วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2551

เรื่องของฉัน ตอนที่ 35

ตอนที่ 35

ในช่วงปี 2516 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านการเมืองและการปกครองของประเทศอย่างใหญ่หลวง รัฐบาลเผด็จการในขณะนั้นถูกพลังนิสิตนักศึกษาและประชาชนโค่นล้ม ประชาธิปไตยเบ่งบาน ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ที่อุดรข่าวคราวที่ได้รับจะเป็นข่าวเก่าช้ากว่ากรุงเทพหนึ่งวัน ที่เร็วหน่อยก็เป็นข่าวทางวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งก็ล้วนเป็นข่าวที่ออกจากทางซีกรัฐบาลจึงยากที่จะรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สมาชิกของทั้งวงเหล้าและสภากาแฟต่างถกกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นอย่างคร่ำเคร่งและตึงเครียด อารมณ์ที่จะออกไปเที่ยวสนุกสนานเหมือนเช่นเคยก็พลอยมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

ในส่วนของทหารอเมริกัน มีการสั่งให้เตรียมพร้อมเต็มที่ในที่ตั้ง หมายความทหารคนใดที่ได้รับอนุญาตให้ออกมาเช่าบ้านอยู่ในเมืองจะต้องกลับเข้าไปนอนในแบแรคทั้งหมด ที่จะออกมานอกแคมพ์ได้จะต้องมีภาระกิจและได้รับมอบหมายเป็นหนังสือเท่านั้น ข่าวลือที่มีสีสรรฉูดฉาดน่าหวาดเสียวและมักจะสวนทางกับข่าวที่ทางราชการออกประกาศทางสื่อทุกประเภทก็มีให้ได้ยินได้ฟังกันอย่างดาษดื่น ผู้คนก็ได้แต่วิตกกังวลกันไป ฉันโทรศัพท์ทางไกลมาถามสารทุกข์สุขดิบของญาติพี่น้องทางบ้าน ซึ่งก็ได้รับแจ้งว่าทุกคนสบายดีเพราะอยู่ไกลจากจุดที่เกิดความวุ่นวาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร

พูดถึงเรื่องโทรศัพท์ทำให้นึกถึงระบบสื่อสารของทหารอเมริกันในสมัยนั้นซึ่งต้องยอมรับนับถือว่าทันสมัยมาก เกือบจะเรียกได้ว่าทหารอเมริกันใช้ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมเฉพาะของตนเองไม่เกี่ยวข้องกับระบบโทรศัพท์ผ่านสายของไทย ทหารที่อยู่ในแคมพ์ต่าง ๆ สามารถใช้โทรศัพท์สายตรงติดต่อพูดคุยกับญาติพี่น้องที่อยู่ที่อเมริกาได้เลยโดยไม่ต้องผ่านระบบโทรศัพท์ของไทย การโทรศัพท์หาญาตินี้จะกำหนดเป็นโควต้าไว้ว่าโทรฯได้คนละกี่ครั้งต่อหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตาม หากแชบเพล่น ซึ่งเป็นนายทหารยศนายพันตรีขึ้นไปทำหน้าที่คล้าย ๆ หมอสอนศาสนาอนุมัติ ทหารที่มีปัญหาทางด้านจิตใจก็อาจโทรศัพท์ทางไกลกลับบ้านได้มากและนานกว่าที่กำหนดไว้ ในส่วนของการติดต่อระหว่างแคมพ์ต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในประเทศเดียวกันและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกก็เช่นกัน สามารถโทรศัพท์ติดต่อกันได้ทุกที่โดยไม่ต้องผ่านโอเปอเรเตอร์ให้ยุ่งยาก เพียงแค่หมุนรหัสปลายทาง 4 ตัวและรหัสติดต่อ อีก 4 ตัวรวมเป็น 8 ตัวเท่านั้น เมื่อฉันไปอยู่อุดรได้ไม่นานก็ค้นพบโดยบังเอิญว่า นอกจากจะสามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อระหว่างหมายเลขที่อยู่ในแคมพ์แล้วระบบนี้ยังสามารถติดต่อกับโทรศัพท์บ้านได้โดยหมุนรหัสติดต่อเข้ามาที่ดอนเมืองก่อนแล้วกดรหัสอีกหนึ่งตัวก่อนที่สัญญาณเรียกจะดังขึ้นก็จะได้สัญญาณขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยหมุนเบอร์บ้านหรือเบอร์ที่ต้องการโทรฯติดต่อได้เลยไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ทางไกลแต่อย่างใด

เมื่อสิ้นสุดเหตุการณ์นองเลือดครั้งประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ รัฐบาลทหารเผด็จการถูกโค่นล้มท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีทองผ่องอำไพ ดอกไม้แห่งประชาธิปไตยก็เบ่งบานไปทุกที่ ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เหตุการณ์บ้านเมืองในมหภาคกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชีวิตของปัจเจกบุคคลเช่นฉันซึ่งเป็นเพียงส่วนประกอบจุลภาคเล็กกระจ้อยร่อยในมหภาคนั้นก็ดำเนินต่อไปตามครรลองของมัน

ความสัมพันธ์ของฉันกับตุ่มเบ่งบานงอกงามแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดฉันก็ได้จังหวะชวนตุ่มลงไปเที่ยวบ้านฉันที่กรุงเทพเพื่อมาไหว้ทำความรู้จักกับป๋าและแม่โดยขับรถกันลงมาตามลำพังสองคน แม้ว่าในฉากหน้าทั้งป๋าและแม่จะเก็บอาการไว้ใต้รอยยิ้มได้เป็นอย่างดีเมื่อฉันบอกเพียงว่าตุ่มกับฉันเป็น “เพื่อนทำงานที่เดียวกัน” แต่ฉันก็รู้สึกได้ถึงม่านหมอกแห่งความระแวงแผ่กั้นระหว่างป๋ากับแม่และตุ่มอย่างชัดเจน พอได้โอกาสลับหลังตุ่ม แม่ก็ดึงมือฉันไปกระซิบถามต่อหน้าป๋าว่าเป็นแค่เพื่อนกันแน่หรือ ฉันมัวแต่อึกอักยังไม่ได้ตอบอะไรแม่ก็เริ่มสาธยายถึงความยากลำบากที่ได้เลี้ยงฉันมาตั้งแต่ “ตีนเท่าฝาหอย” แล้วพูดในทำนองว่า “รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ ตามันฟ้อง จะทำอะไรก็อย่าให้บุ่มบ่ามให้คิดถึงป๋ากับแม่บ้าง” ฉันนึกสนุกขึ้นมาก็เลยเปรย ๆ แบบหมาหยอกไก่ไปว่า “ป๋ากับแม่จะว่าอย่างไรถ้าฉันจะแต่งงานกับตุ่ม”

ปรากฏว่าทั้งป๋าและแม่ต่างก็อึ้งไปด้วยกันทั้งคู่ พอหายตกใจตั้งหลักได้ทั้งสองก็ร่วมกันทัดทาน อย่างหนักโดยอ้างเหตุผลชักแม่น้ำทั้งห้าต่าง ๆ นานา วกวนอยู่ในข้อหาที่ว่าตุ่มไม่มีอะไรที่เหมาะสมคู่ควรกับฉันเลย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดฉันจึงคิดสั้นอย่างนั้น ใจคอจะปักหลักอยู่อุดรไปจนตายหรือย่างไร ป๋าถึงกับเผยความจริงออกมาว่าได้ทาบทามลูกสาวของเพื่อนไว้ให้แล้วเป็นเด็กดีทั้งกิริยามารยาทและชาติตระกูล เรียนมาก็สูง ป๋าเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ งานบวชฉันก็อุตส่าห์ขอยืมตัวมาจากพ่อแม่เขาให้ไปถือเทียนเอกให้ ฉันจึงถึงบางอ้อเพราะตอนที่บวชถูกเพื่อนแซวกันเป็นการเอิกเกริก เมื่อปรากฏว่ามีสาว ขาว สวย หมวย ใส มาเป็นผู้ถือเทียนเอกให้ ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมักจี่มาก่อน ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร จนสงสัยว่าจะมาผิดงาน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นฝีมือป๋า ปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ แม้กระทั่งสมปองยังแอบค้อนเอาให้ตั้งหลายวง

พอได้ยินป๋ากับแม่ยกตัวฉันขึ้นไปเสียจนตุ่มกลายเป็นอะไรที่ ”ไม่เหมาะสม” กับฉันไป อารมณ์สนุกที่ทีแรกคิดเพียงแต่จะเย้าคนทั้งสองแบบทีเล่นทีจริงก็เหือดหายไปสิ้น จำได้ว่าฉันเกิดความรู้สึกที่ผสมกันไประหว่างความเสียใจและความสงสารเห็นใจตุ่มที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย ยืนยันได้ว่าในความรู้สึกที่ผสมปนเปกันอยู่ในขณะนั้นมิได้มีกระแสเชี่ยวของความรักที่ “เหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ” เจือปนอยู่แต่อย่างใด ฉันคิดวกไปวนมาอยู่แค่ว่าหากเพียงเพราะว่า ตุ่มเป็นเด็กบ้านนอก เป็นลูกคนจน ร่ำเรียนมาไม่สูง แถมยังไม่สวยเตะตาใคร ๆ ทำให้การที่ฉันริจะแต่งงานกับตุ่มเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นอะไรที่ไม่คู่ควรกันแล้ว ฉันก็ไม่น่าจะคู่ควรกับตุ่มเช่นกัน เพราะฉันไม่เคยคิดเลยว่าการที่ฉันเป็นคนอำเภอพระนครและตุ่มเป็นคนอำเภอเพ็ญหรือการที่ฉันเป็นลูกของป๋าและแม่และตุ่มที่เป็นลูกของพ่อเทพและแม่ปัญญาทำให้กลายเป็นว่าฉันมาจาก “ชาติตระกูล” ที่ดีกว่าตุ่ม ในความสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่นั้น ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนวิเศษเลอเลิศ ไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่เหนือกว่าตุ่มไม่ว่าจะด้วยประการใด ๆ ทั้งสิ้น

เมื่อป๋าและแม่เห็นฉันนิ่งงันไปคงคิดว่าฉันนิ่งเพื่อคิดหาหนทางจะสู้โดยวิธี “ดื้อตาใส” ดังที่เคยเป็นมาตั้งแต่วัยเด็ก ป๋าจึงกะที่จะเผด็จศึกไม่ให้เรื่องนี้ยืดเยื้ออีกต่อไปด้วยการยื่นคำขาดว่าหากฉันคิดว่ามีปีกที่กล้าขาที่แข็งแล้วไม่ยอมฟังเหตุผลที่ป๋าและแม่ยกขึ้นเป็นเหตุเป็นผล จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้ก็ไม่ต้องกลับเข้ามาที่บ้านนี้อีก ฉันได้ยินเข้าก็ตัวชาไปด้วยไม่คิดว่าจะได้รับการต่อต้านรุนแรงขนาดนี้ คงเป็นความทิฐิมานะอย่างแรงกล้าที่ทำให้ฉันยืนยันกลับไปว่าไม่ว่าป๋ากับแม่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตามฉันก็จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้ แล้วก็ยกมือไหว้ลาทั้งสองอย่างที่ปฏิบัติมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตก่อนที่จะหันหลังลงจากบ้านตะโกนเรียกตุ่มซึ่งระเห็ดขึ้นไปอยู่บนรั้วบ้านกำลังยงโย่ยงหยกจะสอยมะละกอเตรียมจะเอามาตำส้มตำให้ลงมาจากรั้วไวไวแล้วจูงมือกันขับรถตรงกลับอุดรในทันทีทั้งที่เย็นมากแล้ว ในใจฉันนั้นก็ครุ่นคิดเคียดแค้นว่าให้มันรู้กันไป เป็นตายอย่างไรจะไม่กลับมาบ้านอีก

ตลอดทางเราสองคนเกือบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนอกจาก “หิวไหม” “แวะหาอะไรกินก่อนไหม” “ง่วงไหม” “ช่วยขับเอาไหม” “ข้างหน้ามีรถจอด” “ระวัง..รถอีแต๋นไม่มีไฟ” ตุ่มไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ไม่ได้เล่าให้ตุ่มฟังเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตุ่มก็คงพอจะเดาออกว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี ตลอดทางกลับอุดรเราทั้งสองต่างจมอยู่ในภวังค์ของความคิดคำนึงที่ต่างเป็นอิสระมิได้ขึ้นต่อกัน นี่เองได้กลายเป็นวิถีซึ่งเราใช้กันมาตลอดเวลาเกือบสามสิบปีที่อยู่ร่วมกันมา

เมื่อย้อนคิดพิจารณากลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หากจะถามว่าใครผิดใครถูก คงตอบได้ว่า ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ถ้าจะถามว่าฉันเป็นลูกอกตัญญูหรือไม่ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับฟังคำทัดทานของป๋ากับแม่ในเรื่องของคู่ครองฉันก็คงตอบว่าไม่น่าจะใช่เพราะมันเป็นคนละเรื่องกัน การที่ฉันตัดสินใจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใดเป็นเรื่องของหัวใจมิใช่ความจำเป็นและผลที่ตามมาจากการตัดสินใจนั้นก็เป็นเรื่องที่ฉันจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง จะไปโทษโน่นโทษนี่ไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงน่าจะมีสิทธิที่จะเป็นผู้เลือก มิใช่จะต้องทนเล่นบทลูกกตัญญูยอมให้ป๋ากับแม่จับฉันไปแต่งงานอยู่กินกับใครก็ไม่รู้ที่ฉันไม่เคยรู้จักมักจี่มาก่อน ฉันเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมทั้งกับตัวฉันเองและกับตัวผู้หญิงคนนั้นด้วย
มีต่ออีกนิด..ข้างล่าง
จากคุณ : แมงกะพรุน - [11 ก.ค. 45 23:45:49 A:203.149.43.177 X:]

ความคิดเห็นที่ 1
ในส่วนของป๋ากับแม่นั้น ก็ไม่ผิดอีกเพราะไม่มีพ่อแม่คนใดในโลกนี้ที่อยากให้ลูกได้ในสิ่งที่น้อยกว่าอะไรที่ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ “ดีที่สุด” แต่มุมมองของผู้ใหญ่กับเด็กในทุกยุคทุกสมัยก็มักจะสวนทางเป็นเส้นขนานกันอยู่เสมอ ฉันรู้แจ้งเห็นจริงในสัจจะธรรมข้อนี้เป็นอย่างดีเมื่อตัวเองกลายมาเป็น “พ่อ” มีลูกชายถึงสองคนที่น้อยครั้งนักที่แนวความคิดจะสอดคล้องกัน

ดังที่เคยเกริ่นมาก่อนหน้านี้ว่าฉันมีความเชื่อว่าทุกสิ่งในชีวิตล้วนถูกลิขิตกำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น เพราะเหตุใดฉันจึงเลือกที่จะเขียนจดหมายไปสมัครงานในตำแหน่งเทลเลอร์จากกรอบประกาศหางานขนาดเล็กเพียง 4x6 นิ้วที่ล้อมลอบไปด้วยงานอื่น ๆ ที่น่าสนใจตั้งมากมาย ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นงานอะไร ทำไมคุณเพ็ญศรีจึงได้เลือกจดหมายสมัครงานที่แสนจะธรรมดาของฉันออกจากกองจดหมายสมัครงานที่มีเป็นร้อย ๆ ฉบับ เพราะเหตุใดฉันจึงตัดสินใจหนีงานเพื่อไปงานแต่งงานของเด่นชัยที่อุดร เพราะเหตุใดฉันจึงรับข้อเสนอของ มร.เค้นท์ เพื่อจากบ้านไปทำงานในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย เพราะเหตุใดป๋าจึงไม่บอกความจริงว่าได้ทาบทามผู้หญิงไว้ให้กับฉันก่อนที่ฉันจะตัดสินใจไปอุดร เพราะเหตุใดฉันจึงรับพนันกับเด่นชัย เพราะเหตุใดตุ่มจึงไม่ด่าแต่กลับรับคำเมื่อฉันชวนไปดูหนังเป็นครั้งแรก เพราะเหตุใดฉันจึงไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่ เพราะเหตุใดตุ่มจึงซื้อโจ๊กหม้อนั้น ทุกอย่างในชีวิตมีจังหวะที่ลงตัวของมันเอง เหมือนตัวโดมิโนที่ต้องมีแรงมากระทำให้ตัวแรกต้องล้มเสียก่อนตัว ต่อ ๆ ไปจึงจะล้มได้ ทุกอย่างในชีวิตล้วนมีผู้ลิขิตไว้แล้ว

หลายครั้งที่ฉันถามตัวเองด้วยคำถามอันเป็นสมมุติไม่มีทางเป็นจริงไปได้ว่าหากให้กลับไปเริ่มต้นได้ใหม่ ฉันคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตที่ผ่านมาหรือไม่ และเหมือนกันทุกครั้งฉันจะตอบคำถามเชิงสมมุตินั้นได้อย่างหนักแน่นว่า “ไม่”

นอกจากป๋าและแม่แล้ว บรรดาผองเพื่อนรวมตลอดไปจนถึงญาติพี่น้องข้างตุ่มก็ดูเหมือนว่าจะไม่ไว้ใจฉันนัก ด้วยรู้กิตติศัพท์ว่าฉันเป็นนักเที่ยวหัวราน้ำ แม้ว่าจะมีหน้าที่งานการซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นหลักเป็นฐานทำก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างฉันและตุ่มจึงถูกเฝ้ามองด้วยความระแวงสงสัยตลอดมา ส่วนตัวฉันเอง เมื่อเริ่มคบไปไหนมาไหนกับตุ่มก็เริ่มห่างเหินบรรดาเพื่อฝูงที่เคยเที่ยวเคยเตร่หัวหกก้นขวิดด้วยกันมา ถึงขั้นมีหลายคนที่เข้าใจผิดต่อว่าฉันอย่างหนักว่าเมื่อฉันบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปร่วมวงด้วยเหมือนดังแต่ก่อน บางคนก็ต่อว่าฉันรุนแรงว่าฉันนั้นเห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อนจนจะผิดใจกันไปก็หลายคน

นอกจากเริ่มห่างเหินจากวงเหล้าแล้วฉันยังเริ่มมีความคิดรับผิดชอบที่จะเก็บหอมรอมริบแทนการใช้จ่ายอย่างสุรุยสุร่ายมีเท่าไรใช้เท่านั้นอย่างที่ผ่านมา เกี่ยวกับแผนเก็บสตางค์นี้ ฉันคิดที่จะลองใจตุ่มโดยออกปากว่าอยากจะขอเงินจากตุ่มเดือนละ 500 บาทซึ่งตุ่มก็ตกปากรับคำในทันทีโดยไม่ถามด้วยซ้ำว่าจะเอาเงินไปทำอะไร เมื่อได้เงินมา ฉันก็เอาส่วนของฉันสมทบเข้าไปอีก 500 รวมเป็นหนึ่งพันบาทแล้วแอบไปเปิดบัญชีฝากประจำไว้ที่ธนาคาร จำได้ว่าเป็นธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนโพธิ์ศรี เงินที่เก็บสะสมไว้นี้ ในที่สุดได้ถอนออกมาใช้เป็นเงินซื้อแหวนหนั้นและใช้ในการจัดงานแต่งงานบางส่วนสมดังเจตนารมย์

ทั้งตุ่มและฉันเป็นคนปีขาล แต่ที่จริงตุ่มเป็นพี่แก่เดือนกว่าฉัน 3 เดือน เมื่อฉันกับตุ่มตัดสินใจที่จะแต่งงานอยู่กินกัน เราทั้งคู่จึงมีอายุเพียงแค่ 23 ปีย่าง 24 ปีเท่ากันเทียบกับเด็กสมัยนี้แล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพายกันเลย ฉันจำไม่ได้แล้วว่าพูดกับตุ่มเรื่องแต่งงานนี้อย่างไร เท่าที่จำได้ไม่ได้พูดอะไรเชย ๆ แบบในหนังสือรักหวานแหววอะไรทำนองนั้น ต่างคนต่างเข้าใจวัตถุประสงค์ของความสัมพันธ์ของเราถูกต้องตรงกัน ทั้งตุ่มและฉันต่างก็ไม่มีใครอื่น มันก็เลยกลายเป็นว่าเราเป็นอะไรที่เป็นคู่กันโดยปริยาย เห็นคนหนึ่งต้องเห็นอีกคนหนึ่งเป็นเงาตามตัวกันไปเสมอ มาทำงานพร้อมกันกินข้าวกลางวันด้วยกัน กลับบ้านพร้อมกัน ไปดูหนังรอบทุ่มด้วยกัน ไปตีปิงปองบ้านทวีด้วยกัน วันหยุดก็ขับรถไปเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วยกัน

เราทั้งสองไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าการที่ฉันเอ่ยขึ้นมาในค่ำวันหนึ่งหลังจากหนังเลิกและกำลังขับรถพาตุ่มไปส่งยังบ้านว่า “ผมจะให้แม่มาคุยกับพ่อเทพเรื่องของเรานะ” ตุ่มนิ่งไปพักใหญ่จึงตอบกลับมาว่า “ก็ตามใจ ถ้าแน่ใจว่าไม่รังเกียจเด็กบ้านนอกยากจน เรียนมาก็น้อยแถมยังมีน้องที่ต้องรับผิดชอบอีกเป็นฝูง แต่ถ้าหากว่าจะมีปัญหาตามมามากนักก็คบกันไปอย่างนี้ไม่ต้องต่งต้องแต่งให้มันมากเรื่องหรือจะเลิกคบกันก็ตามใจ” ที่จริงถ้าตุ่มไม่พูดคำว่า ”หรือจะเลิกคบกันก็ตามใจ” ฉันคงไม่รู้สึกเจ็บแปลบยอกไปทั้งหัวใจจนต้องนิ่งงันไปตลอดทางช่วงที่เหลือ ฉันรู้สึกน้อยใจนักที่เรามากันได้จนไกลขนาดนี้แล้วตุ่มยังมีความคิดอย่างที่พูดออกมา ค่าที่ฉันสู้อุตส่าห์ลงเดิมพันถึงขั้นที่ยอมละทิ้งความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับป๋าและแม่เพียงเพื่อแลกกับความสัมพันธ์ของฉันและตุ่ม แต่ตุ่มกลับคิดจะยอมแพ้เอาง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มฝ่าฟันต่อสู้เลยเสียด้วยซ้ำ ความน้อยใจและความเสียใจทำให้ฉันเกิดอาการงอนไม่พูดด้วยไม่ไปรับไม่ไปหาไม่มองหน้าตุ่มเสียหลายวัน เลิกงานก็รีบกลับไปขลุกกินเหล้าจนเมาไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่ที่บ้านทวี จนทวีชักเอะใจว่าเกิดอะไรกันขึ้น ถามอย่างไรฉันก็ไม่พูด

ค่ำวันหนึ่ง โดยไม่พูดไม่จาทวีก็ลุกผลุนผลันหายไปพักใหญ่แล้วขี่มอร์เตอร์ไซค์กลับมา มีตุ่มนั่งซ้อนท้ายมาด้วย

จากคุณ : แมงกะพรุน - [11 ก.ค. 45 23:50:06 A:203.149.43.177 X:]

ความคิดเห็นที่ 2
Glad to see you again kha..
O-dai-ji-ni
จากคุณ : guest - [12 ก.ค. 45 00:00:31 A:133.68.126.131 X:]

ความคิดเห็นที่ 3
นั่นแน่ งอนนางเอกเสียแล้ว นางเอกตามมาง้อแน่เลย @^_^@ คุณแมงกะพรุนหายไปนานเลยนะค่ะคราวนี้ สุขภาพเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
จากคุณ : ธราธร - [12 ก.ค. 45 00:35:07 A:194.80.32.11 X:10.38.40.120]

ความคิดเห็นที่ 4
Just take a break from lab kha.. Wanna write a lot, but it is not easy for me to explain in English.. But I do agree.. many things that happened in my life.. it should be destiny kha..
Gute Besserung!
จากคุณ : guest - [12 ก.ค. 45 00:46:38 A:133.68.126.131 X:]

ความคิดเห็นที่ 5
ยิ่งอ่านยิ่งชอบพี่ตุ่ม เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง เป็นผู้ใหญ่จริง ๆ ไอซ์เห็นด้วยกับพี่แมงกะพรุนง่ะค่ะ บางสิ่งบางอย่างมันรอเราอยู่แล้วแต่มันก็เพราะว่า เราเลือกด้วย เราเลือกที่จะก้าวไปทางซ้าย แทนที่จะเป็นทางขวา และผลลัพธ์ ก็เป็นสิ่งที่เรารออยู่ มันเป็นหนทางที่ถูกเสมอเพราะทางที่ผิด มันไม่มีวันจะเกิดขึ้น เพราะทางขวา เราได้ละทิ้งไปแล้ว เง็งมั้ยเนี่ย? แหะ ๆ
รักษาสุขภาพนะคะ หายไปหลายวันเชียว เป็นห่วงค่ะ ^^
จากคุณ : Clear Ice - [12 ก.ค. 45 02:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6
อ่านตอนนี้แล้วยิ่งนับถือน้ำใจคุณแมงกะพรุนมากขึ้นที่ไม่เห็นคนแค่เปลือกภายนอก ดีใจแทนนางเอกสุดห้าวของเราที่ได้คู่ชีวิตที่ดีนะคะ คุณตุ่มเองก็น่ารักมากและใจนักเลงอย่างหาตัวจับยากจริงๆ จะเป็นไปได้ไหมหนอถ้าจะขอดูรูปนางเอกซักครั้ง รูปจะเก่าใหม่แค่ไหนไม่ว่าเลยค่ะถ้าจะกรุณา ตอนนี้ทิ้งท้ายไว้ให้ตื่นเต้นเหมือนนิยายขายดี อยากรู้ว่านางเอกจะมีวิธีง้อพระเอกยังไง แล้วพระเอกจะหายงอนหรือจะถูกอัดจนหมอบ แหม.. อย่าให้รอนานนักนะคะ
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [12 ก.ค. 45 03:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7
เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด บุพเพสันนิวาส ที่ประสาทความรักภิรมย์ จริงๆนะคะ คนที่เป็นคู่กันจริงๆ ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจริงๆ ไม่ใช่แต่ร่วมสุข ทุกข์ไม่เอา ดีใจแทนพี่แมงฯจังค่ะที่โชคดีเจอภรรยาพันธุ์แท้ตั้งแต่แรก เกือบสามสิบปีแล้ว นับถือ นับถือ
จากคุณ : bellissima - [12 ก.ค. 45 04:40:28 A:217.162.80.77 X:]

ความคิดเห็นที่ 8
เป็นการตัดสินใจที่ดีแล้วครับ
จากคุณ : GTW - [12 ก.ค. 45 05:40:36 A:202.133.172.111 X:]

ความคิดเห็นที่ 10
ชีวิตคนเราได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ผมเห็นด้วยจริง ๆครับ
จากคุณ : ken - [12 ก.ค. 45 09:40:14 A:203.144.251.90 X:]

ความคิดเห็นที่ 11
ชีวิตของเราขึ้นกับตัวเราเองนะ
จากคุณ : Licht (Miran) - [12 ก.ค. 45 19:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12
I used to believe like #11..but when I looked back...I am not sure..
จากคุณ : guest - [13 ก.ค. 45 00:39:32 A:133.68.126.131 X:]

ความคิดเห็นที่ 13
มาช้าอีกแล้ว......นึกไว้แล้วเชียวว่าต้องเจออุปสรรคตอนหน้าได้เห็นน้ำตานางเอกแน่ๆเลยลุ้นอีกแล้วคุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลายต้องเข้าใจว่าเลี้ยงลูกให้โตได้แต่บังคับหัวใจลูกไม่ได้ ไม่งั้นจะเสียใจสุดๆ
รักษาสุขภาพมากๆนะคะ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [13 ก.ค. 45 01:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14
ขอเสนอเพลงประกอบตอนนี้ครับ 'Keeper of the stars' ของ Tracy Byrd แต่งโดย 'Dickey Lee, Danny Mayo และ Karen Staley' อ่านเนื้อร้องเฉยๆ อาจไม่ซาบซึ้งเท่าไร ขอแนะนำให้หามาเปิดฟังแล้วอ่านเรื่องตอนนี้ของพี่แมงไปด้วย จะได้อรรถรสมาก
จากคุณ : มูโจ้ - [13 ก.ค. 45 08:53:35 A:203.144.143.254 X:203.144.134.43]

ความคิดเห็นที่ 15
ออกจะชื่นชมในการกล้าตัดสินใจของคนวัย 24 ปี จนทุกวันนี้ยังชื่นชมทุกคนที่ตัดสินใจ อะไร อะไรด้วยตัวเอง แต่บางครา ก็ลำบากนักที่จะต้องตัดขาด บางอย่างที่มองไม่เห็น เช่น กตัญญู นั้น ผมทำใจลำบากจริงๆ แต่ก็เชื่อมาตลอดอายุ 20 กว่านี้ว่าทุกอย่างอยู่ที่ 32 องค์ประกอบของตัวเราเองทั้งนั้นเป็น คนกำหนดวิถีของตัวเราเอง หึหึหึ เกิดปีขาล เช่นกันครับ เลยพอเดาๆอายุ คุณแมงกะพรุนได้ ^_^
จากคุณ : เด็กช่างฯ - [13 ก.ค. 45 12:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16
ผมเชื่ออยู่เสมอนะครับว่า การที่คนเราจะตัดสินใจอะไรสักอย่างไปเนี่ย มันมีปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ที่ได้ผ่านมา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อความคิดของเราในช่วงเวลานั้น.เมื่อเราได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว(ยังอยู่ในสภาวะใกล้เคียงกันกับตอนตัดสินใจ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลของการตัดสินใจได้แล้ว) มาลองนั่งคิดดู บางครั้งเราอาจจะคิดว่าเราทำไปได้อย่างไร ดูไร้สาระ ไม่มีเหตุผลเลย.หลังจากนั้นอีกสักพัก เมื่อเราได้อยู่ในสภาวะที่แตกต่างจากตอนตัดสินใจแล้ว ถ้าลองวิเคราะห์ดูอีกทีหนึ่ง ลองแยกแยะสาเหตุออกมา เราก็จะพบแล้วว่าสาเหตุที่เราตัดสินใจไปนั้นเราทำไปเพราะเหตุใดเพราะฉะนั้นคำว่า “เพราะฉันอยากทำ มันไม่มีเหตุผลหรอก” ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นั้นมันมีเบื้องหลังอยู่ครับ**อย่างไรก็ตามครับสิ่งที่ผมคิดเสมอเมื่อได้ตัดสินใจอะไรสักอย่างไปก็คือ ต้องยอมรับผลของมันให้ได้ไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายอย่างไร อย่างน้อยเราก็ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองไปแล้ว*****อีกนิดครับ แต่ช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ตอนที่เราตัดสินใจไปแล้ว ยังไม่รู้ผลว่าจะเป็นอย่างไรเนี่ยแหล่ะครับ ช่วงนั้นนี่จะคิดอะไรไป ต่างๆนาๆ ได้มากมาย*** ฿ เผอิญกำลังอยู่ในช่วงนี้พอดี
รักษาสุขภาพนะครับ สำหรับเพลงของคุณมูโจ้โหลดได้ที่นี่ http://home.graffiti.net/sirichai/Tracy_Bird_-_Keeper_of_the_Stars.mp3
จากคุณ : biblio - [13 ก.ค. 45 14:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17
^-^ เอ...จะเกิดอะไรต่อไปเนี่ย...อืม....ชีวิต ใช่จะดำเนินไปตามบทบาท ความคิด การตัดสินใจของเราคนเดียวซะทีเดียว แต่ยังมีอีกหลายอย่าง หลายคน หลายเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อชีวิตเราด้วย....
จากคุณ : T.time - [13 ก.ค. 45 16:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18
นี่แหล่ะค่ะ "พรหม" ลิขิต เอาไว้แล้ว ยิ่งอ่านยิ่งชื่นชมค่ะ ขอให้สุขภาพของคุณแมงกะพรุนคง ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ
จากคุณ : O-HO - [13 ก.ค. 45 21:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19
เอ... ทำไมความเห็นที่ 18 มีคำว่า "คง" ติดมาด้วย จริงๆ แล้วต้องเป็นขอให้สุขภาพของคุณแมงกะพรุนดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ
จากคุณ : O-HO - [13 ก.ค. 45 21:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20
งุ่มง่ามมาลงชื่อช้าหน่อยนะคะ แต่ส่งกำลังภายในมาตลอดละค่ะ คุณมูโจ้ และคุณ biblio ช่างหาเพลงประกอบฉากได้อะไรจะปานน้าาน.ชอบค่ะ เข้ากับบรรยากาศซะไม่มีละ แต่ไปตาม link เพลงทั้งสองแล้ว เข้าไม่ได้ค่ะ คุณแมงแข็งแรงขึ้นรึยังคะ ยังคงส่งพลังมาช่วยรักษาสม่ำเสมอนะคะฝากดอกไม้สวย..มาทักทายคุณตุ่มด้วย หลงรักเธอเข้าไปแล้วค่ะ จากได้อ่านตอนนี้ขอให้คุณพระคุ้มครองสุขภาพตลอดเวลาค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [13 ก.ค. 45 22:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21
ตามลิ้งค์ที่คุณ biblio ทำให้ เข้าไปดาวน์โหลดไม่ได้ค่ะ แต่ได้หาจากที่อื่นมาลองฟังแล้ว โอ้โฮ เข้ากะบรรยากาศ เนื้อเรื่อง ดิบดีเลยค่ะ ถ้าหมอปราณ พี่แมงฯ หรือใครอยากฟัง ส่งเมล์มานะคะ จะส่งไฟล์ไปให้
littlewings74@yahoo.com
จากคุณ : belissima - [14 ก.ค. 45 04:20:50 A:217.162.81.48 X:]

ความคิดเห็นที่ 22
อยากรู้จักแมงกะพรุนจัง
จากคุณ : ีunnabook1991 - [14 ก.ค. 45 11:59:52 A:202.133.169.238 X:]

ความคิดเห็นที่ 23
ถ้ามีเวลากรุณาติดต่อunnabook1999@hotmail.com
จากคุณ : นพรัตน์ - [14 ก.ค. 45 12:03:14 A:202.133.169.238 X:]

ความคิดเห็นที่ 24
วันนี้ เกิดอารมณ์ สมใจยิ่ง
อยากจะกล่าว เป็นคำกลอน จากใจจริง
ตอบทุกสิ่ง ที่ถาม ตามใจพลัน
------------
ต้องขอบคุณ คุณเกสต์ เขตญี่ปุ่น
หลบว้าวุ่น การงาน มาขานไข
เขียนภาษา อังกฤษ ยังติดใจ
แม้จะไม่ สันทัด ถนัดมือ

ฝ่ายคุณธราธร หนอนหนังสือ
ยินข่าวลือ ว่าเธอ ไม่เผลอไผล
สู้อุตส่าห์ แว่บมาให้ กำลังใจ
สุขสดใส แช่มชื่น ฟื้นชีวี

คุณเคลียไอ้ซ์ โผล่มา ว่าพี่ตุ่ม
แสนสุขุม นุ่มเกิน เขินแล้วนี่
เรื่องชะตา ชีวิต ลิขิตมี
ใส่แสงสี ปรุงรส กำหนดเอา

คุณหมูแดง จ๊ะจ๋า มาตามบท
ร่ายมธุรส เยินยอ ขออีเหนา
อยากดูรูป นงคราญ เมื่อนานเนา
วาดภาพเอา ดีกว่า นะมารตี

คุณบีลิซม่า มากับเพลง บรรเลงขาน
จากวันวาน ไพเราะ เสนาะศรี
เรื่องบุพเพ สันนิวาส อาจไม่มี
อยู่ดีดี เกิดรักได้ อย่างไรกัน

คุณจีที ดับเบิลยู ผู้เคร่งขรึม
มาซึมซึม บอกว่า ดีแล้วฉัน
ตัดสินใจ อย่างที่ มีเดิมพัน
ไม่พลิกผัน แชเชือน เหมือนโลเล

คุณเอพีโอ เก้าหก สามสามศูนย์
แต่คราวนู้น ยังไม่ตอบ ชอบไฉเฉ
ว่าคุณนั้น เป็นใคร ใคร่คะเน
แสนสนเท่ห์ คนใกล้ ใยปิดบัง

คุณเคนว่า เห็นด้วย จริงจริงครับ
คุณลิชมิลานกลับ ไม่เห็นด้วย รวยความหลัง
โบราณว่า คนเรา ต่างจิตตัง
ติงนังนัง ว่าไป ทำไมมี

คุณเกสต์ ยังติดใจ ว่าไม่จบ
เคยเคารพ ตัวเอง ครื้นเครงฉวี
เลือกทางเดิน ให้ตัวเอง เก่งซะไม่มี
สุดท้ายชี้ว่า ถูกผลักไป ให้งงงัน

ถึงมาช้า แต่ยังมา นี่ดียิ่ง
มาทำลิงค์ ให้น้องพี่ มีสีสรร
จะมีใครก็ "น้องเจ" ช่างจำนรร
ไม่ผกผัน หนักแน่น แสนดีใจ

ข้างคุณมารูโจ เอ้ยมูโจ้
ไม่เคยโม้ เหมือนสมรักษ์ ชักขานไข
คีปเปอร์อ๊อฟ เดอะสตาร์ เพราะเสนาะใจ
เคยฟังใน รายการเพลง ลูกทุ่งมี

คุณเด็กช่างฯ มาอีกคน ที่เชื่อว่า
คนนั้นหนาเลือก ทางให้ ตัวเองนี่
ไม่ว่ากัน อันนี้ ฟรีเสรี
ประชาชี มีสิทธิ ไม่ผิดเลย

คุณบิ๊บลีโอ้ มาใหม่ ให้ความเห็น
น่าจะเป็น หลายปัจจัย ใคร่เฉลย
ตัดสินใจ ไปแล้วยัง นั่งเปรียบเปรย
หนุนเขนย ยังไม่หลับ กลัวฉับพลัน

ตัดสินใจ ไปแล้ว ไม่แคล้วหมอง
อย่ามัวมอง ย้อนกลับ ดับความฝัน
มุ่งมั่นเดินไป ข้างหน้า สง่าพลัน
สู้ฝ่าฟัน อุปสรรค์ มักได้ดี

คุณทีไทม์ สงสัย ใช้ความคิด
เอ...จะเกิด อะไร ต่อไปนี่
อย่าวิตก กังวลไป ให้มากมี
เดี๋ยวหมองศรี หน้าไม่สวย ซวยเลยเรา

โอ้โฮเฮะ คุณโอ้โฮ ก็มาด้วย
เข้ามาช่วย เป็นกองเชียร์ เสียเฉิดเฉลา
จนตัวเรา จะลอย ค่อยย่องเบา
ลงไปเอา ของกิน ในครัวมี

แซนด์วิช ปลาทูน่า ประกบผัก
แตงกวา หมักดองไว้ ให้สุขศรี
กินแก้ หิวตอนดึก แม่ครัวมี
ดูทีวี ไม่กล้า ไปรบกวน

กำลังคิดถึงหมอ หมอก็มา น่าแปลกยิ่ง
มีจริง ๆ แรงใจ ไม่ผันผวน
ส่งไปถึง เมืองนอก ออกเมืองญวน
ไปเชิญชวน คุณหมอปราณ เห็นนานมา

คิดว่ามี งานเยอะ คนไข้ร้อง
เข้าคิวจอง หาคุณหมอ จนเมื่อยขา
ทั้งที่ฉีด ที่กิน ต้องสั่งยา
ยังอุตส่าห์ แวะมาเยี่ยมแมงฯได้ ดีใจจริง

ต๊กกะใจ มีคน อยากรู้จัก
อยากรู้นัก ว่าเจ้าหนี้ มีน้ำขิง
ตามมาทวง หนี้เก่า เราพึ่งพิง
ผลัดประวิง ไม่จ่าย แต่ใดมา

ชื่อก็คุ้น อยู่นะ จะขอบอก
นพรัตน์ นั้นออก จะคุ้นหนา
เคยวิ่งเล่น ก่อนเก่า ด้วยกันมา
หากขายหน้า เดาผิดให้ อภัยกัน

มองลงมา จากเวทีเห็น “หมูเปี๊ยก”
นั่งฝอยเรียกฉัน ให้ออกมา น่าขบขัน
โค้งผู้ชม ปรบมือกัน อย่างเมามัน
แค่คิดก็สั่น ไปทั่ว ทั้งตัวเรา

ด้วยเป็นคน ขี้อาย แสนขายหน้า
มีไฟมา ส่องส่าย ยิ่งอายเขา
ชอบแอบอยู่ หลังม่าน ชำนาญเนา
เรื่องเบาเบา อ่านกันเล่น เป็นสุขเอยฯ

จากคุณ : แมงกะพรุน - [15 ก.ค. 45 04:23:23 A:203.149.43.253 X:]

ความคิดเห็นที่ 25
ไม่ได้มาแจมไป 1 ตอน ตอนนี้ก็มาช้าอีกแล้วแหละครับ.....ว้า!! เสียดายจัง อดอยู่ในกลอน เลย
"ทุกอย่างในชีวิตล้วนมีผู้ลิขิตไว้แล้ว"...จริงหรือครับ ผมก็อยากจะเชื่อจังเลย ว่าเค้าลิขิตผมไม่ให้มีคู่...กระมัง?
"เรื่องของฉัน"ก็เข้มขึ้นเรื่อยๆนะครับ แต่ตอนนี้ทำไมจบห้วนจัง?
จากคุณ : พิจิก27 - [15 ก.ค. 45 16:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26
เห็นคุณแมงฯส่งกลอนมาให้อ่าน
ผมก็พาลคันมือในบัดดล
จึงบรรเลงจัดแต่งแข่งด้วยคน
ว่าด้วยผลแห่งกรรมตามตำรา

อันชีวีมีกรรมคอยขับเคลื่อน
ชีวีเลื่อนลื่นไหลในยถา
กรรมกำหนดชีวีไว้ดั่งเภตรา
คอยนำพาชีวีไปในครรลอง

กรรมกำหนดผลลัพธ์แห่งชีวิต
ทำถูกผิดส่งผลให้คนเห็น
ดั่งกำหนดขึ้นไว้ว่าต้องเป็น
ให้คนเห็นเป็นดั่งกำหนดพรหม

พรหมลิขิตเป็นผลมาจากกรรม
คุณธรรมนำพาประสบผล
เกิดเป็นสุขแก่ตัวผู้ดาลดล
ซึ่งเป็นผลเกิดแต่บุญแลกรรม

หากเฉยเมยเพิกเฉยคุณธรรม
กรรมหนุนนำและก่อให้เป็นผล
นำความทุกข์มาสู่ตัวผู้ดล
ให้ทุกข์ทนตามผลแห่งพรหมกรรม
จากคุณ : ken - [17 ก.ค. 45 09:28:46 A:203.144.251.90 X:]

ความคิดเห็นที่ 27
มีทั้งร้อยแก้วร้อยกรอง ดีจริงค่ะ :D
จากคุณ : JW - [17 ก.ค. 45 15:15:49 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 28
กระทู้นี้ ดีจริงจริง ทุกสิ่งสรรพ์
สารพัน ร้อยกรอง ทำนองหวาน
อีกร้อยแก้ว เรื่องของท่าน ตามมานาน
ก็เลยพาล อยากเห็น แม่เย็นใจ

ขอได้โปรด เมตตา ประดาแฟน
อยู่ต่างแดน ไกลบ้าน มาขานไข
พ่อพระเอก ก็เคยเห็น เป็นนัยๆ
แล้วเมื่อไหร่ แม่โฉมศรี จะมีมา

ให้แฟนๆ ได้ชมบ้าง ดังขอไว้
โปรดเห็นใจ เถิดนะ พี่แมง(กระพรุน)จ๋า
แม่นางเอก นักบู๊ คู่บุญญา
ของพี่ท่าน โปรดมา ให้ได้ยล
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [18 ก.ค. 45 03:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29
ติดตามอ่านมานาน จะร้องไห้เรื่อยเลย คุยไม่ค่อยเก่งนะคะ
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย

ความคิดเห็นที่ 30
เขียนซึ้งดีค่ะ ชอบอ่าน สนุกมาก อยากให้เขียนต่อไปเรื่อย ๆ
จากคุณ : สาวจ.เดียวกับคนตุ่ม - [4 ส.ค. 45 16:53:31 A:203.146.35.174 X:]

ไม่มีความคิดเห็น: