วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2551

เรื่องของฉัน ตอนที่ 28

ตอนที่ 28

ตำแหน่งหน้าที่ซึ่งฉันได้รับมอบหมายที่อุดรเป็นงานบริการลูกค้าซึ่งถือเป็นงานส่วนหน้าเพราะต้องติดต่อกับลูกค้าโดยตรง หน้าที่หลักคือการเปิดและปิดบัญชี นอกจากนี้ก็เป็นการจัดการเกี่ยวกับเช็คคืนหรือเช็คเด้ง (แบดเช็ค) และการตอบคำถามเกี่ยวกับบัญชีและการเงินทั่ว ๆ ไป ซึ่งถือเป็นงานที่สนุกมากเพราะต้องเจอะเจอกับเรื่องแปลก ๆ เสมอดังที่กล่าวไว้ในตอนต้นแล้วว่า ธนาคารเชสแมนแฮตตั้น สาขาการเงินทหาร มีหน้าที่ในการให้บริการทางการเงินกับทหารซึ่งประจำการอยู่ตามฐานบินต่าง ๆ ในประเทศไทยเชสได้รับมอบหมายให้เปิดให้บริการในฐานทัพเพียงสี่แห่งอันประกอบด้วย ดอนเมือง อุบลราชธานี อุดรธานี และ อู่ตะเภา ส่วนฐานทัพที่เหลือ ธนาคารแห่งอเมริกา (BofA) ได้รับสัมปทานไปทหารอเมริกันที่ถูกส่งเข้ามาประจำการอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ เมื่อมาถึงก็จะพากันมาเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารซึ่งมีให้บริการเพียงประเภทเดียวคือบัญชีกระแสรายวันหรือที่เรียกกันว่า "เช็คกิ้งแอ๊คเค้าท์" เป็นบัญชีที่เจ้าของบัญชีต้องเขียนเช็คเพื่อถอนเป็นเงินสดที่ธนาคารหรือใช้เช็คในการชำระค่าสินค้าหรือบริการในฐานทัพ

ทหารชั้นประทวน (NCO = Noncommissioned Officers) เกือบทั้งหมดเป็นทหารที่ถูกเกณฑ์มา ทหารเกณฑ์อเมริกันนั้นรู้จักกันทั่วโลกในนามของจีไอ เชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าจีไอย่อมาจาก Government Issues กัฟเวอร์เมนท์ อิสชูส หมายถึงบรรดาเครื่องแบบและสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่รัฐบาลจัดหาให้กับคนที่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร จีไอกับทหารเกณฑ์บ้านเราคล้ายกันที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนหนุ่มที่ถูกเกณฑ์มาจากบ้านนอกหรือจะเรียกให้เห็นภาพจริง ๆ ก็คือพวก "หลังเขา" โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารอเมริกันนิโกรซึ่งคนพวกนี้แม้จะต้องทุกข์ทนกับแรงบีบคั้นจากปมด้อยแห่งสีผิวแต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงสนุกสนาน คนพวกนี้จะคบหาและมีกลุ่มมีพวกเป็นการเฉพาะของตัวเอง ชอบใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตรองแต่มีเอกลักษณ์ เวลาเจอกันแทนที่จะเขย่ามือทักทายกันแบบธรรมดาจะใช้วิธีทุบและรูดมือกันเป็นพัลวัล แต่ไม่มีมั่ว เพราะจะทำซ้ำได้เหมือนเดิมทุกครั้ง มีแบบแผนชัดเจน กลุ่มใครกลุ่มมัน มีวิธีทุบและรูดมือต่างกันไป บางคู่ทั้งทุบทั้งรูดกันเป็นครึ่งชั่วโมงยังไม่เสร็จสักที ขณะที่ทุบมือกันไปต้องโยกตัว ยักไหล่ยืดแขน เตะขาไปด้วย ปากก็ต้องร้องทักทายกันให้ขรมไปว่า “ว๊อทซั่บ ซั่บ โบร” คำว่า “ว๊อทซั่บ” ของพวกนิโกรมาจากคำว่า “What’s up” พูดเร็ว ๆ เหลือเพียง “ซั่บ” แปลเป็นไทยให้ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น “เป็นไง” ส่วน “โบร” นั้นมาจากคำว่า “Brothers” เพราะนิโกรถือว่าทุกคนล้วนเป็นพี่เป็นน้องกัน น่าแปลกที่ค่านิยมเกี่ยวกับการนับญาติของนิโกรนี้ มาเหมือนกับของคนไทยที่นิยมนับญาติเรียกคนแปลกหน้าเป็นพี่เป็นน้องเป็นป้าเป็นน้าเป็นอาว์กันอยู่โดยทั่วไปเป็นปกติ ส่วนฝรั่งผิวขาวหรือชนชาติอื่นเท่าที่ทราบมิได้มีวัฒนธรรมการนับญาติเช่นที่ว่านี้แต่อย่างใด
ที่ออกจะแปลกในสายตาคนไทยคือจีไอทั้งที่เป็นคนขาวและนิโกรเขียนหนังสือกันไม่ค่อยจะถูก ที่เห็นเป็นประจำคือคำว่า Twelve ที่แปลว่า 12 จะเขียนกันไม่ถูก ต้องให้คนไทยสอนให้ก็บ่อยไป การเปิดบัญชีครั้งแรกหากไม่มีสตางค์จริง ๆ ก็ฝากเพียงหนึ่งเหรียญก็เปิดได้ เมื่อเปิดบัญชีเสร็จจะได้สมุดเช็คไปคนละเล่มซึ่งมีเช็ค 25 ฉบับ ผู้ให้บริการเปิดบัญชีจะต้องสำทับให้ลูกค้ารีบไปแจ้งเบอร์บัญชีกับฝ่ายการเงินของแคมพ์เพื่อให้โอนเงินเดือนเข้าบัญชีให้ถูกต้องในเดือนถัดต่อไปพวกจีไอก็มักจะลืมแจ้งเบอร์บัญชีบ้าง แจ้งเบอร์บัญชีถูกบ้างผิดบ้าง มีรายหนึ่งซึ่งยังขำมาจนทุกวันนี้ เป็นนิโกร แจ้งเบอร์บัญชีผิดหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ แต่พอสิ้นเดือนเงินเดือนไม่เข้าบัญชี ตอนเปิดบัญชีก็ฝากเงินไว้แค่ 1 เหรียญ แต่พี่แกเที่ยวเขียนเช็คจ่ายค่าไอ้โน่นค่าไอ้นี่ไปทั่วแคมพ์ เช็คพวกนั้นก็เด้งมาทั้งหมด ส่งจดหมายไปเรียกตัวให้มาจ่ายเงินก็ไม่ยอมมา สุดท้ายต้องส่งจดหมายไปถึงจ่ากองร้อยให้คุมตัวมา พอมาถึงธนาคารรู้ว่าเช็คเด้ง แกก็หยิบเอาสมุดเช็คยับยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วพูดสำเนียงนิโกรด้วยเสียงอันดังว่า "ยูเพี้ยนหรือเปล่าที่หาว่าเช็คไอเด้ง ไอยังเหลือเช็คอยู่อีกตั้ง 8 ใบ" ผลคือฮากันตึงไปทั้งคนไทยและฝรั่ง

เรื่องเช็คเด้งยังมีอีกมากเล่าอย่างไรก็ไม่หมด เนื่องจากบัญชีที่เปิดเป็นบัญชีที่ดำเนินการโดยธนาคารเชสแมนแฮตตั้น ในนิวยอร์ค ทุกรายการที่มีการฝากหรือถอนในชั้นแรก ๆ จะต้องส่งเอกสารซึ่งประกอบด้วยเช็คที่มีการขึ้นเงินหรือจ่ายให้บุคคลที่สามและใบรับฝากเงิน (Deposit Slips) ทางถุงเมล์ (ดิสแพชท์) ถุงเมล์นี้จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะถึงปลายทางที่ธนาคารเชสแมนแฮตตั้น ในนิวยอร์คเพื่อนำเข้าประมวลผลอัพเดทรายการของแต่ละบัญชีอีกทีหนึ่ง แต่มีบ่อยเหมือนกันที่ถุงเมล์หาย (ล๊อสท์ ดิสแพชท์) ทุกครั้งที่ถุงเมล์หายถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องกู้สำเนาเอกสารจากไมโครฟิลม์ที่ถ่ายไว้ก่อนส่ง เครื่องไมโครฟิลม์ในตอนนั้นก็ยังไม่ทันสมัย ถ่ายได้เป็นภาพขาวดำพร่า ๆ มัว ๆ ใครที่โดนสั่งให้ค้นไมโครฟิลม์ถือว่าซวยเพราะจะปวดลูกตาไปหลายวัน

ในช่วงปีสุดท้ายก่อนที่แคมพ์จะแตก ได้มีวิวัฒนาการครั้งสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารใหม่ล่าสุดในสมัยนั้นเรียกว่าระบบ Autodin เกิดขึ้น Autodin ย่อมาจาก Automatic Digital Network เป็นเครือข่ายการสื่อสารในระบบดิจิตอลผ่านดาวเทียมของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ธนาคารเชสได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากระบบสื่อสารนี้ในการส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวทางบัญชีจากธนาคารตามเบสแคมพ์ต่าง ๆ ผ่านระบบส่งตรงไปยังศูนย์โทรคมนาคมที่ Brooklyn การที่จะส่งข้อมูลผ่านระบบได้ จะต้องแปลงข้อมูลนั้นเป็นสื่อที่เครื่องคอมพิวเตอร์อ่านเข้าใจได้เสียก่อน ในสมัยนั้นสื่อที่นิยมใช้กันคือการ์ดเจาะรูแบบแปดสิบคอลัมท์ ข้อมูลของเช็คที่จีไอนำมาขึ้นเงิน ข้อมูลของเงินฝากที่จีไอฝากเข้าบัญชีจะถูกบันทึกลงบนการ์ดโดยเครื่องเจาะการ์ดซึ่งจะเจาะรูลงบนการ์ดในตำแหน่งต่าง ๆ กัน เสร็จแล้วก็ส่งการ์ดเหล่านี้ไปยังศูนย์สื่อสารของแคมพ์ซึ่งจะป้อนการ์ดเข้าสู่ระบบเพื่ออ่านค่าแล้วยิงเป็นสัญญาณดิจิตอลผ่านดาวเทียมสื่อสารของทหารไปลงยังศูนย์สื่อสารที่บรุ๊กลินที่จะรับสัญญาณแล้วบันทึกลงม้วนเทป ม้วนเทปนี้เองที่สามารถส่งไปเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หลักของธนาคารที่นิวยอร์คเพื่อประมวลผลได้เลย ด้วยเวลาที่นิวยอร์คช้ากว่าเวลาในประเทศไทยประมาณ 12 ชั่วโมงดังนั้น ระบบออโทดินจะช่วยให้รายการทางบัญชีที่เกิดขึ้นห่างออกไปเป็นหมื่น ๆ กิโลเมตรถูกบันทึกภายในวันเดียวกันก่อนที่จะมีการนำเอาระบบออโทดินมาใช้ การที่จะรู้ว่าใครมีเงินเหลือในบัญชีเท่าไหร่จะต้องดูจากรายงานที่เรียกว่า "บาล้านซ์ชีท" เป็นรายงานที่แสดงยอดคงเหลือในบัญชีแต่ละบัญชีย้อนหลังไปประมาณเจ็ดหรือสิบวันที่แล้วไม่ว่าจะเป็นสังคมใดคนที่มีเงินมากมักดูว่าไม่ค่อยมีปัญหาหรือมีปัญหาก็ไม่น่าเกลียด ส่วนคนจนจะมีปัญหาที่เป็นปัญหาจริง ๆ ทำอะไรก็น่าเกลียดไปทั้งหมด ทหารอเมริกันสมัยโน้นก็ไม่ยกเว้น พวกที่มีเงินเยอะ มักไม่มีปัญหา พนักงานรับจ่ายเงินเพียงเขียนยอดเงินที่ถอนกำกับไว้ให้รู้ว่ามีถอนเงินจากยอดนั้น ๆ ไปเท่าใด แต่พวกที่เงินน้อย ๆ มักจะมีปัญหาเพราะจำกันไม่ได้ว่าเขียนเช็คไปกี่ใบเป็นเงินเท่าใด ไม่ชอบจำกัน พอมาถามยอดขนาดย้ำแล้วย้ำอีกว่าเป็นยอดเก่าตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว พวกก็ไม่สนใจ บอกว่ามีเท่าใดก็จะถอนออกเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอยู่แก่ใจว่าไม่น่าเหลือเยอะถึงขนาดนั้น ผลคือเช็คเด้งระเนระนาดเมื่อเช็คเด้ง ธนาคารจะส่งจดหมายถึงเจ้าตัวตามที่อยู่ตู้ไปรษณีย์หรือกรมกองที่ให้ไว้ ฉบับแรกไม่ตอบก็จะส่งอีกเป็นฉบับที่สองและสาม เมื่อส่งไปสามฉบับแล้วยังไม่ตอบก็จะส่งจดหมายไปถึงจ่ากองร้อย จ่ากองร้อยยังไม่ตอบอีกก็จะส่งถึงผู้บังคับการฐานทัพ (เบสคอมมานเดอร์) หากส่งถึงผู้บังคับการฐานทัพแล้วยังไม่ได้รับคำตอบธนาคารก็สามารถตัดรายการนั้นเป็นหนี้สูญได้เลย หนี้สูญเหล่านี้ธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบเพราะเมื่อครบปีธนาคารก็จะรวบรวมรายการเช็คเด้งที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ส่งให้กระทรวงการคลังผ่านหน่วยงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาก็จะได้รับชดใช้คืนให้ทั้งหมดอย่างไรก็ตาม พวกที่นิยมเขียนเช็ดเด้งหรือแบดเช็คเกือบทั้งหมดยกเว้นพวก MIA หรือ KIA ย่อมาจาก Missing in Action หรือ Killed in Action แปลว่า หายไปหรือตายในระหว่างการรบ และพวก AWOL แปลว่า Absent Without Leave Permit แปลว่าหายไปไหนไม่รู้โดยไม่ได้ลา หรือไปไม่ลามาไม่ไหว้ แปลง่าย ๆ อีกทีคือ “หนีทหาร” จะถูกลงโทษจากผู้บังคับบัญชา โทษนั้นมีตั้งแต่ หักเงินเดือนมาจ่ายเช็คที่เด้งทั้งหมด ตักเตือนเป็นวาจา ตักเตือนเป็นหนังสือ ขัง และ ลดยศ การลดยศนี้เห็นกันเป็นประจำ แรก ๆ ก็ดูว่าแปลกแต่อยู่ไปนาน ๆ ก็ชินไป พวกที่เห็นถูกลดยศกันส่วนใหญ่เป็นทหารชั้นประทวน ตอนมาถึงครั้งแรกอาจมีบั้ง 3 บั้ง ต่อมาเห็นลดเหลือ 2 บั้ง บางราย ร้ายแรงถึงหมดบั้งไปเลยก็มี พวกที่โดนลดยศริบบั้งนั้นดูง่ายเพราะที่แขนเสื้อจะมีรอยบั้งที่ถูกเลาะออกไปเห็นชัดเจน

เครื่องหมายยศของทหารอากาศอเมริกันนั้น ดูง่ายกว่าเหล่าทัพอื่น ถ้าเป็นชั้นประทวนจะใช้บั้งเหมือนของทหารหรือตำรวจไทย แต่บั้งของเขาจะมีรูปดาวอยู่ตรงกลาง ตรงก้นบั้งไม่แหลมเหมือนของไทยซึ่งแหลมเป็นตัววี แต่บั้งฝรั่งนั้นมีก้นกลมมนเย้ายวนใจคล้ายตัวยู บั้งนี้มีตั้งแต่ 1 บั้ง (แอร์เมน) 2 บั้ง (แอร์เมนเฟีรสท์คล้าส) เป็นพลทหาร หรือที่เรียกรวม ๆ กันว่า แอร์เมน (Airmen) ส่วนใหญ่เมื่อถูกเกณฑ์มาใหม่ ๆ จะไม่มีบั้ง แต่เมื่อจบหลักสูตรเบื้องต้นก่อนที่จะส่งเข้ามาประจำการในฐานทัพต่าง ๆ ก็จะได้ติด 2 บั้งเป็นอย่างน้อย พวกที่มีบั้งเดียวหรือพวกที่ไม่มีบั้งจึงมักเป็นพวกที่ถูกลดยศ ถัดจากนั้นก็พวก 3 บั้ง พวกนี้คือพวกจ่าหรือซีเนียร์แอร์เมนเรียกชื่อยศว่า Sergeant - ออกเสียงว่า "ซาเจ้นท์" หรือเรียกย่อ ๆ ว่า "ซาจจ์" ก็ได้ พวก 4 บั้ง ชื่อยศสตาฟซาเจ้นท์ พวก 5 บั้งชื่อยศเทคนิคัลซาเจ้นท์ เรียกกันสั้น ๆ ว่า เทคซาเจ้นท์ พวก 6 บั้งชื่อยศมาสเตอร์ซาเจ้นท์ พวก 7 บั้งชื่อยศซีเนียร์มาสเตอร์ซาเจ้นท์ และพวก 8 บั้งชื่อยศชีฟมาสเตอร์ซาเจ้นท์ พวกที่มียศตั้งแต่มาสเตอร์ซาเจ้นท์ขึ้นไปอาจมีตำแหน่งเป็นจ่ากองร้อยหรือที่เรียกกันว่า “เฟิส์ทซาเจ้นท์” ควบไปด้วยก็ได้ สังเกตได้จากรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเล็ก ๆ ตรงกลางระหว่างบั้งส่วนบนและส่วนล่าง ต้องดูรูปประกอบจึงจะเข้าใจ

ส่วนนายทหารสัญญาบัตรนั้นเริ่มจาก นายเรืออากาศตรี มีขีดสีทองติดที่ขอปกเสื้อ 1 ขีด เรียกชื่อยศว่าเซคกั้นลูเทนเน้น หรือ 2 แอลที นายเรืออากาศโทมีขีดสีเงิน 1 ขีด เรียกชื่อยศว่าเฟิรสท์ลูเทนเน้น หรือ 1แอลที ถ้ามี 2 ขีดสีเงินก็เป็น นายเรืออากาศเอก (ร้อยเอก) เรียกชื่อยศว่าแค้ปเท่น นายนาวาอากาศตรี (พันตรี) จะใช้รูปใบไม้ทอง ถ้าจำไม่ผิดเป็นใบของต้นเมเปิ้ล คนไทยเรียกพวกดอกทอง เรียกชื่อยศว่าเมเจอร์ นายพันโทจะใช้รูปใบไม้สีเงิน คนไทยเรียกพวกดอกเงิน เรียกชื่อยศว่าลูเทนเน้นเคอนัล นายพันเอกใช้รูปนกอินทรีย์ คนไทยเรียกพวกอีแร้ง เรียกชื่อยศว่าเคอนัล ส่วนพวกนายพลนั้นใช้ดาว มีตั้งแต่ 1 ดวงถึง 4 ดวง แต่ไม่ค่อยเห็นกัน เรียกชื่อยศว่า "เจนเนอรัล" ส่วนยศทหารเรือ นาวิกโยธิน และทหารบกนั้น ฉันไม่คุ้นเคยดูไม่ค่อยออกหากเป็นคนช่างสังเกตจะเห็นว่า ฝรั่งอเมริกันให้ความสำคัญกับเงินมากว่าทอง จะเห็นได้จากยศนายทหารสัญญาบัตรซึ่งใช้สีทองในยศที่ต่ำกว่าและใช้สีเงินในยศที่สูงกว่า แปลกนะที่คนไทยให้ความสำคัญทั้งเงินและทองเท่า ๆ กัน แต่หากจะให้เลือกแล้วละก็คนไทยจะเลือกทองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ทองราคาดูเหมือนว่าจะสูงขึ้นทุกวัน ในขณะที่เงินมีค่าน้อยลงทุกวันทั้งเงินที่เป็นแร่เงินและเงินที่เป็นกระดาษหรือเงินที่เป็นตัวเลขในบัญชีเงินฝาก

จากคุณ : แมงกะพรุน - [19 มิ.ย. 45 02:26:18 A:203.121.148.164 X:]


ความคิดเห็นที่ 2
เพิ่งรู่คำเต็มของคำว่า จีไอ ก็วันนี้เอง ^_^
จากคุณ : GTW - [19 มิ.ย. 45 04:17:16 A:203.144.143.254 X:202.133.172.53]

ความคิดเห็นที่ 4
ขอบคุณสำหรับมินิคอร์สการทหารอเมริกันนะคะ อย่าว่าแต่พวก"หลังเขา"เลยค่ะ คนรายเฉลี่ยอเมริกันนั้น อ่านและเขียนหนังสือ (สะกด ไวยากรณ์) มีปัญหาบ่อยๆค่ะ แม้แต่คนที่จบระดับปริญญา ประเมินเอาจากประสบการณ์ กับเลขาฯที่ รร.แพทย์ หรือรพ.ที่นี่ พ่อแม่คนไข้ (เด็ก) ฯลฯ ตอนมาเรียนที่นี่ใหม่ๆนั้น ทึกทักไปว่าพวกเขาเป็นเจ้าของภาษาน่าจะใช้ภาษาถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่าเราต้องนั่งตรวจปรู๊ฟให้ดี เวลาคุณๆเธอพิมพ์รายงานให้ หรือ ต้องพยายามซักถามซ้ำคุณพ่อคุณแม่เด็กๆ เพราะเธอเข้าใจฟอร์มผิดหรือกรอกข้อมูลผิดเป็นประจำละค่ะ ขอคุณพระคุ้มครองสุขภาพคุณแมงกะพรุนตลอดค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [19 มิ.ย. 45 09:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5
การค้นไมโครพิลม์นอกจากปวดตาแล้ว มืออาจเน่าได้จากน้ำยาที่พิมพ์กระดาษมีประสบการณ์นี้มาเช่นกันค่ะ
จากคุณ : APO96330 - [19 มิ.ย. 45 13:56:50 A:203.146.8.75 X:10.10.10.104]

ความคิดเห็นที่ 6
สำหรับโอ้โฮแล้ว จะเงินหรือทอง ก็สำคัญทั้งนั้นค่ะ อิอิ ตามมาอ่านต่อค่ะ
จากคุณ : O-HO - [19 มิ.ย. 45 14:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7
Wazup Bro! หุหุ
จากคุณ : bellissima - [19 มิ.ย. 45 16:52:47 A:217.162.80.84 X:]

ความคิดเห็นที่ 8
เพ็นเฟรนด์เราคนหนึ่งเคยเขียนมาบอกว่าบ้านเขามีภูเขาอยู่หน้าบ้าน เราเลยตอบไปว่า เรามีมาบุญครองกับสยามดิสคัฟเวอรี่บันแดดอยู่หน้าบ้าน...
จากคุณ : Licht (Miran) - [19 มิ.ย. 45 20:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9
อุอุ ได้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับจีไอบานเลย เพิ่งรู้ว่ามันย่อมาจากอะไรก็วันนี้แหล่ะค่ะ
จากคุณ : Clear Ice - [19 มิ.ย. 45 21:53:02 ]

ไม่มีความคิดเห็น: