัดหมายแต่งเนื้อแต่งตัวพากันออกไปเต้นระบำฟังเพลงกันเป็นแถว จะกลับมาส่งเสียงเจี้ยวจ๊าวกันอีกทีก็เมื่อบาร์เลิก ที่ติดมือมาฝากขาไพ่แก้ระโหยทุกครั้งมิได้ขาดคือบะหมี่เกี๊ยวร้านรังนกเจ้าอร่อย ส่วนอาหารเช้าเมื่อเลิกเล่นก็จะเป็นหน้าที่ของคนที่ได้สตางค์เป็นเจ้ามือเลี้ยงไข่กระทะร้านเอมโอชหรือไม่ก็ข้าวขาหมูร้านหน้าโรงพักก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปนอน

หลังจากแต่งงานได้เดือนหรือสองเดือนก็เกิดเรื่อง ดังที่เคยเล่ามาก่อนหน้านี้บ้างแล้วเกี่ยวกับความน่าเกรงขามของเซ็คเคียวริตี้การ์ดซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเบสแคมป์ คนพวกนี้คือคนที่ควรหลีกเลี่ยงการประทะไม่ว่าจะในกรณีใด ๆ เป็นอย่างยิ่ง แต่ฉันกลับไปมีเรื่องกับเซ็คเคียวริตี้การ์ดเข้าอย่างจังโดยที่มิได้ตั้งใจหรือวางแผนมาก่อนแต่อย่างใด

ตามปกติพนักงานธนาคารจะได้รับอนุญาตให้นำรถซึ่งมีสติ๊กเกอร์อนุญาตให้ผ่านเข้าออกฐานทัพได้ไปจอดไว้ยังที่จอดรถข้าง ๆ แบงค์ ก็ปฏิบัติกันเรื่อยมาไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ จนถึงเช้าวันนั้นที่ฉันกับตุ่มขับมาทำงานด้วยกันแต่เช้าตามปกติ ก่อนจะเลี้ยวขวาตามถนนไปยังแบงค์ฉันก็ถูกเซ็คเคียวรีตี้การ์ดโบกมือเรียกให้จอดรถลง ตอนนั้นก็ตกใจคิดว่าตัวเองทำผิดกฎจราจรอะไรสักอย่างซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะการขับรถในเบสแค้มป์หากทำผิดกฏจราจรอาจส่งผลรุนแรงถึงโดนยึดบัตรผ่านไม่สามารถนำรถเข้าออกฐานบินได้ เมื่อสอบถามการ์ดก็แจ้งให้ฉันทราบว่า ผู้บัญชาการฐานทัพคนใหม่มีคำสั่งให้จำกัดบริเวณที่ตั้งของธนาคารเป็นเขตปลอดรถยนต์คือห้ามรถยนต์ขับผ่านและห้ามมิให้นำรถเข้าไปจอดอีกต่อไป

เมื่อฉันถามถึงเหตุผลการ์ดก็ไม่ตอบหรืออธิบายอะไรเพียงแต่บอกว่าเป็นคำสั่ง ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ในความรู้สึกตอนนั้นของฉันก็เกิดอาการเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาเฉย ๆ ด้วยคิดว่าเป็นคำสั่งที่ไร้เหตุผลสิ้นดี ก็เลยตอบการ์ดผู้นั้นไปว่า ถ้าไม่ยอมให้ฉันขับรถเข้าไป ฉันก็จะขอจอดรถตรงนั้นซึ่งเป็นหน้าที่ทำการไปรษณีย์ การ์ดก็บอกจอดไม่ได้ ฉันกำลังอยู่ในอารมณ์ที่จะหาเรื่องก็ถามหาป้ายห้ามจอดรถซึ่งบังเอิญไม่มี การ์ดบอกว่าหน้าที่ทำการไปรษณีย์ถือเป็นที่ห้ามจอดรถไม่จำเป็นต้องมีป้ายห้าม ฉันก็ว่าถ้างั้นฉันก็จะไม่เข้าทำงานเพราะมาแล้วแต่ถูกห้ามไม่ให้เข้าที่ทำงาน การ์ดก็ว่าคนเข้าได้แต่รถเข้าไม่ได้ ฉันก็ตอบกลับไปว่า ฉันไปรถก็ไป รถไม่ไปฉันก็ไม่ไป และการที่ฉันไม่ไป ก็หมายความว่าวันนั้นแบงค์จะเปิดให้บริการไม่ได้ เพราะฉันถือรหัสห้องโวล์ท

ขณะที่ยื้อกันอยู่นั้น พวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ทั้งที่ขับรถมาและเดินเข้ามาก็เข้ามาร่วมสมทบให้กำลังใจกันเป็นกลุ่มใหญ่ เมื่อเรื่องกระจายออกไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ก็มีพนักงานทั้งที่เป็นคนไทยและที่เป็นทหารอเมริกันเริ่มตามมาร่วมสมทบจนกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นเพิ่มมากขึ้นทุกทีโดยมีตุ่มเป็นประชาสัมพันธ์ค่อยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น กลุ่มคนไทยที่มารวมตัวอยู่ที่นั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เป็นไทยมุงพอรู้เรื่องต่างก็แสดงความไม่พอใจกลายเป็นปฏิกิริยาของกลุ่มคนไปอย่างรวดเร็ว บางคนถึงขั้นตะโกนว่าที่นี่ประเทศไทยนะโว๊ย ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร คิดจะตั้งกฎตั้งเกณฑ์อะไรกันก็ตั้งกันง่าย ๆ ได้อย่างไร

เซ็คเคียวริตี้การ์ดและไทยการ์ดเห็นท่าไม่ดีก็รีบวิทยุเรียกกำลังหนุนมาเพิ่มอีกหลายคนเพื่อควบคุมสถานะการณ์ จนในที่สุดเมื่อ มร.วูลฟ์ บร้านซ์ซุปเปอร์ไว้สเซอร์มาถึง ฉันซึ่งตกกระไดพลอยโจนถอยไม่ได้อีกแล้วและพวกเพื่อน ๆ ทุกคนแม้แต่พวกที่เข้าไปในที่ทำงานแล้วต่างกลับออกมารวมตัวกันอยู่ในจุดที่เกิดเหตุทั้งหมด ต่างก็ยืนกรานว่า หากไม่ยอมให้พนักงานธนาคารนำรถเข้าไปจอดยังที่ซึ่งเคยจอดทุกวันพนักงานทุกคนของธนาคารก็จะไม่เข้าทำงาน

เหตุที่เกิดขึ้นนี้คล้าย ๆ จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวซึ่งสถานะการณ์ได้ชักนำให้ฉันกลายเป็นผู้นำม๊อบในการชุมนุมของพนักงานแบงค์ในเช้าวันนั้นไปโดยมิได้ตั้งใจหรือเตรียมการมาก่อนแต่อย่างใด ร้อนถึง มร.เบลค ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของธนาคารในขณะนั้น ต้องต่อสายด่วนพูดโทรศัพท์กับผู้บังคับการฐานทัพ จนในที่สุดก็ตกลงยอมให้พนักงานธนาคารสามารถนำรถเข้าไปจอดยังที่เดิมได้ตามที่เคยเป็นมา เรื่องก็เลยจบลง ส่งผลให้ธนาคารเปิดบริการได้ช้าไปถึงกว่าหนึ่งชั่วโมงในเช้าวันนั้น

จากคุณ : แมงฯ - [2 ส.ค. 45 03:58:54 A:203.149.40.146 X:]

ความคิดเห็นที่ 2

@^_^@

จากคุณ : ธราธร - [2 ส.ค. 45 05:06:59 A:194.80.32.11 X:10.38.40.120]

ความคิดเห็นที่ 3

เลยได้เป็นผู้นำม็อบย่อยๆ :) ได้ยินชื่อหนองประจักษ์จากเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว มาเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ

จากคุณ : scottie - [2 ส.ค. 45 08:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4

มาแล้วๆ โอ้...มาห้ามม๊อบไม่ทัน เป็นเรื่องเลยนะเนี่ย หวังว่าไม่มีเหตุการณ์พลิกผันอีกนะคะ ท่าทางเรือนหอพี่แมงฯจะสนุกสนานดีอยากไปร่วมแกงค์ด้วยจัง งอน..ทิ้งของขวัญกลับอุดรเลยนะคะ เลยไม่รู้ว่าใครให้อะไรเลยสิคะ ใช้ชีวิตสนุกสนานกันดี ใช้ชีวิตคุ้มจังค่ะ

จากคุณ : JW - [2 ส.ค. 45 08:44:25 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 5

“ย่านอีหลีตั๊ว บ่ไปนำดอก” มันแปลว่า อีหยังก๊ะ พี่แมงฯ

จากคุณ : JW - [2 ส.ค. 45 08:45:43 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 6

แหม.. มีบทอัศรรย์ ซะด้วย อย่างนี้เพลงประกอบก็ต้องเป็น Unchained Melody บทเพลงประกอบหนังรักมหัศจรรย์ Ghost ฟังทีไรอยากเป็นช่างปั้นหม้อทุกที.
********
Unchained Melody

Oh! my love, my darling,
I hunger for your touch,
Alone. lonely time.
And time goes by, so slowly,
And time can do so much,
Are you still mine?
I need your love.
I need your love.
God speed your love to me.
Lonely rivers flow to the sea, to the sea,
To the open arms of the sea.
Lonely rivers sigh, wait for me, wait for me,
I'll be coming home, wait for me.

Whoa! my love, my darling,
I hunger, hunger!, for your love,
For love. lonely time.
And time goes by, so slowly,
And time can do so much,
Are you still mine?
I need your love.
I need your love.
God speed your love to me.
********

เย็นๆ จะทำลิ้งค์ให้ดาว์โหลดครับ ตอนนี้มีปัญหากับทางhosting ที่ให้บริการฟรีอยู่ คงต้องหาที่ใหม่อีกแล้ว

จากคุณ : biblio (biblio) - [2 ส.ค. 45 08:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7

แฮ่ม......เจอทีเด็ดพี่แมงกระพรุนเข้าแล้ว

จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [2 ส.ค. 45 09:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ตอนนี้ก็มีทั้งเรืองรักๆ และ บู๊ๆคละเคล้ากันไปเลย ที่จริงชีวิตก็เหมือนหนังเหมือนนิยายเลยนะครับ...ตอนพี่แมงฯแต่งงานผมเพิ่ง 6 ขวบเอง....ขออนุญาตพี่แมงตอบคุณ JW นะครับ แปลข้อความนั้นได้ว่า "มันน่ากลัวมาก ไม่ไปด้วยหรอก"

จากคุณ : พิจิก27 - [2 ส.ค. 45 10:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9

ขอบคุณค่ะคุณพิจิก ช่วงที่พี่แมงฯแต่งงานเนี่ยไม่อยากบอกเลยว่า นู๋น่ะเป็นฟีตัสอยู่ในท้องแม่อยู่อ่ะ กำลังดิ้นตะแหง่วๆ ถีบท้องแม่อยุ่อย่างเมามัน

คุณไบฯ
หนังเรื่องโกสท์เนี่ย เวลาเค้าเอาไปฉายที่ลาวเค้าตั้งชื่อใหม่แปลเป็นไทยว่า --ปั้นหม้อรอผัว--เข้าใจตั้งเนอะ
เดี๋ยวแฟนๆ คงตามกันมาอีกค่ะ

จากคุณ : JW - [2 ส.ค. 45 12:47:57 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 10

สวัสดีค่ะ แหม เมื่อคืนกะว่าจะเข้ามาตีสี่ มาอ่านคนแรกเพราะพี่แมงฯบอกว่าที่เก่าเวลาเดิม แต่ดันผลอยหลับซะได้ ไม่เป็นไร มาช้าดีกว่าไม่มา ร้อยกรอง บทอัศจรรย์ ไม่มีเรื่องไหนกิน ขุนช้างขุนแผน ลงซักที จำได้ว่าเมื่อก่อนอ่านทีไร ให้ขนลุกซู่ ทุกทีไป เสียดายค่ะ หาอ่านอีกไม่ได้แล้ว(เพราะไม่รู้จะไปหาที่ไหน) สโมสรหนองประจักษ์ ดูท่าทางน่าสนุกนะคะ เบลก็เคยไปขลุกอยู่กับเพื่อนๆข้ามวันข้ามคืนเหมือนเพื่อนๆพี่นั่นแหละค่ะ เล่นเกมส์มั่ง เล่นไพ่มั่ง ทำกับข้าวกินกันมั่ง ดึกๆก็ชวนกันออกไปเที่ยว เลิกตีสองตีสาม ขับรถตระเวณหาโจ๊กกินกันต่อ รึไม่ก็นั่งคุยกันต่อยันเช้า ตอนนั้นยังไฟแรงค่ะ ไม่นอนทั้งคืน ยังไปทำงานไหว ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ได้นอนไม่ถึงห้าชั่วโมง ก็ไม่มีแรง เพลียไปทั้งวัน เฮ้อ สังขาร

ฮั่นแน่ พี่แมงฯเริ่มบู๊แล้ว หลังจากที่บุ๋นมานาน Security Guard ที่ว่าตัวใหญ่ๆ เป็นยักษ์ปักหลั่นน่ะเหรอคะ แล้วถ้าวันนั้น มันลงมือลงไม้พี่จะว่าไง แต่เบลเข้าใจอาการ เลือดขึ้นหน้าดีค่ะ เป็นเหมือนกัน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม หัวดำหัวทอง รู้แต่ว่ามันโมโห หุหุ

มาหวัดดี คุณเจด้วยค่ะ ตอน พ.ย.16 เบลก็เป็น Embryo ในท้องแม่เหมือนกันค่ะ เห็นแม่บอกว่าพาเบลไปหลบกระสุนกะเขาด้วยช่วง 14 ตุลา พี่ biblio ขา (ชื่อพี่นี่มาจากคำว่า Bibliothek หรือเปล่าคะ) ขอ Sea of Love ด้วย ที่ร้องว่า Come with me....my love.....to the sea.....the sea of love. I wanna tell woohooo how much I love you..... ไม่รู้มันจะอยู่ในคลังของพี่ป่าว

จากคุณ : Bellissima - [2 ส.ค. 45 14:24:02 A:217.162.80.59 X:]

ความคิดเห็นที่ 11

บทอัศจรรย์ของพระอภัยมณี ยิ่งอีโรติคสุดๆ จำได้ว่าสมัยเรียนหนังสือฉากนี้จะถูกเซ็นเชอร์ จากกระทรวงศึกษาฯ โดยตัดออกไปดื้อๆ พวกอยากรู้อยากเห็นทั้งหลายต้องไปขวนขวายหาอ่านกันเอาเองจากฉบับเต็ม (ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นฉากระหว่างผีเสื้อสมุทรกับพระอภัยฯ) เพลงที่เกี่ยวข้องกับฉากอย่างว่านี้มีมากมายเหลือคนานับ ที่ฮิตสนั่นเมืองถือว่าเซ็กซี่สุดๆ สมัย 30 ปีที่แล้วต้องยกให้เพลงฝรั่งเศสชื่อ 'เชอ แทม' ขออภัยที่เขียนภาษาฝรั่งเศสไม่ถูก เคยเรียนอยู่ 2 ปีปรากฎว่าพูดได้แค่ 2 คำแถมตอนนี้ลืมหมดแล้วอีกด้วย เพลงนี้ฮิตขนาดที่ว่าถูกนำมาประกอบโชว์บทอัศจรรย์แถบพัฒน์พงษ์หรือพัทยาใต้จนถึงปัจจุบันนี้ คุณ biblio ต้องมีเพลงนี้แน่ๆ ขออภัยด้วยครับถ้าจำหรือเขียนชื่อเพลงผิด ส่วนเพลงที่คุณเบลขอชื่อ 'Sea of Love' ร้องโดย Robert Plant อดีตนักร้องนำ Led Zepplin ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าร้องในนามวงใหม่ชื่อ The Advanture ครับ (ผิดพลาดขออภัย รบกวนผู้รู้จริงช่วยกรุณาแก้ไขด้วยครับ)

จากคุณ : มูโจ้ - [2 ส.ค. 45 17:05:07 A:203.144.143.254 X:203.144.134.138]

ความคิดเห็นที่ 12

ทักทายน้องๆทุกคนค่ะ ^__^ กระหืดกระหอบมาลงชื่อก่อนไปทำงานวานนี้อ่านแล้วโวตแล้ว ว่าจะมาคุย แต่หลับไปเสียก่อน ขอก๊อบความเห็นคุณมูโจ้ทีเดียวค่ะ เพราะตรงใจเปี๊ยะเลย และแถมว่า สมัยเรียนบทอัศจรรย์นั้นไม่เข้าใจจริงๆ ตอนนั้นอยู่มอห้ามอหกโบราณ ทั้งๆที่ได้คะแนนวรรณคดีเฉียดๆเต็ม วิจารณ์เป้นคุ้งเป็นแคว แต่ไม่"get"ความนัยเลยค่ะ เคยถามคุณครูด้วย ว่าทำไมอากาศหรือสิ่งแวดล้อมมันต้องแปรปรวนไปในทันใด แต่ไม่มีคำตอบ เฮอะๆ...มาตอบได้เองตอนรู้เดียงสาแล้วววว เพลงเชอแทมนั้น เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ยังมีเทปอยู่เลยตอนนี้ แต่จำได้ว่า เพลงนี้ถูก "แบน" ไม่ให้ออกอากาศด้วยน่ะค่ะ น้องศุภามาเล่าเรื่องเพลง Unchained Melody หน่อยได้ไหมคะ พี่ว่าอายุเพลงมันยาวโขอยู่นะคะ สมัยเรายังเด็กโน่น

ขอคุณพระคุ้มครองสุขภาพคุณแมงฯตลอดค่ะ




จากคุณ : ปราณ - [2 ส.ค. 45 18:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13

“แม่โขงซาวเออร์” อืมม์ จะลองทำกินดู

จากคุณ : GTW - [2 ส.ค. 45 18:51:06 A:202.133.172.43 X:]

ความคิดเห็นที่ 14

นึกว่าจะใช้บทอัศจรรย์ของขุนแผนกับนางพิมตอนที่หนีขุนช้างไปแล้วซะอีก

จากคุณ : Licht (Miran) - [2 ส.ค. 45 19:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15

แควกๆๆ (เสียงหน้าแหก) สังหรณ์ใจอยู่แล้วว่ามันไม่น่าจะใช่ The Advantures ถึงได้ออกตัวขออภัยไว้ก่อน แต่เพราะรีบจะกลับบ้านเลยไม่มีเวลาคิดนานต้องใส่ไปก่อน ชื่อมันติดอยู่ตรงริมฝีปากแต่ไม่ยอมหลุดออกมา พอกลับถึงบ้านกินข้าวซะหนึ่งอิ่มถึงระลึกขึ้นมาได้เองว่าชื่อวงของ Robert Plant ที่ใช้ตอนร้อง 'Sea of love' ที่ถูกคือ 'The Honey Drippers' ครับ ขอประทานโทษที่ให้ข้อมูลผิดพลาด คุณเบลกับดุณบิ๊บคงจะทราบอยู่ก่อนแล้วนะครับว่าข้อมูลผมผิดพลาด

ขอบคุณพี่หมอปราณครับที่กรุณาเห็นด้วย ถึงจะเรียนวรรณคดีเล่มเดียวกัน แต่ผมคงเป็นรุ่นท้ายๆ แล้วครับเพราะยังหนุ่มอยู่มาก นี่ไม่ได้ว่าพี่อายุมากนะครับ อย่าเข้าใจผิดดูจากสำนวนก็พอเดาได้ว่าพี่ยังสาว และสวยด้วย

จากคุณ : มูโจ้ - [2 ส.ค. 45 23:49:42 A:203.144.143.254 X:203.144.134.90]

ความคิดเห็นที่ 16

ตอบน้องเจแทนพี่แมงกระพรุน คำที่ถามน่ะแปลว่า "กลัวจริงๆเลย ไม่ไปด้วยหรอก" อะไรทำนองนี้หมูแดงชอบวิธีเขียนของพี่แมงกระพรุนตรงที่เอากลอนมาบรรยายแทนไปด้วยน่ะค่ะ มันฟังดูแล้วสละสลวยกว่าจะบรรยายกันโต้งๆนะคะ สังเกตอะไรกันมั๊ยคะว่าพักนี้กระทู้พี่แมงกระพรุนมีคนเข้ามาแจมเยอะแล้วนะ เป็นนิมิตรหมายที่ดีนะคะ ตอนแรกๆนั่นมีแต่คนอ่านแต่ไม่ได้คุยอะไร พักหลังๆนี่ชักจะมีมิตรรักแฟนเพลงมาเยอะแล้ว สนุกดีจังเลยค่ะ ได้อ่านเรื่องสนุกๆ แล้วยังมีเพื่อนด้วย

จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [3 ส.ค. 45 00:51:37 ]
ความคิดเห็นที่ 17

บทอัศจรรย์นี่ ตอนผมเรียนมัธยมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่ามันเกี่ยวกับ เนื้อหายังไง ... จำได้ว่า มีเพื่อนร่วมชั้นที่แก่แดดขอให้อาจารย์วรรณคดีไทย (ที่ยังสาวมาก) ช่วยอธิบายให้ฟัง เพราะรู้สึกว่าอาจารย์พออ่านถึงตอนนี้ ท่านก็ข้ามไปดื้อ ๆ และไม่เข้าใจว่าท่านหน้าแดงทำไม .. โตขึ้นถึงค่อยเข้าใจว่าบทแบบนี้ หมายถึงอะไร ... อิอิ

พี่หมอปราณมีความจำแม่นยำจังเลยครับ เพลง "Unchained Melody" ที่คุณ biblio เอ่ยถึงเป็นเพลงเก่ามาก นักแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์รุ่นยุคทองของ Hollywood ชื่อ Alex North เป็นคนแต่งทำนอง Hy Zalek เป็นคนแต่งเนื้อ ใช้ประกอบหนังปี 1955 เรื่อง "Unchained" ซึ่งไม่มีใครจำได้แล้วว่าเนื้อเรื่องเป็นอย่างไง แต่เพลงนี้ได้รับความนิยมมาก มีหลายเวอร์ชั่นด้วยกันครับ เฉพาะปี 1955 ปีเดียว มีเวอร์ชั่นของ Les Baxter and His Orchestra and Chorus ติด Billboard อันดับหนึ่ง ... ของ Al Hibbler ติดอันดับสาม ... ของ Roy Hamilton ติดอันดับ 6 ... และ ของ June Valli ติดอันดับ 29 ... แล้วก็มาขึ้น Billboard อีกครั้งจากเสียงของ The Righteous Brothers เมื่อปี 1965 ซึ่งติดอันดับ 4 ถ้าผมจำไม่ผิด เวอร์ชั่นที่มาใช้ในหนังเรื่อง Ghost (1990) เป็นเวอร์ชั่นอันหลังสุดนี่แหละครับ ตอนนี้ผมมีปัญหาเดียวกับคุณ biblio .. upload ไฟล์เข้า site ของฟรีไม่ได้ ม่ายงั้นจะนำเพลงนี้ไว้ไห้ d/l มาฟังกันครับ (:

จากคุณ : ศุภา - [3 ส.ค. 45 04:21:20 A:65.25.245.150 X:]

ความคิดเห็นที่ 18

อ่านตอนที่ 1-37 ได้ที่ลิงค์

http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1652212/W1652212.html

---พรุ่งนี้จะไปพักที่บ้านญาติบนเขา สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ

จากคุณ : JW (Chelsey) - [3 ส.ค. 45 13:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19

ของฝาก ลิงค์ หอมรดกไทย มีเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน และรามเกียรติ์ ฯลฯ http://www.heritage.thaigov.net/

มีรูปประกอบด้วยค่ะ แต่เค้าเซนเซอร์บทอัศจรรย์น่ะค่ะ--ว้า....

จากคุณ : JW (Chelsey) - [3 ส.ค. 45 13:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20

มาอ่านต่อค่ะ แหะ แหะ ตอนนี้บทอัศจรรย์เพียบ แหะ แหะ ^^"

จากคุณ : - โอ้โฮ - - [3 ส.ค. 45 13:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21

ขอโทษทุกท่านที่ทำให้รอครับ พอดีเน็ตดาวน์ไปเกือบวัน ด้านล่างคือ Unchained Melody และ Sea of Love ที่ขอครับ http://www.angelfire.com/mac/enfers/Sea_of_Love.mp3
http://www.angelfire.com/mac/enfers/UNCHANED_MELODY_The_Righteros_Brothers.mp3
Unchained Melody เป็นเวอร์ชันของ The Righteous Brothers รายละเีอียดตามที่คุณศุภาบอก ส่วน Sea of Love เป็นเวอร์ชันของ Robert Plant วง HoneyDrippers รายละเอียดตามที่คุณมุโจ้บอกเช่นกัน ตอนนี้ยังหาโฮสต์ฟรีดีๆ ไม่ได้ ก็เลยเล่นวิธี "ดื้อตาใส" ใช้ที่เดิม แต่เปลี่ยนชื่อไปก่อน ด้วยเหตุนี้ ใครที่เข้ามาทีหลังอาจจะโหลดไม่ได้นะครับ.

จากคุณ : biblio - [3 ส.ค. 45 21:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22

น้องเจขา ขอบคุณมากค่ะ น้องศุภา กรุณาได้ทันใจดี ขอบคุณจริง..จริงค่ะ และขอบคุณคุณ biblio ค่ะ (...ไม่เคยมีคำว่า ไม่มี หรือ หาไม่ได้จากคุณ biblio นะคะ ^__^) ขอหยิกแก้ม(เบาๆ..)น้องมูโจ้ "ผู้ยังหนุ่มมาก"นิดนึงค่ะโทษฐานแซวคนแก่จัด อิ..อิ...

จากคุณ : ปราณ - [3 ส.ค. 45 22:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23

++คุณหมอปราณ:
นอกจากจะฉีดยาเก่งแล้วท่าทางคุณหมอจะหยิกเก่งอีกด้วย..แฮ่ม
------------
++คุณ biblio:
ขอบคุณครับ สำหรับทุกเพลง แอบคลิ๊กขวา เซฟแอ๊ส ไว้ได้ครบทุกเพลงแล้ว..ยกเว้น Love Story..ขัดข้องทางเทคนิคยังต้องเอาแผ่นมาเสียบฟังอยู่
------------
++คุณโอ้โฮ:
เพียบแพบที่ไหน..แค่ครั้ง เอ๊ย บทเดียวเอง
------------
++น้องเจย์:
ขอบคุณสำหรับลิงค์นะจ๊ะหาเก่งจัง อันนี้ก็ไม่เลวสำหรับผู้ที่สนใจ http://www.seasite.niu.edu/Thai/
------------
++คุณศุภา:
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลที่น่าตื่นใจ เชื่อแน่ว่าพวกเราหลายคนคงได้ประโยชน์ วันหน้าถ้ามีของดีดีจะแชร์กันอีกเชิญใหม่นะครับ
------------
--คุณหมูแดงจ้ะ:
Birds of feather, flock together.
------------
++คุณมูโจ้
เอาไปสองนิ้วโป้งเลย สำหรับมุขหักมุมจีบหมอกลางอากาศ ขอยืมนะ
------------
--คุณ Licht (Miran):
ความรู้สึกสำหรับอะไรก็ตามที่เป็นครั้งแรกย่อมพิเศษกว่าครั้งหลัง ๆ เสมอ
------------
++คุณ GTW:
กินอร่อยนะครับ แต่ระวังเมาแบบไม่รู้ตัว
------------
++คุณหมอปราณ (อีกครั้ง)
ขอบคุณสำหรับพรครับ รับพรของคุณหมอตามสั่ง สามมื้อก่อนอาหาร (ขอเป็นหลังอาหารดีกว่า เพราะพรหรือยา "ก่อนอาหาร" ลืมกินทุกที) จนเกือบจะหายแล้วละครับ
------------
++คุณมูโจ้ (อีกครั้ง)
คำภาษาไทยนี้สละสลวยนัก เสียดายที่สมัยนี้ไม่ยอมใช้คำว่า "บทอัศจรรย์" กัน กลับไปใช้คำทื่อ ๆ ที่ว่า บทรัก กันเสียหมด
------------
คุณ Bellissima:
ติดพี่แมงฯ หนึ่งครั้งละนะ หลอกให้รอซะขาแข็งไปเลย
------------
น้องเจย์ (อีกครั้ง)
เรื่องไททานิคก็เด็ด ลาวตั้งชื่อว่า "ชู้รัก..เรือล่ม"
------------
++คุณพิจิก27:
เห็นด้วยครับ นิยายส่วนมากก็อาศัยแกะเอามาจากเรื่องจริงนั่นแหล่ะเนาะ ใส่โน่นนิด เติมนี่หน่อยเพิ่มสีสรร ให้อ่านสนุก
------------
++คุณนิดนิดหน่อยหน่อย:
แหม น่าจะบอกด้วยว่าใครกันที่เจอทีเด็ด การ์ดหรือตุ่ม
------------
++คุณ biblio:
โล่งใจไปที จะได้ไม่ต้องแย่งกัน เพราะแมงฯ อยากเป็นแจ๊กแฟนช่างปั้นหม้อ
------------
++น้องเจย์ (อีกแล้ว)
ยอมรับว่าช่วงนั้นเป็นครีมในชีวิตจริง ๆ คิดถึงเมื่อใดก็มีความสุขเมื่อนั้น สนุกจริง ๆ
------------
++คุณ scottie:
หนองประจักษ์เป็นหนองน้ำธรรมชาติ อยู่กลางใจเมืองอุดร น้ำในหนองใช้ทำน้ำประปาด้วยนะ เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้ว แต่ก่อนเป็นธรรมชาติกว่าแต่ไม่น่าดูเท่าเพราะหญ้าขึ้นเต็ม
------------
++คุณธราธร:
ยิ้มเก่งแบบนี้..รับรองได้ว่าต้องเคยประกวดนางงาม

จากคุณ : แมงฯ - [4 ส.ค. 45 04:53:41 A:203.155.230.42 X:]
ความคิดเห็นที่ 24

ผู้นำม็อบ You are so brave. ^_^

จากคุณ : Lazy Genius - [4 ส.ค. 45 21:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25

อิอิ...เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ค่ะ ห้ามสามีภรรยาทำงานในหน่วยงานเดียวกันของธนาคาร แต่ถ้าย้ายไปคนละหน่วยงาน ก็ไม่เป็นไรค่ะ :)

จากคุณ : โคอาร่า - [5 ส.ค. 45 13:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26

เคยได้ยินเพลง "หนองประจักษ์" ค่ะ ไพเราะมาก แล้วก็ “แม่โขงซาวเออร์” อยากลองทำดูค่ะ...จะแอบขโมยสูตร

จากคุณ : ริมเส้นขอบฟ้า - [5 ส.ค. 45 13:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 27

^-^

จากคุณ : T.time - [5 ส.ค. 45 16:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28

พอดีแวะกลับมาดูอีกรอบเห็นคุณ มุโจ้กล่าวถึงเพลง Je T’aime เลยอัพโหลดขึ้นไปให้ฟัง เพลงที่ขึ้นต้นด้วย Je T’aime (ผมรักคุณ) นี้มีหลายเพลงนะครับ ที่ถือว่าเป็นที่รู้จักก็ Je T’aime …. moi non plus ที่ออกจะติดเรทไปสักนิด ของ Jane Birkin & Serge Gainsbourg ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ กับอีกเพลงคือ Je T’aime ของ Lara Fabian ที่ฟังออกป็น ballad นิดๆ คาดว่าเวอร์ชั่นที่นำไปเปิดตามพัฒพงษ์นั่นคือเวอร์ชันแรกครับ พูดถึงเพลงฝรั่งเศสนี่ ยังมีอีกเพลงที่เป็นที่สุดในใจของผมอยู่ เก็บไว้มีโอกาสเหมาะๆ จะโพสต์ให้ฟังกัน.

http://www.angelfire.com/mac/enfers/Lara_Fabian_Je_t_aime.mp3
http://www.angelfire.com/mac/enfers/Jane_Birkin___Serge_Gainsbourg_Je_t_aime_Moi_Non_Plus.mp3

มีของแถม - เนื้อเพลงพร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ ของเวอร์ชัน Lara Fabian นะครับ เนื่องจากเวอร์ชันแรกไม่ค่อยมีเนื้อเท่าไหร่

http://www.angelfire.com/mac/enfers/Je_T_aime.doc

จากคุณ : biblio - [5 ส.ค. 45 19:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29

โอ๊ย เจ็บแก้ม สิวหนุ่มหลุดติดมือพี่หมอปราณไป 1 เม็ด ขอบคุณ คุณ biblio มากๆครับ สมกับฉายาเจ้าพ่อเพลง link จริงๆ สงสัยต้องเป็น DJ หรือไม่ก็เจ้าของร้านเทปแน่ๆ เลย

จากคุณ : มูโจ้ - [6 ส.ค. 45 11:32:14 A:203.144.143.254 X:203.144.134.242]
ความคิดเห็นที่ 30

ตอนนี้แฟนๆๆ ของคุณแมงกระพรุน เยอะไปหมดเลยครับ ขอถามอีกนิดครับ หาก จะฟังเพลงที่อยู่ในกระทู้ต้องทำอย่างไร หลังจาก click เข้าไปแล้ว เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องครับ ขอบคุณครับ
ทอม

จากคุณ : ทอม - [7 ส.ค. 45 08:46:23 A:203.152.50.81 X:]

ความคิดเห็นที่ 31

สวัสดีแทนพี่แมงฯ ครับ คุณทอม ขออนุญาตตอบแทนพี่แมงฯ ที่ไม่ว่าง กำลังหาบทอัศจรรย์ใหม่ๆ มาฝากพวกเราอยู่ สงสัย link ของคุณบิ๊บจะมีปัญหาครับเพราะผมก็เข้าไปดาวน์โหลดเพลงไม่ได้เหมือนกัน ต้องรบกวนให้เจ้าของ site คือคุณบิ๊บช่วยเช็คละครับ

จากคุณ : มูโจ้ - [7 ส.ค. 45 11:44:09 A:203.144.143.254 X:203.144.134.116]

ไม่มีความคิดเห็น: