วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2551

เรื่องของฉัน ตอนที่ 36

ตอนที่ 36

ไอ้วีจอมเจ้ากี้เจ้าการลากข้อมือตุ่มมานั่งลงข้าง ๆ ฉันแล้วปั้นจิ้มปั้นเจ๋อพูดขึ้นว่า “เอ้า..มีอะไรก็คุยกันไป” ก่อนที่จะหันกลับไปชงเหล้าแก้วใหม่ให้กับตัวเองเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่ฉันนึกแช่งชักหักกระดูกมันอยู่ในใจเพราะตั้งตัวไม่ทันนึกไม่ถึงว่ามันจะเล่นไม้นี้นั้น มันก็พยักเพยิดชวนพรรคพวกที่นั่งล้อมวงกันอยู่เดิมให้เข้าไปข้างเสียไวไวในเพื่อ “ปาโบว์” ปล่อยให้ฉันนั่งอยู่กับตุ่มเพียงสองคน คืนนั้นหากพวกมันเข้าไปเล่นโบว์กันจริง ๆ ก็ต้องถือว่าเป็นการเล่นโบว์ที่เงียบที่สุดเท่าทีเคยเป็นมาเพราะได้ยินเพียงเสียงหัวร่อกันคิกคักอยู่ข้างในไม่มีเสียงโห่ฮาป่าเหมือนการเล่นโบว์ปกติ สักพักก็ได้ยินเสียงไอ้ตุ๊แบงค์ร้องเพลงขี้เมานำขึ้นในห้องว่า “เอ้า..ตามองตา สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่านหัวใจ..จะว่ารักหรือก็ไม่รัก ฯลฯ”

เรานั่งเป็นใบ้ไม่ได้พูดอะไรกันอยู่ครู่หนึ่ง ตุ่มก็ถามฉันขึ้นมาเบา ๆ โดยไม่มองหน้าว่า “เกิดบ้าอะไรขึ้นมาล่ะ” ฉันก็ตอบไปเบา ๆ โดยไม่ได้มองหน้าคนถามเหมือนกันว่า “เปล่านี่” จากนั้นเราสองคนก็มิได้พูดอะไรกันอีกได้แต่นั่งเป็นเบื้อใบ้อยู่อย่างนั้น สักพักไอ้พวกในห้องที่ผลัดกันมาแอบเมียง ๆ มอง ๆ เป็นระยะ ๆ คงเห็นว่าไม่มีอะไรตื่นเต้นหวาดเสียวก็เลยค่อย ๆ ทะยอยกลับออกมานั่งประจำที่จนครบองค์ประชุมเหมือนเดิม คุยกันกินเหล้ากินกับแกล้มกันไปเรื่อย ๆ โดยมีฉันและตุ่มถูกดึงเข้าไปร่วมในหัวข้อสนทนาเป็นช่วง ๆ จนเวลาล่วงเลยไปดึกโข ในที่สุดไอ้วีซึ่งเข้าใจว่าแอบสังเกตปฏิกิริยาของเราทั้งสองอยู่นานก็เสนอความเห็นขึ้นว่า “โป๋พาตุ่มไปส่งบ้านก่อนดีไหม ท่าทางจะง่วงแล้วมั๊ง”

ฉันยังคงโอ้เอ้ไว้เหลี่ยมอยู่พักใหญ่กว่าจะลุกขึ้นได้ ขับรถออกมาจากบ้านทวีได้สักพัก ตุ่มซึ่งรอจังหวะให้ฉันเปลี่ยนเกียร์จนครบชุดแล้วก็กลั้นใจเอื้อมมือมาดึงมือฉันไปบีบกุมไว้ ในความเงียบงันนั้นฉันก็ได้แต่ทึกทักเดาเอาเองว่านั่นคือการ “ขอโทษ” สำหรับอะไรก็แล้วแต่ที่ทำไปโดยไม่รู้ตัวจนเป็นเหตุให้ฉันมึนตึงเอา แต่แค่เพียงการกระทำง่าย ๆ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงพลังอันล้ำลึกที่ถ่ายทอดจากใจสู่ใจ ทำให้ความคันเคืองใจที่มีอยู่มลายหายไปจนสิ้น นั่นเป็นสัญญาณที่ฉันถือว่าเป็นสัญญาทางใจว่าตุ่มตกลงที่จะร่วมหัวจมท้ายฝ่าฟันอุปสรรค์แห่งชีวิตซึ่งเพิ่งจะเริ่มต้นกับฉันต่อไป

ส่วนป๋านั้นเมื่อทิ้งระเบิดด้านมาหนึ่งลูกแล้วก็ยอมอ่อนข้อลงชั้นหนึ่งลงทุนออกค่ารถให้แม่กับนายปั้นลงทุนนั่งรถทัวร์มาเยี่ยมฉันกับตุ่มถึงที่อุดรเพื่อ “ดูให้เห็นกะตา” เสียทีว่ามันคบมันอยู่กันอย่างไรเป็นหลายเที่ยว ทุกเที่ยวที่แม่ถามฉันก็คงยืนยันหนักแน่นในความตั้งใจที่จะแต่งงานกับตุ่ม ถ้าทั้งป๋าและแม่ยังเมตตาเห็นว่าฉันเป็นลูกอยู่ก็ให้เตรียมตัวจัดงานแต่งสะใภ้ใหญ่ ในที่สุดแม่จึงรับปากว่าจะพูดกับป๋าให้อีกที

การดำเนินการหลังจากฉันกับตุ่มตกลงใจว่าจะแต่งงานกันแล้วเป็นไปโดยไม่มีการวางแผนแต่ก็ราบรื่น เริ่มตั้งแต่ฉันแจ้งยืนยันความตั้งใจให้ป๋ากับแม่ได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ทั้งคู่ขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอตุ่ม ป๋ายังสงวนท่าทีไม่ยอมขึ้นมาเองโดยอ้างว่าติดงานแต่ก็ยอมจ่ายสตางค์ค่ารถส่งแม่มาเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจเต็ม การเจรจาสู่ขอผ่านไปได้ด้วยดี พ่อเทพเรียกสินสอดเป็นพิธีเป็นเงินสองหมื่นบาทกับแหวนหมั้นอีก 1 วง ซึ่งอยู่ในวิสัยที่ฉันจะจัดหามาได้ด้วยตัวเองไม่ต้องไปอ้อนวอนขอเอาจากป๋าเหมือนที่เคยเป็นมา ตุ่มมาเล่าให้ฟังในภายหลังว่าเงินสองหมื่นที่เรียกนั้น พ่อเทพเอาไปใช้หนี้ที่ติดยี่ปั๊วที่ห้าแยกไว้เสียหมื่นหนึ่ง ที่เหลืออีกหมื่นเอาไปเลี้ยงพระเลี้ยงแขกในวันแต่งงานจนหมดสิ้นจึงไม่เหลือเข้าพกเขาห่อหรือเหลือคืนมาเป็นเงินขวัญถุงให้กับฉันและตุ่มแต่อย่างใด

พวกผู้ใหญ่ตกลงกันว่าจะให้เราสองคนหมั้นหมายกันไว้ก่อน ไปโน่นมาไหนด้วยกันลำพังสองคนจะได้ไม่น่าเกลียดเพราะสังคมไม่ว่าจะสังคมไหนก็ย่อมมีคนปากหอยปากปูปะปนอยู่ทั่วไปฉันกับตุ่มก็ไม่เว้น ขนาดไม่เคยเป็นพิษเป็นภัยกับใครเลยยังมีข่าวไม่เป็นมงคลจากผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายลอยลมมาเข้าหูอยู่เนือง ๆ ผู้ใหญ่จึงเห็นควรให้เราสองคนหมั้นกันไว้ในเดือนพฤษภาคมกะกันว่าจะได้ใช้เวลาที่มีเตรียมงานสักกันสักห้าหกเดือนแล้วค่อยมาแต่งกันในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน

แหวนหมั้นที่ฉันใช้หมั้นตุ่มเป็นแหวนที่เราไปเลือกซื้อหามาด้วยกันด้วยกันจากร้านขายทองแห่งหนึ่งแถวหน้าโรงพัก ตัวเรือนแหวนเป็นทองคำขาว มีเพชรเม็ดเล็กจิ๋วมากอยู่ตรงกลางหนึ่งเม็ดเป็นเพชรเศษสตางค์กี่สตางค์ก็จำไม่ได้เสียแล้ว รอบ ๆ เพชรเม็ดจิ๋วที่ว่านี้ ยังมีเศษเพชรเม็ดจิ๋วลงไปอีก ล้อมรอบเป็นรัศมีคล้าย ๆ กงจักร ราคาแหวนวงนี้ที่ซื้อมาในขณะนั้นตกประมาณห้าพันกว่าบาทเท่านั้น

ด้วยความที่ตุ่มเป็นผู้หญิงที่ออกแนวบู๊โลดโผน แหวนหมั้นวงนั้นจึงมีคุณค่าเพียงเป็นสัญลักษณ์ตามค่านิยมแห่งสังคม มิได้มีประโยชน์ในแง่ของการเป็นเครื่องประดับอันจะสามารถนำมาโอ้อวดกันในวงเสวนาโดยใช้มูลค่าแห่งวัตถุนั้นเป็นมาตรวัดปริมาณของสิ่งซึ่งเป็นเพียงความรู้สึกอันเป็นนามธรรม ซึ่งแท้ที่จริงแล้วไม่สามารถวัดได้ด้วยมาตรหรือขนาดราคาของวัตถุธาตุใดใดทั้งสิ้น อนึ่ง โอกาสที่ตุ่มจะแต่งตัวสวยใส่แหวนเพชรกรีดกรายไปอวดใครนั้นก็เกือบไม่มีเอาเสียเลย

ในช่วงที่ฉันทำงานอยู่อุดรมีเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพรุ่น ๆ เดียวกันสละโสดแต่งงานกันหลายราย ฉันกับตุ่มก็จะพากันขับรถลงมางานแต่งงานทุกงานที่ส่งบัตรเชิญมาโดยจะออกจากอุดรตอนสาย ๆ ของวันงานกะให้ถึงกรุงเทพตอนค่ำเพื่อจะได้ไปร่วมงานได้เลยไม่ต้องแวะพักให้รุ่มร่ามวุ่นวายที่ไหน ตุ่มจะเอาชุด “ออกงาน” แขวนไว้ที่หลังรถ ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนขับรถมากับฉัน พอถึงหน้างานก็มุดไปหลังรถใส่ชุดออกงานทับชุดเดินทางกางเกงยีนไปเลย อย่างมากก็แค่พับขากางเกงขึ้นมาหน่อยไม่ให้โผล่ หน้าตาไม่เคยแต่งเอาแป้งเด็กลูบ ๆ พอให้หายมันเสียหน่อยก็เป็นอันใช้ได้ พองานเลิกก็มุดกลับเข้าไปในรถ ถอดชุดออกขับรถกลับอุดรกันไปถึงตอนเช้า ๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อไปทำงานต่อกันเฉยเลย

นับจากวันหมั้นที่ฉันบรรจงสวมแหวนให้แล้วตุ่มก็ถอดเก็บคืนมาให้ฉันเก็บเอาไว้เพื่อใช้ในวันแต่งงานอีกที หลังแต่งงานก็ถอดเก็บไว้ในกำปั่นจนเกือบลืมเลื่อนไป กลับมาเป็นประโยชน์ช่วยกู้หน้าเราไว้ได้ก็เมื่อตุ่มตัดสินใจควักมันออกจากกำปั่นมาขายหน้าตาเฉย เพราะเราหมุนเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดไม่ทันทำให้ไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมโรงเรียนอนุบาลของ ”ปอง” ลูกชายคนหัวปี เราทั้งคู่ต่างก็หยิ่งทะนง แม้จะจนจะอดก็จนก็ขออดอย่างเสือ ไม่ต้องการที่จะบากหน้าไปขอเงินจากใครให้เขาดูถูกดูแคลนเอา

วันที่เป็นฤกษ์แต่งงานของฉันกับตุ่มเป็นวันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2516 ก่อนจะถึงวันงานก็เป็นการเตรียมการพื้น ๆ แบบงานแต่งงานทั่ว ๆ ไป เช่นหาสถานที่ หาวงดนตรี หาเสื้อผ้า พิมพ์การ์ดเชิญและหาของชำร่วย เรื่องของชำร่วยนี้ป๋าลงมาช่วยเต็มตัวเมื่อฉันออกปากว่าอยากได้ของชำรวยที่แปลกแหวกแนวและไม่ซ้ำแบบใคร ป๋าเป็นคนที่แนะขึ้นว่าน่าจะแจกแผ่นเสียง แล้วพาฉันนั่งรถไปยังโรงงานผลิตแผ่นเสียง ศรีกรุง สมัยนั้นอยู่แถว ๆ ซอยอโศก ป๋ามีคนรู้จักอยู่ที่นั่น เขาหยิบแผ่นเสียงที่เรียกกันว่าแผ่น “ดีมอน” ออกมาให้ฉันดู เป็นแผ่นเสียงที่มีขนาดเล็กที่สุดที่ฉันเคยเห็น มีเพลงไทยสากลบันทึกไว้ด้านละ 1 เพลง เล่นเป็นเพลงได้จริงหากมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่หมุนได้ 33 รอบต่อนาที เมื่อฉันเห็นก็ชอบตัดสินใจตกลงทันที แม้ว่าราคาแผ่นเสียงและซองสีชมพูสดใสที่พิมพ์ชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวและวันที่แต่งงานเรียบร้อยถือว่าแพงมากในสมัยนั้นโดยมีราคาตกถึงชุดละ 35 บาทก็ตาม

ฉันตกลงกับป๋าและแม่ว่างานแต่งในส่วนที่เป็นพิธีท้องถิ่นและพิธีศาสนารวมถึงการเลี้ยงฉลองจะทำที่อุดรทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ป๋ากับแม่ได้ขอฉันและตุ่มมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงฉลองงานแต่งงานอีกครั้งหนึ่งที่กรุงเทพ ซึ่งกำหนดให้จัดขึ้นที่ราชกรีฑาสโมสร ฉันก็ยินยอมโดยดีด้วยเห็นว่ายังมีเพื่อนฝูงที่กรุงเทพอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สะดวกที่จะไปร่วมฉลองกับฉันและตุ่มที่อุดรได้ ในขณะที่ป๋าและแม่ก็จะได้ภาคภูมิที่ได้แต่งลูกชายคนหัวปี แม้ว่าจะไม่เป็นปลื้มและคุยได้เต็มปากเต็มคำเท่าใดนักเมื่อมีคนถามเกี่ยวกับลูกสะใภ้ แต่ก็เป็นโอกาสอันดีที่ป๋าและแม่จะได้ “ถอนทุน” คืนเสียบ้าง เพราะตั้งแต่เข้าสปอร์ตคลับมา ทั้งคู่ก็เสียเงิน “ช่วยงาน” ต่าง ๆ ของคนในวงการไปหลายสตางค์

ป๋ามาบอกฉันในภายหลังว่า “งานนี้คุ้ม” เพราะเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ยังเหลือเงินช่วยงานอีกเป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งยังสามารถล้างบัญชีลูกหนี้ที่ป๋าตั้งฉันเป็นลูกหนี้ไว้ เมื่อคราวให้เงินสองหมื่นมาซื้อรถซันนี่ได้อีกด้วย แต่ด้วยเหตุใดไม่ปรากฏฉันกับตุ่มไม่ได้เงินช่วยงานที่เหลือนั้นมาเป็นเงินขวัญถุงแต่อย่างใดเช่นกัน

(อ๊ะ..อ๊ะ อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย..ชำเลืองดูข้างล่างนิด มีต่ออีกหน่อยด้วยละ)
จากคุณ : แมงกะพรุน - [19 ก.ค. 45 02:48:27 A:203.149.39.227 X:]

ความคิดเห็นที่ 1
งานแต่งงานที่อุดรสำเร็จลุล่วงไปด้วยความช่วยเหลือของญาติพี่น้องของตุ่มและเพื่อน ๆ ทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือ จนถึงในคืนวันสุกดิบ จำได้ว่าฉลองการสละโสดเสียจนเกือบไม่มีใครรวมทั้งตัวฉันซึ่งเป็นเจ้าบ่าวได้หลับตานอนกันเลย ตามที่นัดหมายกันไว้ ฉันและเพื่อน ๆ ที่ไปงานที่อำเภอเพ็ญจะต้องไปรับรถน้ำแข็งที่หน้าตลาดบ้านห้วยตอนตีสี่ เหตุที่ต้องเอาน้ำแข็งไปจากอุดรเพราะเกรงกันว่าจะไม่มีน้ำแข็งเลี้ยงพระเลี้ยงแขกในตอนเช้าเพราะอำเภอเพ็ญนั้นกันดานนักยังไม่มีแม้กระทั่งโรงน้ำแข็ง

ป๋ากับแม่นั่งรถไฟจากกรุงเทพมาถึงอุดรตั้งแต่วันก่อน ฉันจองห้องให้พักที่โรงแรมเจริญซึ่งเป็นสถานที่จัดเลี้ยงในตอนกลางคืนด้วย นอกจากป๋ากับแม่และพวกเพื่อน ๆ ยังมีแหม่มฝรั่งอีกสองคนที่มาทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่แบงค์อุตส่าห์เบี้ยวงานอ้อนวอนขอติดตามไปดูพิธีแต่งงานของคนไทยด้วยเพราะไม่เคยเห็น แหม่มทั้งสองคนลงทุนนั่งไปบนรถขนน้ำแข็งซึ่งเป็นรถปิ๊กอัพเก่าคร่ำคร่าบรรทุกน้ำแข็งกลบไว้ด้วยขี้เลื่อยเต็มกระบะมีกระสอบเก่า ๆ ปูไว้พอให้นั่งพับขาไปได้ พร้อมกับเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ผู้ชายของสลิดอีกสองสามคนคนที่ฉลองล่วงหน้ากันทั้งคืนจนเมาแประ

เด่นชัยอาสามาขับรถซันนี่ให้ไม่ยอมให้ฉันขับเองโดยอ้างว่าคนจีนเขาถือ มีฉันป๋ากับแม่และทวีนั่งเบียดกันเต็มคันพอดี อ๊อดทอมขี่มอร์เตอร์ไซค์ของทวีมีเพื่อนรุ่นพี่ที่อุตส่าห์นั่งรถไฟมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ถึงอุดรชื่อประดิษฐ์ซ้อนท้าย ตุ๊ไมตรีเกาะท้ายรถแดงแฮนด์ซั่มขีออกเดินทางเป็นขบวนจากอุดรฝ่าอากาศเย็นยะเยียบต้นฤดูหนาวตั้งแต่ตีสี่เพราะต้องการไปถึงอำเภอเพ็ญให้ทันฤกษ์แห่ขันหมากตอนหกโมงเช้าเก้านาที ส่วนตุ่มนั้นแอบดอดไปอบผิวทำผมรออยู่ที่บ้านอำเภอเพ็ญก่อนหน้านั้นแล้ว

พอพวกฉันขโยกขเยกฝ่าทะเลฝุ่นและความหนาวเย็นไปถึงหน้าทางเข้าอำเภอก็มีน้องชายคนรองไปจากตุ่มชื่อมานิจมารอรับขบวนเจ้าบ่าวที่หน้าตลาดเพื่อพาไปตั้งหลักยังบ้านของญาติอีกหลังหนึ่งอยู่ก่อนถึงตัวตลาด บ้านหลังนี้ถูกสมมุติให้เป็นบ้านของเจ้าบ่าว นอกจากมานิจแล้วฉันเห็นพวกหนุ่ม ๆ อีกหลายคนซึ่งดูท่าทางแล้วเห็นได้ชัดเจนว่าแต่ละคนล้วนเมาและไม่ได้นอนมาทั้งคืนยืนคุยกันอ้อแอ้อยู่ ในมือก็มีต้นกล้วยบ้าง ต้นอ้อยบ้าง นอกนั้นก็เป็นพวกต้นไม้ใบหญ้าต่าง ๆ ที่ฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไรบ้างและยังมีอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งสะพายกลองยาวและคล้องโมงจึงรู้ว่ามีขบวนกลองยาวแห่ขันหมากเสียด้วย

จากนั้นก็มีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของตุ่มซึ่งฉันเคยเห็นหน้าแต่จำชื่อไม่ได้มาขอรับเงินสินสอดและแหวนหมั้นเพื่อจะนำไปห่อด้วยผ้าแพรก่อนใส่ลงในขันน้ำพานรอง พอจะห่อเงินก็มีเสียงเถียงกันโล้งเล้งว่าควรจะนับเงินเสียก่อนหรือไม่ แม่ซึ่งเงียบมาตลอดก็พูดเสียงแข็งขึ้นมาว่า “ไม่ต้องนับ ก่อนจะมานี่ก็นับกันมาหลายสิบเที่ยวแล้วเพราะกลัวว่าจะเกิน” ฉันได้ยินก็เสียววูบเพราะรู้ความสามารถของแม่ในเรื่องนี้เป็นอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก ได้แต่นึกภาวนาในใจขออย่างให้มีเรื่องกันเลยยังไม่ทันเริ่มพิธีก็ทำท่าว่าจะมีเรื่องกันเสียแล้ว และคล้ายกับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเป็นใจ เสียงโล้งเล้งทางฝ่ายญาติของตุ่มจึงเงียบลงโดยพลัน

พอได้ฤกษ์หกโมงเก้านาทีขบวนแห่ขันหมากก็เริ่มออกเดินพร้อมกับเสียงโห่ร้องและกลองยาวซึ่งคนตีคนโห่ก็ล้วนเมากันถ้วนหน้า มีป๋ากับแม่ถูกกะเกณฑ์ให้เป็นผู้ถือพานขันหมากเดินนำขบวนซึ่งแม้ว่าจะไม่เมาแต่ทั้งคู่ก็หน้าแดงกล่ำเพราะความเขินอาย เด็ก ๆ ในตลาดทั้งลูกแกว ลูกลาว และลูกจีนต่างพร้อมใจกันแหกขี้ตาตื่นมาแต่เช้าเพื่อพากันมาวิ่งตามขบวนแห่ขันหมากที่นาน ๆ จึงจะมีให้เห็นกันสักทีกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง ตามขนาบข้างขบวนมาด้วยฝูงหมาหน้าตลาดที่วิ่งเชิดหน้าชูหางอย่างเริงร่าพร้อมกับประสานเสียงเห่าหอนเป็นระยะ ๆ คลอไปกับเสียงโห่ของพวกกลองยาวขี้เมา จนพวกขี้เมาเห็นท่าไม่ดีต้องแบ่งกำลังออกส่วนหนึ่งไว้คอยไล่เตะหมาที่ไม่ได้รับเชิญออกไปจากขบวนไป ที่เห็นว่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือเวลาลาวไล่หมาจะร้องกันให้ขรมไปว่า “เสะ เสะ” ไม่ไล่เหมือนไทยที่ร้องว่า “ไป๊” หรือไม่ก็ “ชิ้ว”

กว่าจะเดินถึงหน้าบ้านตุ่มซึ่งที่จริงมีระยะทางประมาณครึ่งกิโลเท่านั้นแต่ต้องเดินตากหน้าผ่านตลาดเช้าซึ่งกำลังติดตลาดกันพอดี ทั้งแม่ค้าและคนที่มาซื้อของจ่ายตลาดก็พากันหยุดซื้อหยุดขาย หันมาปรบมือเข้าจังหวะกองยาวเสียงดังผัวะ ๆ อยู่ทั่วไป ป๋าซึ่งใส่สูทผูกไทอย่างโก้กับแม่ซึ่งใส่ชุดไทยผ้าถุงสำเร็จก็เหงื่อแตกผลักไปทั้งตัว ทั้ง ๆ ที่อากาศยามเช้าหนาวเหน็บ เดาไม่ผิดเป็นอันขาดว่าทั้งคู่ต้องด่าฉันอยู่ในใจที่เป็นเหตุให้ต้องอับอายขายหน้าถึงขนาดนี้ แต่ยังดีที่ทั้งคู่ไหวตัวไม่ชวนพวก “ผู้ดี” ตามมาจากกรุงเทพสักคน ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้จะเอาหน้าเอาตาที่อุตส่าห์สร้างภาพไว้จนสวยหรูไปวางฝากหรือแอบซ่อนไว้ที่ใดดี

พอถึงหน้าร้านเทพศิลป์ซึ่งพ่อเทพเจ้าของและผู้จัดการร้านเห็นว่าวันนี้เป็นวันมงคลจึงประกาศให้หยุดขายของเสียหนึ่งวัน พวกน้อง ๆ ของตุ่มก็พากันนำเอาเข็มขัดนาคบ้างเข็มขัดเงินซึ่งอุตส่าห์ไปหยิบไปยืมของใครมาบ้างก็ไม่รู้ มากั้นเป็นประตูเงินประตูทอง กั้นกันเป็นหลายชั้นจนเงินเปิดประตูที่ฉันเตรียมใส่ซองมาไม่พอจึงต้องขอให้เลิกกั้น ชั้นสุดท้ายก่อนจะเข้าบ้านเจ้าสาว มานิจเอาก้อนหินที่ฉันมารู้เอาทีหลังว่าเป็น “หินเซ่า” หมายถึงหินที่ใช้ก่อเป็นเตาไฟปูด้วยใบไม้มาให้ฉันเหยียบพร้อมกับทำพิธีล้างเท้าให้เจ้าบ่าวเป็นการล้างเท้าที่ฉันเห็นว่าแปลกเพราะล้างได้โดยไม่ต้องถอดรองเท้าและไม่ต้องใช้น้ำเพียงแต่เอาใบซึ่งหากดูไม่ผิดน่าจะเป็นใบมะยมมาสะบัด ๆ ที่เท้าเท่านั้น จากนั้นจึงเข้าบ้านเจ้าสาวได้ พ่อเทพกับแม่ปัญญาและญาติผู้ใหญ่อีกหลายคนนั่งยิ้มรอรับขันหมากกันอยู่พร้อมหน้า

จากคุณ : แมงกะพรุน - [19 ก.ค. 45 02:50:20 A:203.149.39.227 X:]

ความคิดเห็นที่ 2
สุดท้าย แถมด้วยรูป “ตุ่มกับโป๋” รูปนี้ถ่ายในปีปลายปี 2516 ในสวนจีนสวยงามมากเสียดายที่จำชื่อไม่ได้เสียแล้ว เป็นสวนที่อยู่ในนครเวียงจันทร์ประเทศลาว ผมยาวที่เห็นนั้นเป็นผลที่ฉันทั้งขอร้องทั้งบังคับให้ตุ่มลองปล่อยดูเพราะฉันคิดว่าจะทำให้ตุ่มดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น หลังจากงานแต่งงานไม่นาน ตุ่มก็แอบไปซอยผมเสียสั้นตามเดินจนถึงทุกวันนี้ไม่ใครจะว่าอย่างไรตุ่มก็ไม่เคยยอมไว้ผมยาวอีกเลย เสียดายจัง คุณหมูแดงจ้ะห้ามค้อน ส่งให้แล้วจริง ๆ นะเนี่ย ระบบบอกว่า ไฟล์ประกอบของคุณมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่กำหนด หมดอารมณ์เลย เอาไว้วันหลังลองใหม่ก็แล้วกัน
จากคุณ : แมงกะพรุน (ใครดี) - [19 ก.ค. 45 03:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3
วันนี้โชคดีจริงๆเลย ได้มาช่วยยกขันหมากเป็นคนแรก แถมได้ดูรูปเจ้าบ่าว กับเจ้าสาวตอนไปเที่ยวเวียงจันทน์ซะอีกแน่ะ ขอบคุณคุณพี่แมงกะพรุนมากๆเลยนะคะ เอาไฟล์ไปย่อมาให้ จะได้ดูกันสบายๆ ไม่ต้องคลิกให้เหนื่อยนิ
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [19 ก.ค. 45 03:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4
ขอมาร่วมงานด้วยคนค่ะ ตื่นเต้นกับบรรยากาศมากเลยค่ะ และป๋าคุณแมงนี่ ไอเดียของท่านแสนจะเลิศไฉไลสุดๆนะคะ ของชำร่วยน่ะค่ะ และ ว้าว..ว้าว..ว้าว...นางเอกสวยจริงเลยสมกับที่รอชมนะคะ ถึงแว่นจะบังตาก็วาดภาพได้ค่ะ เพราะเคยทราบแล้วว่าดวงตาสวยยย..ตอนนี้คุณแมงเป็นผู้จัดเพลงประกอบเสียเองด้วย หึ..หึ..และขอได้คืบเอาศอกหน่อยค่ะ เพลงไทยที่แจกเป็นของชำร่วยล่ะคะ อยากได้ยินค่ะ ที่ลงแผ่นน่ารักนั่นน่ะค่ะ บอกชื่อก็เอาดี ที่นี่ยังฟังเพลงจากแผ่นแบบนั้นอยู่นะคะ ถึงจะยุคซีดี mp3 นี่ก็เถอะ..
ขอให้คุณพระคุ้มครองสุขภาพค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [19 ก.ค. 45 04:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5
เฮ้อ กว่าจะได้แต่งเนาะ ผ่านทั้งอุปสรรคใกล้ตัว ไกลตัว แต่สุดท้าย ป๋าพี่แมงฯก็ใจอ่อนเนอะ ลุ้นอยู่ตั้งนานกลัวว่าจะไม่ให้แต่งกันซะแล้ว ชอบรูปถ่ายจังเลยค่ะ เป็นธรรมชาติทั้งคู่ สมกันจริงๆค่ะ พักผ่อนมากๆนะคะ เห็นมาโพสต์ตอนตีสอง ตีสามทู้กที เอ จะว่าเพิ่งตื่น มันก็ไม่เร็วไปหน่อยเหรอคะ
จากคุณ : bellissima - [19 ก.ค. 45 05:00:07 A:217.162.80.238 X:]

ความคิดเห็นที่ 6
อันนี้ขออนุญาตนอกประเด็น คุยกับพี่หมอปราณหน่อยนะคะ ได้รับเมล์แล้วนะคะ ยิ้มหน้าบานเลยค่ะ ไม่ได้ยินใครชมมานานแล้วค่ะพี่หมอ ขอบคุณมากนะคะ
จากคุณ : bellissima - [19 ก.ค. 45 05:02:03 A:217.162.80.238 X:]

ความคิดเห็นที่ 7
5 5 5 วันนี้ขออนุญาต Post เพราะว่าเข้ามาก่อนขาประจำ 5 5 5
จากคุณ : ngong_ngang - [19 ก.ค. 45 08:47:28 A:203.147.4.197 X:]

ความคิดเห็นที่ 8
และแล้วก็ถึงตอนที่ คุณเปรมถามแม่พลอยว่า แม่พลอยเคยขึ้นภูเขาทองไหมจ๊ะ
จากคุณ : APO96330 - [19 ก.ค. 45 09:22:33 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104]

ความคิดเห็นที่ 9
" ใครมีมะกรูด มาแลกมะนาว ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย เอาว่ะเอาเหวยลูกเขยกลองยาว...โห่...ฮิ้ว...หุย...ฮา..."
พยามสร้างบรรยากาศร่วมครับ...อิ..อิ...คิดภาพ..รำป้อ กันเชิบๆ
จากคุณ : พิจิก27 - [19 ก.ค. 45 10:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10
รูปประกอบ ตลกๆๆ แต่ธีมเรื่องแต่งงานเหมือนกันค่ะ รูปที่แปะมานี่ยังเขินไม่เสร็จนะคะ นั่งห่างกันตั้งครึ่งฟุตแหน่ะ ฮิๆๆๆ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [19 ก.ค. 45 12:12:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11
อิอิ...ภาพพระเอกนางเอกกระทู้นี้น่ารักมากค่ะ เพลงก็เพราะ ชอบจริงๆ :)
จากคุณ : โคอาร่า - [19 ก.ค. 45 14:28:58 A:203.147.10.100 X:]

ความคิดเห็นที่ 12
:-) This reminds me a song from Thai movie kha...10 หมื่น, 10 หมื่น, 10 หมื่น.. never seen this movie, but remember from ko-sa-na when I was very young kha..
จากคุณ : guest - [19 ก.ค. 45 15:28:16 A:133.68.126.131 X:]

ความคิดเห็นที่ 13
น่าเสียดายนะครับตอนนี้สวนจีน กลายเป็นสนามกอล์ฟไปเสียแล้ว ส่วนเพลงประกอบกำลังอัพโหลดอยู่ครับ คาดว่าพรุ่งนี้ก็เข้ามาโหลดกันได้
จากคุณ : biblio - [19 ก.ค. 45 15:59:50 A:203.110.64.68 X:]

ความคิดเห็นที่ 14
ยินดีด้วยค่ะที่ได้ลงเอยกันด้วยดีและด้วยความยินยอม
จากคุณ : Licht (Miran) - [19 ก.ค. 45 16:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15
มาอ่านตอนนี้แล้วอิ่มเอมจริงๆ ค่ะ หวานนนนซึ้งๆๆๆ ทั้งเนื้อเรื่อง เพลง และภาพประกอบ
จากคุณ : - โอ้โฮ - - [19 ก.ค. 45 17:58:43 ]



ความคิดเห็นที่ 16
มาร่วมงานแต่งงานด้วย งานเลี้ยงชอบๆๆ
จากคุณ : GTW - [19 ก.ค. 45 19:32:04 A:202.133.172.152 X:]

ความคิดเห็นที่ 17
เย้ เย้ .. ลงเอยกันได้ เฮ้อ ทิฐิเนี่ยนะ จริงๆ เลย ชอบเพลงวาเลนไทน์เหมือนกันค่ะ ชอบ Change of Heart ของ Brickman มากกว่า ไม่รู้จัก It had to be you ล่ะ
จากคุณ : scottie - [19 ก.ค. 45 19:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18
โอย...ละลายยยยยย เพลงหวานมากอะพี่แมงกะพรุน อิอิ พี่ตุ่มท่าจะไว้ผมนานเหมือนกันนะคะ มีรูปผมสั้นมาให้ดูเทียบเปล่า? จะได้ช่วยกันมองว่า แบบไหนเก๋ก่า เอิ๊กส์ ((หาเรื่องขอดูรูปเพิ่ม)) งานแต่งงานแม้จะดูวุ่นวาย และมีอุปสรรค แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เป็นวันที่น่าประทับใจอีกวันนะคะ ป๋ากับแม่ของพี่แมงกะพรุนน่ารักดีออกนะ ในที่สุดก็ใจอ่อน
รออ่านเรื่องต่อไปค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ^^
จากคุณ : Clear Ice - [20 ก.ค. 45 04:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19
มาช่วยรำในขบวนขันหมากค่ะ
จากคุณ : ธราธร - [21 ก.ค. 45 07:37:40 A:194.80.32.11 X:10.38.40.120]

ความคิดเห็นที่ 20
^-^ ตามขบวนมาด้วยอีกคน....
จากคุณ : T.time - [21 ก.ค. 45 11:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21
โห มาช้าไปหน่อยโดนแย่งตำแหน่ง Music Composer ไปซะแล้วมัวแต่ดูไทเกอร์ สะใจที่ตีออกทะเลซะบ้างเมื่อคืน ฝีมือพอกะเราเลย ยังงี้มาเมืองไทยเมื่อไร จะไปท้ากินเงินให้หมดตูด (มีข้อแม้ว่าต้องตีแบบเมื่อวานนะ) ชอบรูปประกอบของคุณเจครับ น่ารักดี ของพี่แมงก็เข้าท่า กำลังกินเงาะหรือมังคุดครับมองไม่ถนัด น่าจะถ่ายตอนกำลังผลัดกันป้อน จะได้หวานแหววจนมดขึ้นมอนิเตอร์คนอ่าน
เคยไปเที่ยวอุดร 2-3 ครั้งชอบมากจริงๆ มีที่เที่ยวเยอะ ยังจำถ้ำเอราวัณ บ้านเชียง แล้วก็น้ำตกชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ใหญ่มาก สวยกว่าหลายๆ ที่ๆ เคยเห็นมา แล้วก็มีพระธาตุอะไรล่ะที่มีหอนางอุษา คอกม้าท้าวบารสนี่แหละ อิจฉาพี่แมงจริงๆที่ได้ไปอยู่ อำเภอเพ็ญไม่ได้เข้าไป คงเพราะไม่มีอะไรให้เที่ยว แต่ผู้หญิงในเมืองสวยๆ เยอะ ยังประทับใจและจำได้ไม่รู้ลืมอยู่คนนึงเสมอมา
ชอบเพลง It had to be you เหมือนกันครับ ขอบคุณคุณ biblio ที่อุตส่าห์ไปหาอัพโหลดมาให้ฟังกัน วันหลังจะรบกวนขอเพลงที่อยากได้แต่ไม่มีขายแล้วให้คุณ biblio ช่วยกรุณาหาให้ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [21 ก.ค. 45 12:43:50 A:203.144.143.254 X:203.144.134.195]

ความคิดเห็นที่ 22
++คุณ Lazy Genius:
Wow (ภาษาอังกฤษ) เป็นคำอุทานใช้แทนความรู้สึกที่ตื่นเต้นหรือยินดีอันรุนแรงของผู้ร้อง -- used to express strong feeling (as pleasure or surprise) งานนี้ขออนุญาตเดาว่าผู้ร้องทั้งตื่นเต้นทั้งยินดี :-X
++คุณมูโจ้:
Better late than never! คุณครูยกสุภาษิตฝรั่งขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาสำหรับนักเรียนก่อนที่จะสั่งให้เด็กชายมูโจ้ไปยืนกางแขนหน้าชั้นโทษฐานที่มาโรงเรียนสายในเช้าวันนั้น
เรื่องก๊อลฟ์ดิโอเพนครั้งที่ผ่านมามีคนเห็นเป็นหลายทิศทาง สำหรับฉัน เห็นว่าสภาพอากาศเป็นปัจจัยแปรผันที่ไม่ยุติธรรมสำหรับนักก๊อลฟ์ นักก๊อลฟ์ที่ออกตีในช่วงเช้าของการแข่งขันวันที่สามได้เปรียบนักก๊อลฟ์ที่ออกตีในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ใครจะว่าเป็นเรื่องของโชคก็ใช่ แต่ฉันเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมเพราะเงื่อนไขที่อยู่นอกเหนือความควบคุมเปลี่ยนไปทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในระหว่างนักก๊อล์ฟอย่างชัดเจน ยังดีที่บิ๊กอี้ซี่ซึ่งแข่งในรอบบ่ายของวันที่สามแต่โชคดีที่เสียหายน้อยที่สุดเป็นผู้ชนะ ไม่งั้นแชมป์ปีนี้คงรับถ้วย (และเงิน) ด้วยความอิลักอิเหลี่อพิกล (เอ..สงสัยงานนี้มาผิดโต๊ะ) อ้อ..ที่ถืออยู่ในมือน่ะ มังคุดจ้ะ
++คุณ T.time:
ตามมาเล้ย...ตามมาดูแห่
++คุณธราธร:
แหม..รำเชิ้บ เชิ้บ จีบนิ้วสวยเชียว เทคนิคการรำหรือเซิ้งมีอยู่นิดเดียว..ต้องก้าวหรือย่ำเท้าให้เข้ากับเสียงกรับ
++คุณโคอาร่า:
ขอบคุณครับ เอ๊า..ใครอยากได้สูตรทำน้ำผัก เชิญย้อนเวลาหาอดีตไปอ่านได้ที่ตอนที่ 30 นะครับ สำหรับฉันกินน้ำผักเป็นอยู่สองอย่าง 1) น้ำขิง 2) น้ำใบบัวบก (บอกแล้วว่าเป็นคนกินง้ายง่าย)
++คุณ biblio:
ขอบคุณครับ หวังว่าโหลดกันได้ทุกคนแล้วนะครับ ใครไม่โหลดไปฟังแล้วจะเสียใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง It had to be you เวอร์ชั่นนี้ขนาดมีเงินยังหาซื้อมาฟังไม่ได้ง่าย ๆ นะ..จะบอกให้ งานนี้ใครจะว่าอย่างไร รับรอง น้องเจ ไม่เชื่อ
(เป็นไวรัสโฟเบี่ยง่ะ)
++น้องไอ้ซ์
"โอ๋...โอ๋..นิ่งซะนะ อย่าร้อง..นิ่งสิ...นิ่งสิโว๊ยเดี๋ยวน้าก็โดนตีอีกหรอก" ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ทีไร เป็นต้องนึกถึงน้าแดงที่อุ้มฉันเข้ากะเอววิ่งหนียายทุกทีไป
++คุณ : scottie:
โหลดไปฟังหรือยัง..เปลี่ยนใจหรือยัง..
++คุณ GTW:
มีตอนเริ่มงาน..ก็ต้องมีตอนเลิกงาน
++คุณ biblio:
ชื่นชมความสามารถครับ หาเพลงได้เก่งและรวดเร็วจัง นึกถึงพวกดีเจที่ให้แฟนเพลงโทรศัพท์เข้าไปขอเพลงแล้วเปิดได้ทันที่เลยน่ะทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเตี้ยมกันหลังไมค์ไว้ก่อน ส่วนเพลง It had to be you น่ะไม่มีการเตี้ยม ไม่นึกว่าจะมีใครหาได้นะ ขออนุญาต (ย้อนหลัง) เซฟเก็บไว้ฟังนาน นาน หามานานไม่เจอ คราวนี้ไม่ต้องร้องให้ตัวเองฟังเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แหมถ้าสวนจีนในเวียงจันทร์กลายเป็นสนามก๊อล์ฟไปแล้วก็ต้องแสดงความเสียใจกับคนลาวไว้ ณ ที่นี้ที่มีคนเอาสวนสาธารณะไปทำเป็นสนามก๊อล์ฟ สู้เมืองไทยไม่ได้ เอาสมามก๊อลฟ์มาทำสวนสาธารณะเอ..คคหที่ 18 เป็นไงเหรอ อ่านไม่ทัน มือดีลบทิ้งไปแหล่ว
++คุณโอ้โฮ:
ขอบคุณครับ กว่าจะไต่ลงมาจากเพดานได้ แทบแย่
++คุณ Licht (Miran):
ขอบคุณครับ ใครนะที่บอกว่าการแต่งงานคือการลงเอย
เหมือนในเทพนิยายที่ "แล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็อยู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป" ในชีวิตจริงมันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก..โปรดติดตามตอนต่อไป
++คุณ Guest:
สิบหมื่น สิบหมื่น สิบหมื่น แหมยิ้มระรื่นคงกลืนลงคอ คุณพ่อ ครับผมแย่ คุณแม่ ครับผมจน สิบหมื่น ผมเหลือทน..ไม่ขอดิ้นรนให้คุณขายลูก (สาว) กิน เพลงลูกทุ่งไทยมักจะสะท้อนสภาพสังคมไทยได้เป็นอย่างดีเสมอ สมัยก่อนมีพ่อแม่มากมายที่นิยมใช้ "สินสอด" เป็นตัวกรองลูกเขย
++น้องเจ:
ฮา..ฮา ดูการ์ตูนเซทนี้แล้วคิดถึงสุภาษิตจีนที่ว่า
"เจี้ยอ่าย..บู๊ม่าย"
++คุณ พิจิก27:
เอ้า..หุยฮา..หุยฮา..เพราะเจ้ามีคนอยู่หลัง..เพราะเจ้ามีคนอยู่หลัง...เจ้าจึงชิงชังในตัวพี่ยา เอ้า ลามะลิลา ฯลฯ
++คุณ APO96330:
ยังก่อนเพ่..ถ้าชอบตอนเข้าด้ายเข้าเข็มต้องรออ่านตอนหน้า
รับรองไม่ผิดหวัง..งานนี้ คุณเปรมกับแม่พลอย..หงอยเป็นไก่ง่วงนอน
++คุณ ngong_ngang:
ยินดีต้อนรับครับ ชื่อคุณแปลกดีนะ อ่านว่า งอแง หรือ ก๊องแก๊ง เนี่ย เขาถึงได้ว่า ภาษาอะไรก็ตายภาษาไทยหมด
++คุณ bellissima:
ขอบพระคุณครับที่เป็นห่วง ตื่นตีสองจริง ๆ เพราะนอนตั้งแต่ยังไม่สองทุ่มทุกวัน ชินเสียแล้ว เรื่องป๋าที่ยอมน่ะ แกมีแผน
++คุณหมอปราณ:
หน้าแรกเป็นเพลงขับร้องโดยคุณธานินทร์ อินทรเทพ เพลงชื่อ "ขังด้วยรัก" หน้าสองเป็นเพลงขับร้องโดย คุณจินตนา สุขสถิตย์ เพลงชื่อ "พรจากฟ้า" เสียดายที่ไม่มีเครื่องเล่น ไม่งั้นจะเปิดให้ตัวเองฟังเผื่อหมอ จนใจจริง ๆ เพราะเป็นเรื่องของดิจิตอลกับอานาล๊อก (ต่อไม่ติดเพราะไม่มีเทคโนโลยี่)
++คุณหมูแดงจ้ะ:
แหม จากใจถึงใจ อะไรมันจะสื่อกันได้รวดเร็วปานนั้น..รูปที่ตัดใจเอามาปะนี่น่ะ เพราะกลอนของคุณหมูแดงจ้ะ แท้ แท้เชียวนะ..อ่านกลอนฝีมือชั้นครูแล้วใจอ่อนยวบเลยละ
++คุณนิดนิดหน่อยหน่อย:
(จากตอนที่ 35)
ยินดีต้อนรับครับ คุยไม่เก่งไม่เป็นไร ฉันกับตุ่มบางทีเดือนนึงไม่ได้พูดกันสักคำ พูดถึงเรื่องร้องไห้ ใครก็ไม่รู้บอกว่าเมื่อใดที่อยากร้องไห้ก็ให้ร้องออกมาเลย อย่าไปกลั้นไว้ สมัยก่อนจะเห็นได้ว่าคนร้องไห้กันอยู่ทั่วไปเป็นเรื่องปกติ ใครไม่เชื่ออย่าเพิ่งเถียง ไปหา สามก๊กมาอ่านซะก่อน ขนาดโจโฉซึ่งเป็นนักรบผู้เก่งกล้าฆ่าคนตายในสนามรบมาจนนับไม่ถ้วน ยังร้องไห้อย่างเปิดเผยในหลาย ๆ โอกาส.."อยู่ดีดีก็อยากร้องไห้..น้ำใสใสก็รินจากตา..ไม่รู้เพราะอะไร"
จากคุณ : แมงกะพรุน - [23 ก.ค. 45 04:59:32 A:203.149.43.243 X:]

ความคิดเห็นที่ 23
++น้องเจย์
ก่อนอื่นขออนุญาตเปลี่ยนตัวสะกดชื่อน้องเสียหน่อยเพื่อความโก้เก๋และเป็นอินเตอร์ เวลาเขียนว่า "เจ" เฉย ๆ แล้วนึกถึงการกินเจ นึกถึงธงเหลือง นึกถึงเจที่แปลว่า "ไม่มีคาว" ทุกที เรื่องกินเจที่เมืองไทยนี่ยิ่งวันยิ่งฮิตมีคนร่วมกินมากขึ้นทุกปี รับทราบเรื่องกลัวแมงมุม แสดงว่าเราสองคนนี่พอ ๆ กัน พี่เองแก่จนปานนี้แล้ว เห็นแมงสาบได้ที่ไหน ยิ่งไอ้พวกที่ไม่มีปีก ตัวลาย ๆ คลานตัวมเตี้ยมส่ายหนวดไปมาน่ะ เห็นเมื่อไหร่ กรี๊ดสลบไปเมื่อนั้น

ภาษิตจีนที่ว่า "เจี้ยะอ่าย บู๊ม่าย" ได้มาจากเฒ่าแก่โรงงานที่เคยหลุดวงจรการเงินการธนาคารไปช่วยงานเขาอยู่สองปี เป็นภาษาแต้จิ๋ว "เจี้ยะ" แปลว่า "เจี้ยะ" คนไทยใช้ทับศัพท์แปลว่า "กิน" "อ่าย" แปลง่าย ๆ ว่า "เอา" "บู๊" คนไทยใช้ทับศัพท์มานานแล้วว่า "บู๊" แปลง่าย ๆ ว่า "ลุย" ส่วนคำสุดท้าย "ม่าย" แปลว่า "ไม่เอา" เอาทั้งหมดมารวมกันได้เป็นภาษาไทยว่า "กิน..เอา..ลุย..ไม่เอา"
ภาษิตจีนอีกสองบทที่จำได้คือ 1) พี่น้องเหมือนแขนขา..เมียเหมือนเสื้อผ้า และ 2) ม้าตาย..ยังเดินได้
จากคุณ : แมงกะพรุน - [วันอาสาฬหบูชา 05:10:32 A:203.149.40.74 X:]

ความคิดเห็นที่ 24
ภาษิตจีน ทั้ง 2 ข้อ ของพี่แมงกะพรุนช่วยแปลให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ แต่เหมือนข้อ1. หนูจะไม่เห็นด้วยเลยง่ะ ส่วนข้อ2. นั้นไม่เข้าใจค่ะ ใช่แปลว่า "สิ่งที่ดูเหมือนไม่มีความหมาย จริงจริงแล้วยังมีคุณค่าในตัวเอง" หรือเปล่าคะ
อีกอย่างที่ว่า "ฉันกับตุ่ม บางทีเดือนนึงไม่ได้พูดกันสักคำ" ทำให้นึกถึงตัวเองบ้างว่า "สื่อสารด้วยใจ" เพราะในบางเวลา คำพูดเพียงหนึ่งคำก็มากเกินไป
(ขอยืมคำพูดของคุณหมอปราณ ที่มีในทุกทุกตอนใน "เรื่องของฉัน" บ้างว่า )...ขอคุณพระคุ้มครองพี่แมงกะพรุน นะคะ
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [วันอาสาฬหบูชา 09:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25
ต้องแสดงอาการย้ำคิดย้ำทำด้วยการมาอ่านอีกค่ะ ชอบจริงเชียว อะไรที่หวานๆนี่ และตอนนี้ ว้าน....หวาน..นะคะ นอกจากบนเวทีหวานแล้ว ติดใจแฟนคลับของคุณแมงด้วยค่ะ ทุกคนน่ารักไปโม้ด ช่วยกันทำ"แมงกะพรุนโปรดัคชั่น" ออกมางามทุกตอนเลยค่ะ
ขอบคุณคุณแมงที่บอกชื่อเพลงในแผ่นของชำร่วยค่ะ ทำเป็นถามราวกับว่า บอกแล้วจะรู้จักงั้นละ กิ๊กๆๆ... รู้จักแต่ชื่อนักร้องค่ะ แต่จะค่อยๆไปค้นหา น้องนิดหน่อยคะ (ชื่อน่ารักจังค่ะ พี่ย่อเขียน) พี่เห็นเหมือนคคห. 33 ของน้องเลย คำขอพรให้คุณแมงนั้น เป็น standing order แล้วค่ะ (ในภาษาสั่งของหมอตอนเขียนให้คนไข้ในวอร์ด)
จากคุณ : ปราณ - [วันอาสาฬหบูชา 10:14:47 A:12.89.140.244 X:]

ความคิดเห็นที่ 26
เรื่องแมลงสาบนั้นตัวสีน้ำตาลไหม้ใหญ่ๆ บินได้นั้น คือ American Cockroaches ส่วนแบบที่พี่เกลียดนัก คือ
German Cockroaches
1) พี่น้องเหมือนแขนขา..เมียเหมือนเสื้อผ้า น่าจะเหมือน "เลือดข้นกว่าน้ำ" นี่แปลว่า เมียเหมือนเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้ แย่เน๊อะ พี่น้องตัดไม่ตายขายไม่ขาด
2) ม้าตาย..ยังเดินได้
เหมือน "คนล้มอย่าข้าม" หรือเปล่าคะ
วันนี้ไปอาบแดดมาอีกแล้ว ดำๆๆๆ ว่าแล้วพรุ่งนี้ก็จะไปอีก ว่าจะไปซื้อร่มชายหาดแล้วล่ะ
จากคุณ : JW - [วันอาสาฬหบูชา 11:02:47 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 27
เอ เบล ว่า ม้าตาย...ยังเดินได้ นี่น่าจะหมายถึง ถึงแม้ม้าจะตาย เราก็ยังมีขา เดินไปเองก็ได้ คือ อย่าท้อถอย ให้พยายามต่อไป ถึงแม้จะต้วมเตี้ยมชักช้า แต่ก็เป็นขาของเรา(รึป่าว)
จากคุณ : bellissima - [วันอาสาฬหบูชา 14:20:08 A:217.162.156.142 X:]

ความคิดเห็นที่ 28
โล่งใจค่ะ ที่คุณแมงกะพรุนไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะเห็นหายไปตั้งนาน ที่แท้ก็หาทางลงเพดานนั่นเอง แหะ แหะ ขออนุญาตแซวนะคะ แบบว่าแซวด้วยความดีใจ @ ^_^ @
จากคุณ : O-HO - [วันอาสาฬหบูชา 14:30:56 A:202.133.158.212 X:]

ความคิดเห็นที่ 29
ตัวอย่างบางตอนจากตอนที่ 37
ก่อนที่ป๋ากับแม่จะนำเอาพานขันหมากซึ่งห่อไว้ด้วยผ้าแพรยื่นให้พ่อเทพกับแม่ปัญญา หมอทำขวัญซึ่งเป็นชายแก่อายุสักหกสิบเคี้ยวหมากหยับ ๆ นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ร้องห้ามขึ้นว่า “ย้าเฝ่า..ย้าเฝ้า ว่าตามข่อยซะก่อน” แล้วบอกบทให้ป๋าพูดตามในทำนองที่ว่า “ศรี ศรีวันนี้เป็นวันดี พวกขะน่อยจะขอมาผูกสัมพันธไมตรี ขอเป็นทองแผ่นเดียวกัน”
และ
เมื่อฉันและพวกเพื่อน ๆ เห็นตุ่มเดินเอี้ยมเฟี้ยมตัวเหลืองอ๋อยเพราะใส่ชุดไทยพระราชนิยมสีมะปรางสุกออกมาจากหลังบ้านก็หัวร่อกันครืนใหญ่อย่างกลั้นไม่อยู่
และ
เวลาคนไทยที่เป็นผู้ใหญ่แล้วหอมเด็กก็ดูเป็นธรรมชาติไม่เคอะเขินดีอยู่หรอก แต่เมื่อใดลองให้ผู้ชายกับผู้หญิงที่โต ๆ แล้วหอมแก้มกัน ใครไม่ขำบ้าง
และ
ตุ่มนั้นดูเหมือนว่าจะรู้ตัวว่าสถานการณ์แนวรบด้านตะวันตกเริ่มจะคับขันเมื่อถูกฉันมองเอาเต็ม ๆ ด้วยสายตาที่กรุ้มกริ่ม

Tomorrow at HBO at 4.00 a.m. Thailand, 16.00 p.m. New Jersey, 22.00 p.m. London, and noon W.C. Canada
โปรดอดใจรอ...
จากคุณ : แมงกะพรุน - [วันเข้าพรรษา 04:29:00 A:203.107.149.209 X:]

ความคิดเห็นที่ 30
อิอิ...ตอนใหม่น่าสนใจจริงๆ รับรองไม่พลาดแน่ค่ะ
จากคุณ : โคอาร่า - [วันเข้าพรรษา 08:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31
เหอะ ๆ ๆ ออกจะมาช้าเอามากๆ สืบเนื่องจากการงานที่หนักหน่วงครับ ช่วงนี้เลยไม่ได้มีเวลามาต่อเน็ตเข้ามาอ่านอะไรงาม ๆ แต่ อย่างที่คุณแมงกะพรุนบอกล่ะครับ ...Better late than never! ..5 5 5 ...เรื่องประสบการณ์แห่ขันหมากนี่เจอมากับตัวครับในวันงานของพี่ชาย โอยยย วุ่ยวานน่าดู แถมตอนเดินคิดไปในใจตลอดทางเลย อืมมม ทำไมต้องมาเดินอย่างนี้ด้วยนะ แฮะ ๆ ๆ แบบ อาย ๆ ครับ ...อืมมมม เพลงประกอบ Valentine นี่โดนครับคนแต่งเพลงนี่ อารมณ์เธอ เกินบรรยายครับ สวัสดีครับ จะรออ่านตอนต่อไปด้วยใจระทึก ครับ
จากคุณ : เด็กช่างฯ - [วันเข้าพรรษา 10:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 32
โห...มีหนังตัวอย่างด้วยแฮะ ปูเสื่อรอคนแรกเลย ข้าวโพดคั่ว...โค้ก...เลย์....มั๊ยคะ.....แบบคอมโบก็มีนะ ซื้อหนึ่งแถม 1 เลยเอ้า กรุณาปิดโทรศัพท์มือถือ และเพจเจอร์ของท่านและขอร้องอย่าพากษ์นอกเรื่องเสียงดัง เพื่ออรรถรสในการชมของทุกท่าน เอ็นจอย.....
จากคุณ : JW - [วันเข้าพรรษา 11:04:12 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 33
ปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดแล้วค่ะ ตั้งหน้าตั้งตาชมตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ อิอิ
จากคุณ : O-HO - [วันเข้าพรรษา 15:31:27 A:202.133.157.187 X:]

ความคิดเห็นที่ 43
คอมฯเจ๊งไปหลายวัน กลับมานึกว่าจะได้อ่านต่อ แม๊.. เล่นเอาหนังตัวอย่างมาโหมโรงซะนี่ แต่แหม..นะ.. จะอดใจรอไม่ไหวแล้วนา.. คุณพี่แมง(กระพรุน) ขา.. มาไวๆหน่อย แฟนๆรออ่านอยู่จ้ะ เดี๋ยวรอดูตอนหน้าจะมีรูปพี่ตุ่มใส่ชุดไทยสีมะปรางมาประกอบฉากหรือเปล่า ถ้าไม่มีต้องเอากลอนมาบรรเลงอ้อนอีกซักรอบแล้วมั๊ง
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [วันเข้าพรรษา 23:55:48 ]

ไม่มีความคิดเห็น: