วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2551

เรื่องของฉัน ตอนที่ 30

ตอนที่ 30

นับจากนั้นเป็นต้นมา บ้านทวี ก็กลายเป็นบ้านที่สองของฉันที่ฉันจะต้องแวะเวียนไปเป็นประจำหลังจากเลิกงาน ที่นี่ ฉันเริ่มรู้จักคนเพิ่มมากขึ้น นอกจากเด่นชัยซึ่งเป็นคนอุดร เกิดที่อุดร พ่อแม่มีร้านขายเฟอร์นิเจอร์ใหญ่โตอยู่ที่ถนนโพธิ์ศรีแล้ว คนอื่น ๆ จะเป็นคนที่เดินทางมาจากที่อื่นมิใช่เป็นคนท้องถิ่น ที่มาที่ไปของแต่ละคนก็ไม่รู้แน่นอน บางคนมาอุดรพบกันครั้งสองครั้งแล้วหายไป บางคนก็มาทำงานหาเงินมาเช่าบ้านอยู่ บางคนมาตั้งรกรากมีครอบครัวเป็นการถาวร เท่าที่จำได้ก็มี ตุ๊ว๊าก ฉายาตุ๊ว๊ากนี้ได้มาจากการที่คน ๆ นี้เป็นนักเลงและสะสมปืนไว้มาก ผู้คนมักร่ำลือกันเสมอถึงวีรกรรมที่ตุ๊ว๊ากไปไล่ยิงคนนั้นคนนี้ แต่ตลอดเวลาที่ฉันรู้จักกับตุ๊ว๊าก ฉันไม่เคยเห็นมันไล่ยิงใครเลยสักคน ตุ๊ว๊ากมีเมียที่เป็นผู้หญิงเรียบร้อยมากชื่อ "หมู" ถัดไปก็คือ อ๊อดทอม มีชื่อจริงที่ฉันจำได้แม่นตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกว่า คึกฤทธิ์ ยังคบกันอยู่ถึงทุกวันนี้

ตอนอยู่อุดรนั้น อ๊อดทอมเป็นขาใหญ่ ทำงานในอ๊อฟฟิสเซอร์คลับหรือสโมสรนายทหารอเมริกันเป็นผู้จัดการกะกลางคืนหรือที่เรียกว่า “ไนท์ แมเนเจอร์” โดยปกติจะออกเวรตอน 5 ทุ่ม หลังจากออกเวรแล้วจะพบกับอ๊อดได้ที่โต๊ะใหญ่ที่สุดในไนท์คลับชื่อ “ฮอลิเดย์ อินน์” ที่ว่าเป็นขาใหญ่นั้นเพราะอ๊อดทอมเป็นคนใจนักเลงชอบเลี้ยงเพื่อนฝูงจึงมีเพื่อนคอยตามกินฟรีอยู่มากมาย อ๊อดมีเมียนิสัยดีชื่อ "นิตยา" หรือ นิด ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน ต่างคนต่างก็โทษกันให้วุ่นวายไปว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นหมัน ในที่สุดเมื่อเห็นว่าไม่มีลูกแน่แล้วทั้งคู่จึงเลิกเถียงกันว่าใครเป็นหมันแล้วพร้อมใจกันหันไปหาหมาตัวเล็ก ๆ มาเลี้ยงเป็นลูกแทน จนหมาตายไปแล้วก็หลายตัวหลายรุ่น ทุกครั้งที่หมาตาย ทั้งอ๊อดและนิดเป็นต้องเศร้าโศกเสียใจราวกับลูกจริง ๆ ตาย ชวนกันกินเหล้าไว้อาลัยหมากันจนเมาเปรอะไปทั้งผัวทั้งเมีย ปากก็ว่าเข็ดแล้วไม่เลี้ยงหมาแล้ว แต่เห็นใจแข็งอยู่ไม่นานก็หาหมาตัวใหม่มาเลี้ยงทุกที อ๊อดทอมมีตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการใหญ่โตอยู่การปิโตเลียมแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน เลิกเป็นขาใหญ่แล้ว กลับมากินเหล้าที่บ้านตรงเวลาทุกวัน อ๊อดและนิด ยังคงเลี้ยงหมาตัวเล็ก ๆ อยู่ ตัวล่าสุดนี้เป็นหมาพุดเดิ้น สีดำสนิทมีชื่อว่า ไอ้อิงค์

นอกนั้นก็เป็นเพื่อนที่ร่วมดื่มกินกันมาอย่างโชกโชนแต่หายหน้าค่าตาไปหลังจากค่ายบางระจันเอ๊ย..แคมพ์แตก ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เช่น แดงแฮนด์ซั่มเจ้าของและช่างใหญ่ร้านตัดเสื้อกางเกงฝีมือดี รับตัดแค่พรรคพวกก็แทบไม่มีเวลาเหลือตัดให้ขาจรคนอื่นอีกแล้ว แดงแฮนด์ซั่มมีฉันเป็นหนึ่งในลูกค้าประจำตัดให้ตั้งแต่เสื้อกางเกงใส่ไปทำงานไปจนถึงสูทเจ้าบ่าวซึ่งแดงลงทุนออกแบบเลือกผ้าและตัดเย็บให้ด้วยตนเองเลยทีเดียว กติกาของแดงแฮนด์ซั่มรู้กันโดยทั่วไปคือสั่งตัดแล้วห้ามเร่ง ห้ามถาม ตัดเย็บเสร็จเมื่อใดมันจะบอกให้มาเอาเอง

ทุกวันพฤหัสบดีเมื่อเลิกงานแล้วพลพรรคจะย้ายจากบ้านไอ้วีมานัดรวมพลกันที่ร้านแดงแฮนด์ซั่มแทน เพื่อกินเหล้าและดูโทรทัศน์รายการถ่ายทอดมวยจากเวทีที่ขอนแก่นก่อนที่จะไปต่อกันที่อื่น แดงมีเมียชื่อนีนี่ มีลูกสาวด้วยกันสองคน อยู่ดีดีโดยที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยแต่ประการใด ๆ ทั้งสิ้น แดงแฮนด์ซั่มก็ตัดสินใจประกาศเลิกกิจการร้านตัดเสื้อกางเกงเอาดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่มีลูกค้าติดฝีมือตัดเย็บเสื้อกางเกงของมันอยู่มากมาย มันอ้างกับเพื่อน ๆ เพียงสั้น ๆ ว่า เบื่อเพราะทำมานานแล้ว จากนั้นก็อพยพย้ายครอบครัวไปอยู่บ้านเมียที่ขอนแก่น เสียงว่าไปทำน้ำขายอยู่พักหนึ่งแล้วเลิกไปเพราะไปกินเส้นกับคนทำน้ำขายเจ้าเก่าที่บังเอิญเป็นคนมีสีเข้าก็เลยต้องถอยออกมา ก่อนเลิกได้มาชวนฉันซึ่งขณะนั้นย้ายมาทำงานกรุงเทพแล้วให้มาทำน้ำดื่มบรรจุขวดขายในกรุงเทพโดยกะที่จะใช้บ้านฉันเป็นแหล่งผลิต แต่ตอนนั้นฉันไม่มีทุนเลยปฏิเสธไปแดงแฮนด์ซั่มเป็นคนจริงคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก ภายนอกจะอ่อนน้อมถ่อมตนพูดเสียงเย็น ๆ ค่อย ๆ แต่ประวัตินั้นผ่านวงการมาโชกโชนเห็นได้จากรอยแผลเป็นหลายแห่งบนใบหน้า กับฉันเคยเจอกับตัวเองครั้งหนึ่งไปนั่งกินเหล้าฟังเพลงซานตาน่ากันในบาร์ซิลลูเอท มีเมีย ๆ ของเพื่อนหลายคนติดไปด้วย ขณะที่กำลังสนุกกันเต็มที่นั้น ปรากฏว่า นิด ถูกวัยรุ่นแปลกหน้าโต๊ะข้าง ๆ แซวเอาถลึงตาอย่างไรก็ไม่ยอมหยุด แดง ซึ่งนั่งหน้าเฉยดูท่าทีอยู่พักใหญ่ ๆ เห็นว่าไอ้พวกนั้นไม่หยุดแน่ ก็หยิบขวดโซดาเปล่าโยนแบบกระสุนวิถีโค้งไปตกลงกลางโต๊ะมันดังโครมใหญ่ ผลคือทั้งกลุ่มแตกกระเจิงสลายตัวไปในทันทีถัดไปก็เป็นพี่ง้วนกับพี่แอ๊ว พี่ง้วนเป็นช่างแอร์ของโรงหนังเฉลิมสิน ทั้งพี่ง้วนและพี่แอ๊วเป็นนักลีลาศเท้าไฟ เปิดสอนเต้นรำเป็นงานอดิเรกมีพวกฉันเป็นแวะเวียนเป็นลูกศิษย์ขอเรียนสเต็ปใหม่ ๆ ฟรีอยู่เนือง ๆตุ๊ไมตรี ซึ่งทำงานอยู่ที่ธนาคารด้วยกัน ดังที่บอกไว้ในตอนต้นแล้วว่าฉันได้รู้จักกับทวีเพราะตุ๊ไมตรีแบ่งเช่าห้องอยู่บ้านเดียวกันกับทวี ด้วยความที่เป็นคนใต้พูดออกสำเนียงทองแดงหน่อย ๆ อีกทั้งไม่สันทัดภาษาอังกฤษเท่าใดนัก ตุ๊จึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ทำดิสแพทช์ ไม่มีหน้าที่ต้องเกี่ยวข้องกับลูกค้า แต่ทุกวันเพเดย์ ตุ๊จะต้องแวะเวียนมาช่วยเหลืองานแถวหน้าเค้าเตอร์ต้อนรับลูกค้าอยู่เสมอ ลูกค้าที่ตุ๊เลือกให้บริการเป็นพิเศษคือพวกที่มาติดต่อขอปิดบัญชีเพราะโดนย้ายกลับตามวาระหรือย้ายไปประจำการที่ฐานทัพอื่น ตุ๊ไมตรีจะหันซ้ายแลขวา พอแน่ในว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ก็จะกระซิบกับลูกค้าที่มาปิดบัญชีให้ได้ยินกันเพียงสองคนว่า “โคล้ส แอ๊กเค้าท์..คอมมิชชั่น ทรีดอลล่าร์”

เมื่อมีเวลาว่างหลังเลิกงานตุ๊ไมตรีก็จะจีบลูกสาวเจ้าของบ้านที่ทวีเช่าอยู่ชื่อสุนันท์ไปด้วย เสียงเล่าว่าทีแรก ๆ ไอ้ตุ๊ก็จีบเจ๊แกเล่น ๆ พอให้ปากไม่เหงาไปงั้น ๆ เรื่องตุ๊ไมตรีกับ "เจ๊นันท์" นี้สนุกนัก เพื่อน ๆ เอามาล้อกันประจำเนื่องจากเจ๊นันท์เป็นสาวแก่เจ้าระเบียบอายุมากกว่าไอ้ตุ๊เกือบห้าปี จู้จี้ขี้บ่น แถมยังเค็มจัด ไอ้ตุ๊จึงถูกเจ๊นันท์เรียกตัวไปอบรมความประพฤติอยู่เนือง ๆ เจ๊นันท์ไม่ค่อยถูกชะตากับทวีและผองเพื่อนมากนัก เนื่องจากหนวกหูพวกขี้เมาที่พอเมาได้ที่ทีไรเป็นต้องร้องเพลงประสานเสียงดังโหยหวลไปทุกที เรื่องเพลงประสานเสียงนี้คนฟังจะต้องเมาได้ที่จึงจะฟังออกว่าเพราะ เริ่มด้วยเพลงรำวงสนุกสนานซึ่งทั้งเพลงล้วนแต่เป็นคำผวนทั้งสิ้นเนื้อร้องยังจำได้แม่นจนทุกวันนี้แต่เอามาเล่าสู่กันฟังไม่ได้เป็นเด็ดขาด ต่อด้วยเพลงสัพเพเหระต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะร้องนำขึ้นมาก่อนแต่จะจบลงที่เพลงที่ร้องว่า “คลื่นซัดครืนครืนซ่า หาดผาแดง ภูผาแห่งแห่งนิยายสวาดสวรรค์ ลมพัดเย็น เย็นพัดลม ลมพัดเย็น เย็นพัดลม เพราะว่าที่นั่นมีพัดลม” ทุกครั้งไปคืนไหนเจ๊นันท์แกเกิดทนไม่ไหวขึ้นมาก็จะตะโกนด่ากระทบกระเทียบฝากมากับสายลมเสียที เล่นเอาวงเหล้าและพ่อเพลงขี้เมากร่อยไปก็บ่อย แม้ว่าเจ๊นันท์จะรับราชการมีตำแหน่งสูงเป็นถึงศึกษาธิการจังหวัดก็ตามแต่แกก็เป็นคนหัวโบราณ มีอยู่คืนหนึ่งเป็นคืนเดือนหงาย พวกขี้เมานั่งล้อมวงกินเหล้ากันอยู่ที่ระเบียง พอเมาได้ที่ก็บังเอิญเกิดจันทรุปราคาหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าราหูอมจันทร์ขึ้น พวกขี้เมาเห็นเข้าส่งเสียงเชียร์กันเฮ ๆ ดังไปเข้าหูเจ๊นันท์เข้า ไม่รู้ว่าแกแอบลงมาจากเรือนตอนไหนเห็นเดินท่อม ๆ เอาสันมีดอีโต้ไล่เคาะต้นหมากรากไม้ไปทั่ว ไอ้วีทนสงสัยไม่ไหวตะโกนถามไปว่า “นั่นเจ๊ทำอะไร” เจ๊นันท์ตะโกนตอบมาด้วยเสียงหวั่น ๆ ว่า “เคาะต้นไม้ไล่พระราหูให้ตกใจจะได้รีบคายพระจันทร์เร็ว ๆ“ ผลคือพวกขี้เมาฮากันตรึมไป ส่วนตุ๊ไมตรีนั้นขนาดหน้าดำ ๆ คนหลายคนที่ยินดีเป็นพยานในศาลยืนยันโดยพร้อมเพรียงกันว่าเห็นหน้ามันแดงก่ำราวกับแก้มสาวทารูจ

เจ๊นันท์ไปหลงคารมไอ้ตุ๊อีท่าไหนก็ไม่รู้ตอนหลังจึงได้แต่งงานอยู่กินกันจนมีลูกสาวหนึ่งคน หลังจากนั้นเมื่อแคมพ์แตกได้ไม่นานก็ทราบข่าวว่าทั้งคู่อยู่กันไม่ยึดหย่าขาดจากกัน ส่วนไอ้ตุ๊กลับไปปักษ์ใต้ มันเคยแวะมานอนกินเหล้าที่บ้านฉันครั้งหรือสองครั้ง ครั้งสุดท้ายมาชวนลงทุนทำนากุ้งหรืออะไรนี่แหล่ะ ฉันไม่มีสตางค์เลยปฏิเสธไปแต่ก็ได้ให้เงินมันเป็นค่ารถกลับบ้านไปจำนวนหนึ่งแล้วตุ๊ไมตรีก็หายหน้าไปจากชีวิตฉันตั้งแต่นั้นมา

ถัดไปก็เป็นประสานหรือ "ไอ้สาน" คนนี้รู้จักกับตุ๊ไมตรีมาก่อนเพราะเป็นคนใต้อยู่บ้านเดียวกัน ไอ้สานมาอาศัยอยู่กินที่บ้านทวี ไม่ได้ทำงานทำการเป็นหลักแหล่ง แต่มีวิชาด้านงานก่อสร้างและเขียนแบบติดตัวมา ที่รู้เพราะเห็นมันช่วยทวีเขียนแบบอยู่บ่อย ๆ ต่อมาที่ทำงานฉันมีงบประมาณให้ทำการตกแต่งภายในตัวธนาคารเสียใหม่เนื่องจากของเดิมเก่าทรุดโทรมเต็มที ฉันเห็นไอ้สานนอนว่าง ๆ อยู่จึงชักนำให้เข้าไปรับงานออกแบบรับเหมาปรับปรุงตกแต่งภายในโดยให้ขอทวีเป็นคนออกแบบและคุมงาน เอาไปเอามาปรากฏว่าทวีขอถอนตัวไปเพราะคุมไอ้สานไม่อยู่ ความเห็นไม่ค่อยจะตรงกันในหลาย ๆ เรื่อง จนฉันเริ่มใจไม่ดีด้วยเกรงว่างานจะล่ม อย่างไรก็ดีไอ้สานก็ทำงานจนจบมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ บวกลบคูณหารแล้วไม่มีกำไรมากนัก เหลือเงินนิดหน่อยไอ้สานก็มาชวนฉันเปิดร้านอาหารขายพวกลาบส้มตำชื่อร้าน "อิสาน-ทักษิน" ลงทุนกันคนละสองหมื่น แรก ๆ ก็ทำท่าว่าจะดีเพราะมีเพื่อน ๆ แวะเวียนมาอุดหนุนจนแน่นร้านทุกเย็นไปจ่ายสตางค์บ้างไม่จ่ายบ้างก็ยังดีพอมีค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟ แต่อยู่ไปได้ไม่นานก็เริ่มแผ่วปลายจนต้องเลิกกิจการไปในที่สุดเพราะไม่มีเวลา คุมแม่ครัวที่จ้างมาไม่อยู่ เมื่อหมดงานที่อุดรประสานก็หายหน้าสาบสูญไปคล้ายกับคนที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลก

อีกคนที่ไม่ได้อยู่ประจำแต่แวะเวียนมาอุดรทุกเดือนคือ "โอ๊ต" คนนี้ไม่รู้มาทางสายไหน มีอาชีพเป็นคนเก็บเงินให้กับหนังสือพิมพ์และนิตยสารซึ่งมันจะเดิมทางมาเก็บเงินเดือนละครั้ง ทุกครั้งที่มาก็จะมาเช่าโรงแรมนอนแต่ส่วนใหญ่จะมาขลุกอยู่ที่บ้านทวีและใช้อุดรเป็นศูนย์กลางในการเก็บเงินจากเอเยนต์หนังสือในจังหวัดแถบอิสานเหนือไอ้โอ๊ตเกี่ยวพันกับชีวิตฉันตั้งแต่หนุ่มจนฉันแต่งงานมีลูกและย้ายมากลับมาอยู่กรุงเทพแล้วมันก็ยังแวะเวียนไปมาหาสู่กันอยู่เนือง ๆ โดยหลังจากที่งานที่อุดรหมดลงไอ้โอ๊ตดันพาลูกสาวใครก็ไม่รู้หนีพ่อตามาขออาศัยบ้านฉันเป็นที่หลบภัยอยู่พักใหญ่ เห็นมันบอกว่าพ่อเมียมันดุนักเที่ยวประกาศไปทั่วว่าเจอมันเมื่อไหร่จะยิงให้ตาย คู่นี้รักกันจริงอยู่กันทนมีลูกสาวน่ารักด้วยกันหนึ่งคน ต่อมาโอ๊ตหอบลูกหอบเมียไปหลบเช่าบ้านอยู่แถวฝั่งธนฯ ส่วนตัวมันเองเสี่ยงบินไปทำงานที่อเมริกาโดยไปแบบไปตายเอาดาบหน้า หลบอิม "อิมมิเกรชั่น" อยู่ได้เป็นหลายปี รับจ้างทำมันทุกอย่าง ตั้งแต่ตัดหญ้าทาสีไปจนถึงซ่อมตู้เย็น สุดท้ายหอบเงินกลับเมืองไทยมาก้อนใหญ่พอสมควร ครั้งหลังสุดมันพาลูกพาเมียนั่งรถปิ๊กอัพป้ายแดงใหม่เอี่ยมมากินข้าวกันฉันหนึ่งมื้อเล่าให้ฟังว่าเป็นเฒ่าแก่จับเสือมือเปล่าด้วยการซื้อที่ดินถูก ๆ เอามาเข้าแบงค์แล้วเอาเงินจากแบงค์มาปลูกตึกแถวขายอีกที จากนั้นฉันก็ไม่ได้ข่าวไอ้โอ๊ตอีกเลย

แมงกะพรุน - [23 มิ.ย. 45 03:13:41 A:203.121.148.194 X:]

ความคิดเห็นที่ 1
14.38 น. เวสโคสต์ แคนาดา มาปูเสื่อรอได้อ่านคนแรกเลย ฮ่าๆๆๆ มาลงชื่อก่อนอ่านตอน 30 นะพี่แมงกะพรุนขอหนูเป็นคนแรกที่อ่านตอนนี้ค่า........
จากคุณ : JW - [23 มิ.ย. 45 04:29:42 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 2
ตัวละครเพียบเลยนะคะ พี่แมงกะพรุนมีเพื่อนฝูงเยอะจริงๆ ตั้งวงกันบ่อยด้วยแฮ่ะๆๆ นกน้อยในกรงทองโผบินสู่โลกกว้าง
อิสระเสรีจริงๆ ทายว่า นางเอกเขียนขอบปากเสร็จแล้ว เหลือทาลิปสติกค่ะ ลุ้นๆจริงๆๆ
จากคุณ : JW - [23 มิ.ย. 45 04:44:34 A:142.173.107.180 X:]

ความคิดเห็นที่ 3
ลิงค์ร้อนๆมาแล้วค่ะ
ตอนที่ 29
http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1575450/W1575450.html
จากคุณ : JW (Chelsey) - [23 มิ.ย. 45 04:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4
พี่แมงกะพรุนคะ ลิงค์มันเริ่มยาวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เจเกรงว่าบางตอนอาจจะโดนลบเพราะเนื้อที่พันทิพคงจะมีจำกัด เจอยากคุยแก้ปัญหาเรื่องนี้กับพี่แมงกะพรุนค่ะ รบกวนคุยกันที่อีเมล์เจนะคะ
ohhoprincess@yahoo.com Happy Weekend ka
จากคุณ : JW (Chelsey) - [23 มิ.ย. 45 04:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5
ตอนเย็นๆแต่แดดแรง.... ตะวันออกของยูเอ็ส (เลียนแบบคุณ เจฯ ค่ะ) ตอนนี้้ ทำสมุดคู่มือมาช่วยอ่านด้วยค่ะ คุณแมงกะพรุน อิ๊..อิ๊..(คือเอามาจดรายชื่อคนในเรื่องไงคะ กลัวสับสนค่าาา แก่จัดไปหน่อยเซลล์สมองสลายไปเยอะแล้ว ) คิดว่าจะแตกออกไปเป็นเรื่องๆ ได้เยอะเลยมังคะ ขอทักทายคุณ JW(Chelsey) ด้วยค่ะ คุ้นกันเสียแล้ว และ วันนี้ทีมทวีปนี้แซงทีมไทยมานั่งข้างหน้ากันแล้วละค่ะ ขอคุณพระคุ้มครองสุขภาพคุณแมงกะพรุนตลอดนะคะ
จากคุณ : ปราณ - [23 มิ.ย. 45 05:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6
ผมว่านายตุ๊นั่นล่ะ ไปหลงคารมเจ๊นันท์ (แบบไม่รู้ตัว) อิอิ
จากคุณ : GTW - [23 มิ.ย. 45 05:27:54 A:202.133.172.1 X:]

ความคิดเห็นที่ 7

สวัสดีค่ะคุณหมอปราณ ขอทักทายด้วยค่ะที่นี่แดดแรงเหมือนกันตอนกลางคืนแสงพระจันทร์สีเงินสะท้อนน้ำงดงามมากนึกๆว่าน่าจะมีนางเงือกโผล่ขึ้นจากน้ำถ้ามีจริงๆคงเผ่นแล้ว หุๆๆ มีความสุขกันนะคะ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [23 มิ.ย. 45 06:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8
ตอนดึกๆ ทางเหนือของอังกฤษ (เลียนแบบคุณปราณ กับคุณ JW ด้วยคนค่ะ อิ อิ) ค่อยๆ ต้วมเตี้ยมตามทวีปอื่นมาขออ่านด้วยคนนะค่ะ
จากคุณ : ํธราธร - [23 มิ.ย. 45 07:44:14 A:194.80.32.11 X:10.38.40.120]

ความคิดเห็นที่ 9
อ่านตอนนี้แล้วเลยไปหาเพลง “หาดผาแดง” มานั่งฟังค่ะ เอามาร้องให้คุณแมงกะพรุนฟังนะค่ะ (กลัวโดนแซวว่าเข้ามานั่งยิ้มอย่างเดียว) “คลื่นซัดครืน ครืนซ่าที่ผาแดง ภูผาแห่งนิยายสวาทอาถรรพ์ พาสวยงามนามผาแดง ลมพัดแรงรื่นทั้งวันทั้งคืนที่นั่นเหมือนเวียงวัง ชายทะเลริมเขื่อนหาดผาแดงใจฉันสั่นเร้าแรงโลดด้วยความหวัง ทิวทัศน์งามยามเผลอชมเพลินภิรมย์ภาพสีชัง เสียงคลื่นซัดฝั่งดังเสียงพิณ โอ้ หาดสวรรค์ชื่นตา ใครได้มาซึ้งใจอยู่อาจินต์ เย็นสายลมพรมพริ้มพาดังพัดมาโลมไล้ชีวิน ความเศร้าก็สิ้นสูญไปพลัน หาดผาแดงนี้คือสถานพักใจ งามวิไลเหมือนดังถิ่นแดนสวรรค์ เพียงครั้งแรกที่ฉันมายังฝันหาทุกคืนวัน เพราะว่าที่นั่นเหมือนวิมาน” อ้าว...อย่าเพิ่งอุดหูสิค่ะ เดี๋ยวหนูร้องให้ฟังอีกรอบนะ....@^_^@
จากคุณ : ธราธร - [23 มิ.ย. 45 09:45:40 A:194.80.32.11 X:10.38.40.120]

ความคิดเห็นที่ 10
ตอนใกล้เที่ยง แต่แดดไม่แรง เพราะฝนใกล้ตก อิอิ (..เลียนแบบใครก็ไม่รู้...) สมัยนั้น คุณแมงกะพรุนและเพื่อนๆ มีประสบกาณ์ โลดโผนเชียวค่ะ แต่ก็ยังลุ้นๆ อยู่ว่า ตอนหน้า นางเอกคงจะ Make Up เสร็จแล้ว
จากคุณ : O-HO - [23 มิ.ย. 45 11:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11
อ๊ะ พิมพ์ตกไปค่ะ ตอนใกล้เที่ยง แต่แดดไม่แรง เพราะฝนใกล้ตกในกอ ทอ มอ (..เลียนแบบใครก็ไม่รู้...) แหะ แหะ
จากคุณ : O-HO - [23 มิ.ย. 45 11:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12
รอนางเอกออกโรงอยู่พระรอง นางรองออกกันเกือบหมดแล้ว
จากคุณ : Licht - [23 มิ.ย. 45 15:43:50 A:158.108.12.57 X:]

ความคิดเห็นที่ 13
ตอนนี้ตัวละครฮึม .. :)
จากคุณ : scottie - [24 มิ.ย. 45 09:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14
Waddee kha..When I was a trainee student (3rd year student) at Bangpoo, I had to pick up "ฟ้าเมืองไทย" for my bro.every Friday kha.. khon khai+ was so surprised..she had to order special one for me. This chapter reminds me the series from Manunya (A man called Peng+) O-dai-ji-ni (Jp. kha.. means รักษาตัวด้วยนะคะ <-- copy and paste Thai character kha.. try to find the nearest meaning kha.)
จากคุณ : guest - [24 มิ.ย. 45 22:33:44 A:133.68.126.131 X:]

ความคิดเห็นที่ 15
++คุณ Guest:
เพิ่งจะหายสงสัย ถึงบางอ้อวันนี้เอง..ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย ชื่นชมความพยายามของคุณ ที่อุตส่าห์ใช้วิธีตัดปะภาษาไทยเอาเพราะไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยตรง ๆ ได้ แต่ไม่รู้เป็นไงไพล่คิดไปถึงโจรเรียกค่าไถ่ที่ใช้วิธีตัดคำพูดเป็นคำ ๆ จากหนังสือพิมพ์ปะติดปะต่อส่งเป็นข้อความเรียกค่าไถ่ (แบบในหนังไง) ขอบคุณครับที่อวยพร โชโตมาเตะ กูดาซัย พลิ้ซเอ๊กซ์คิวซมี ไวล์ไอครายเพราะตื้นตันใจ เอ จะเกี่ยวกันไหมเนี่ย
++คุณ Scottie:
ตัวละคอนชีวิต ..ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป..
++คุณ Licht:
คัมมิ่งซูน ทูเดอร์เธียรเตอร์เนียยู ตอนที่ 32
++คุณโอ้โฮ:
กรุงเทพมหานคร มีฝนตกกระจายเป็นหย่อม หย่อม ด้วยอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงบ่ายและค่ำ พระอาทิตย์ตกเวลาสิบแปดนาฬิกาสี่นาที น้ำขึ้นสูงสุดที่สะพานพระพุทธยอดฟ้า เวลายี่สิบนาฬิกาสองนาที..ต่อไปเป็นข่าวกีฬา
++คุณธราธร:
ตอนเหนือของอังกฤษ ก็ไอร์แลนด์ หรือ สก๊อตแลนด์ หรือ เวลส์ หว่า..คิดถึงบ้านไหมครับ ยังไงก็ยังดี ที่มีเพลงไทยเพราะ ๆ ฟัง
++คุณหมอปราณ:
เสนอให้เรียกชื่อทีมว่าทีมจากกลุ่มประเทศคอนคาเคฟครับ
++คุณเจ
ว่าง ๆ เล่าเรื่องเวสต์โคสต์คานาดา สู่กันฟังบ้างสิครับได้ยินมาว่าภูมิประเทศสวยงามมากทั้งภูเขา ทั้งน้ำตก ทั้งป่าไม้ เรื่องที่เจเสนอมา ถ้าเจว่าดีพี่ก็ไม่มีข้อขัดข้องอะไรเป็นห่วงแต่ว่าพอย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่แล้วคนที่ตามอ่านกันจะหาไม่พบ
++คุณ T.Time:
ช่วงนี้มีโฆษณาใหม่ ของธนาคารกรุงไทยที่ปลุกใจให้คนไทยตระหนักถึงการแทรกซึมของฝรั่งต่างชาติชอบใจตอนหนึ่งที่ฝรั่งสอนให้คนไทยยิ้มว่า "ยิ้มแบบไทย..ต้องยิ้มด้วยใจ ไม่ใช่ยิ้มด้วยปาก"
จากคุณ : แมงกะพรุน - [25 มิ.ย. 45 03:57:22 A:203.121.149.55 X:]

ความคิดเห็นที่ 16
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ชอบมากเลย จะบอกว่าเป็นคนอุดรด้วยค่ะ แต่คงเกิดไม่ทันรุ่นคุณแมงกะพรุน เคยได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟังถึงช่วงที่มีทหาร GI อยู่ในเมือง และคุณแม่ได้หัดพูดภาษาอังกฤษจากทหารเหล่านั้นเวลาเค้าเข้ามาซื้อยาที่ร้านน่ะค่ะ เดี๋ยวนี้เวลาไปเที่ยวต่างประเทศคุณแม่สื่อสาร ต่อรองราคาของได้สบายเลยค่ะ ขออนุญาตพิมพ์ "เรื่องของฉัน" ไปให้คุณแม่กับคุณพ่อได้อ่านด้วยนะคะ
จากคุณ : อิสรี - [25 มิ.ย. 45 12:41:46 ]

ไม่มีความคิดเห็น: