วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2551

เรื่องของฉัน ตอนที่ 27

ตอนที่ 27

เมื่อฉันทำงานย่างเข้าปีที่สองก็มีอายุครบ 21 ปี เกิดความคิดที่จะบวชเรียนเพื่อทดแทนบุญคุณป๋า แม่ ยายและญาติผู้ใหญ่ทุกท่านที่มีอุปการะคุณกับฉัน ซึ่งก็ได้รับการอนุโมทนาสาธุจากทุกท่านด้วยดีโดยเฉพาะยายที่ดีใจเป็นการเอิกเกริกกว่าคนอื่น แต่ธนาคารเชสในขณะนั้นยังมิได้มีนโยบายอนุญาตให้พนักงานลาบวช ฉันจึงใช้สิทธิในการลาพักผ่อนประจำปีลาคร่อมวันหยุดได้เพียง 15 วันไม่สามารถบวชจนครบพรรษาได้ โดยบวชที่วัดตะเคียนหรือวัดมหาพฤฒาราม ย่านสี่พระยา ตามคำแนะนำและจัดการของเพื่อนรุ่นพี่ที่ชื่อมงคลหรือไอ้ม๊งคนที่เคยเป็นเลขาให้ มร.บราเวนเดอร์ก่อนหน้าฉันนั่นแหล่ะ ไอ้ม๊งก็เพิ่งจะบวชและสึกออกมาจากวัดตะเคียนแห่งนี้และเป็นผู้จุดประกายให้ฉันต้องการที่จะบวชเรียนบ้าง พระพี่เลี้ยงที่เป็นธุระสั่งสอนและจัดการทุกอย่างให้ชื่อหลวงพี่อภินันท์ ก่อนวันบวชประมาณสองอาทิตย์หลวงพี่ให้ฉันยืมหนังสือเจ็ดตำนานมาท่องบทขานนาคให้ขึ้นใจเพราะที่วัดนี้นาคที่จะบวชต้องโต้ตอบท่องบทขานนาคต่อหน้าพระอุปัชฌาย์ในที่ชุมนุมของพระสงฆ์ที่มาเป็นสักขีพยานด้วยตัวเอง

ในวันบวช ยายเป็นผู้ตัดผมนาคเป็นคนแรก ตัดไปก็ร้องไห้ไปให้ศีลให้พรลูบหลังลูบไหล่พร่ำพรรณนาถึงเรื่องต่าง ๆ ในอดีต จนลุงเบิ้มต้องเข้ามาสะกิดจูงแขนออกไปเพื่อให้คนอื่นเข้ามาตัดบ้าง

งานบวชของฉันมีเพื่อนฝูงทั้งที่ทำงานและสมัยเรียนมาร่วมและช่วยงานกันคนละไม้คนละมือ เมื่อได้ฤกษ์ตามเวลาตั้งขบวนแห่งพ่อนาควนรอบโบสถ์ทั้งแขกจริงแขกผสมโรงที่มารอแย่งสตางค์โปรยทานต่อขบวนแห่งนาคกันยาวเฟื้อย ไอ้เพื่อนคนไหนก็ไม่รู้แอบไปว่าขบวนกลองยาวกลองยาวมาแห่แหนนาคเวียนรอบพระอุโบสถเพิ่มความครึกครื้นได้เป็นอย่างดี ส่วนคนที่ให้ฉันขี่คอนั้นต้องเปลี่ยนกันถึง 3 คนไม่ใช่เพราะต้องการแย่งบุญกันแต่เป็นเพราะคืนวันสุกดิบฉลองกันหนักข้อไปหน่อย แทบไม่มีใครได้นอน ฉันเป็นนาคได้ขี่คอเพื่อนก็ไม่เท่าใดนัก จะโงนเงนอย่างไรก็ไม่ตกเพราะมีคนคอยดันก้นไว้หลายคน เห็นพวกเพื่อน ๆ มันกระซิบบอกกันว่าถัดจากคนที่ให้นาคขี่คอใครได้ดันก้นพ่อนาคถือว่าได้บุญรองลงไป เอาเข้าจริงคนที่อาสาแบกนาคต่างพากันหมดแรงไปตาม ๆ กัน ไม่ใช่เพราะว่าตัวฉันหนักเพราะตอนนั้นยังสะโอดอยู่หนักเพียงหกสิบกว่าเล็กน้อยแต่เพราะยังไม่หายเมา ขนาดแบ่งงานกันว่าจะแบกแค่คนละรอบยังต้องลุ้นกันแทบแย่กว่าจะครบรอบ หนึ่งในสามคนที่แบกฉันนั้นคือเด่นชัยที่นั่งรถทัวร์ลงมาจากอุดรเพื่อมาร่วมงานบวชของฉันโดยเฉพาะ
ตอนขานนาคในโบสถ์ปรากฏว่าไอ้ที่คิดว่าจำได้เอาเข้าจริงลืมไปเสียหลายตอน ทำท่าจะล่มเอากลางคัน หันไปมองขอความช่วยเหลือจากหลวงพี่อภินันท์ก็เห็นท่านนั่งพับเพียบก้นแทบไม่ติดพื้นเพราะลุ้นลูกศิษย์อยู่เหมือนกัน ครั้นจะบอกบทให้ก็จนใจด้วยนั่งอยู่ไกลกันเกินไป ในที่สุดหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวดทนไม่ไหวต้องกระซิบบอกบทบางตอนให้จึงดั้นด้นต่อไปได้จนจบ

วันรุ่งขึ้นหลังจากวันบวช พระใหม่ก็หมดแรงข้าวต้มนอนซมหน้าซีดเป็นไข้ในกุฎีเสีย 2-3 วัน เหตุเพราะเมื่อโกนผมเสร็จแล้วมีการอาบน้ำนาค ไม่รู้ใครต่อใครต่างแย่งกันอาบน้ำราดทั้งหัวหูนาคกันอุตลุดไป หมดกว่าจะราดน้ำนาคกันครบคน จากที่ร้อนจนเหงื่อชุ่ม นาคก็นิ้วเหี่ยวสั่นงั่กไปทั้งตัว ตะพ้านจะกินเอา

ในช่วงเวลาอันสั้นที่ครองเพศบรรพชิต ฉันก็ได้มีโอกาสปฏิบัติกิจของสงฆ์บวชใหม่ เช่นการออกรับบิณฑบาต การลงโบสถ์ทำวัตรเช้าและเย็น การรับกิจนิมนต์ การลงโบสถ์สวดปาติโมกข์ และ การกลับไปเทศน์ญาติโยมที่บ้านเอกมัย เป็นต้น ถือได้ว่าแม้ว่าจะเป็นการบวชแหกพรรษาใช้เวลาเพียงน้อยนิด แต่ก็เป็นการบวชเรียนที่ครอบคลุมพิธีการต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนเมื่อครบกำหนดได้ฤกษ์สึก ฉันกล่าวลาสิกขาได้ด้วยตัวเองไม่ต้องมีใครมาบอกบท รู้สึกใจหายเหมือนกันตอนที่ถอดอังสะออกจากตัวเพราะในทางสงฆ์เชื่อกันว่าคนที่สึกคือคนที่ละเพศบรรพชิตไปสู่เพศฆารวาสเพื่อต่อสู้เวียนว่ายไปในกระแสแห่งกามกิเลศ แม่เอาชุดลำลองใส่ถุงไปให้เปลี่ยนที่วัด หลังจากกราบลาพระอุปัชฌาย์ หลวงพี่และพระร่วมวัดเรียบร้อยเป็นเวลาพลบค่ำพอดีแม่จึงพาไปเลี้ยงฉลองที่ห้องอาหารสีฟ้า อิ่มแปร้ไปเลย

หลังจากสึกออกมาเป็นไอ้ทิดแล้วฉันก็กลับไปทำงานต่อ บรรยากาศการทำงานที่ตึกทอมมี่ทัวร์นี้แปลกออกไป ไม่ตื่นเต้นและได้ความรู้สึกท้าทายเหมือนกับการทำงานในแคมพ์ แม้ว่างานที่ทำจะเป็นงานเดียวกันก็ตาม ฉันได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่อีกครั้ง คราวนี้ย้ายจากฝ่ายบัญชีไปทำงานใหม่ในฝ่ายตรวจสอบภายใน "อินเทอนั่ลออดิท" มีหน้าที่ในการทำ "เรคคอนไซน์" คือการกระทบยอดบัญชีธนาคารอยู่กับตัวเลขทั้งวันหน้าแทบไม่ได้เงย ทั้งวีเดบิท เดดูน๊อตเครดิต ทั้งวีเครดิตเดดูน๊อตเดบิท วุ่นวายวกวนอยู่แค่นั้น ในทัศนะของฉัน งานนี้เป็นงานที่น่าเบื่อเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ฉันสึกออกมาสักสองสามเดือน เด่นชัยก็โทรศัพท์มาจากอุดรบอกว่าจะแต่งงาน เป็นการแต่งงานที่ออกจะกระทันหันเพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้ามาก่อน เด่นชัยบอกว่าโดนผู้ใหญ่บังคับและอยากให้ฉันขึ้นไปร่วมงานด้วย บังเอิญตอนนั้นฉันได้ใช้วันหยุดพักผ่อนประจำปีจนหมดแล้ว จะลากิจก็ไม่ได้เพราะไม่เข้าข่าย ถ้าจะไปหมายความว่าต้องเบี้ยวลาป่วยโดยที่มิได้ป่วย โดยไม่ต้องคิดเป็นรอบสอง ฉันก็ได้ตอบรับคำไปทันที และออกเดินทางโดยรถไฟด่วนกรุงเทพฯ-อุดรในคืนนั้นซึ่งเป็นวันพฤหัสไปถึงอุดรตอนเช้ามืดวันศุกร์ เด่นชัยมารับไปส่งที่โรงแรมที่จองไว้ให้อาบน้ำล้างหน้าแล้วจึงมารับฉันเข้าไปในแคมพ์ตอนสาย เพื่อพบคนอื่น ๆ ในสาขาที่เคยพูดคุยกันทางโทรศัพท์ หลังจากได้ทักทายกับผู้คนอยู่พักใหญ่ เด่นชัยก็พาฉันกลับออกมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลยว่า ฝรั่งผู้จัดการสาขาชื่อ มร.ฮีลีย์ แอบมองลอดช่องม่านบังตาจากในห้องตลอดเวลาฉันกลับมาทำงานตามปกติในเช้าวันจันทร์ถัดไป ส่งใบลาป่วยสำหรับวันศุกร์หนึ่งวัน นั่งทำงานไปถึงช่วงสาย ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากฝรั่งที่ดูแลด้านบริหารชื่อ มร.วอลเตอร์ อาร์ เค้นท์ เรียกให้ฉันไปพบที่ห้องทำงาน ฉันก็รีบไปพบด้วยความสงสัยว่ามีเรื่องอะไร เพราะร้อยวันพันปีฝรั่งคนนี้ไม่เคยเรียกฉันไปพบเลย ประโยคแรกที่ มร.เค้นท์ถามฉันคือเมื่อวันศุกร์ไม่สบายเป็นอะไร หายหรือยัง ฉันก็ตอบมั่ว ๆ ไป ว่าปวดท้อง วอลท์ เค้นท์ก็ตอกกลับมาว่า มีคนเห็นยูที่อุดร เมื่อวีกแอนด์ที่แล้ว เล่นเอาฉันก็อึ้งไป นึกแช่งชักในใจว่าใครวะที่ปากบอนมาฟ้องฝรั่ง มร.เค้นท์ถามต่อเมื่อเห็นฉันกลายเป็นใบ้ไปว่า ยูคิดว่าอุดรเป็นอย่างไร ฉันก็ตอบไปอย่างงง ๆ ว่า ก็น่าสนใจดี ถามกันไปถามกันมาอีกสองสามคำถามจึงสรุปได้ว่ามีตำแหน่งงานว่างอยู่ที่อุดร ฝรั่งทั้งหลายได้หารือกันแล้วเห็นฟ้องต้องกันว่าฉันเป็นคนโสดมีความรู้และประสบการณ์เหมาะสม ภาสงภาษาก็พอจะใช้งานได้ น่าจะให้โอกาสแก่ฉันได้ทำงานไถ่โทษ จึงเสนอตำแหน่งที่ว่างนั้นให้กับฉัน ส่วนฉันซึ่งเป็นคนหนุ่มใจร้อน ก็ตอบรับข้อเสนอนั้นไปในทันทีมิใยที่วอลท์ เคนท์ซึ่งดูท่าว่าตกใจเหมือนกันที่ฉันรับเอาง่าย ๆ จะบอกให้กลับไปคิดดูให้ดีก่อนแล้วค่อยตอบก็ได้ ฉันก็ยืนยันไปในตอนนั้นเลยว่าไม่ต้องคิดและก็มิได้หวาดวิตกกับคำขู่ทิ้งท้ายเพื่อลองใจของ มร.เค้นท์ว่าที่อุดรนั้นคล้าย ๆ กับเท๊กซัสในสมัยก่อน เดินเหินไปไหนมาไหนต้องคอยระวังมองหน้ามองหลังให้ดีเพราะมีการไล่ยิงกันกลางถนนอยู่เนือง ๆ

ฉันมารู้เอาในภายหลังว่า ที่จริงแล้วพวกฝรั่งได้แอบเสนอตำแหน่งงานนี้ให้กับพวกพี่ ๆ หลายคนแล้ว ทุกคนพร้อมใจปฏิเสธกันหมด เพราะแม้ว่าอุดรจะเป็นอะไรที่สนุกสนานมากหากไปช่วยงานเป็นครั้งเป็นคราว แต่ในสายตาของคนกรุงเทพฯ อุดรก็คือจังหวัดในภาคอีสาน เต็มไปด้วยคนลาวตัวดำ ๆ คนแกวตัวเหลือง ๆ พากันกินข้าวเหนียวกับส้มตำใส่ปลาแดกปูดองทุกวัน จะให้ย้ายไปอยู่ถาวรจึงไม่มีใครเอาส่ายหน้าชิ่งกันเป็นทิวแถว
เมื่อฉันนำความไปแจ้งกับป๋าและแม่ ก็ได้รับการทัดทานอย่างหนัก แต่ความภาคภูมิใจที่หลงคิดว่าฝรั่งให้ความไว้วางใจมอบงานชิ้นใหม่ที่ท้าทายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับงานนั่งทำเรคคอนไซล์ให้กับฉัน ประกอบกับใจที่เร้าระเริงเร่าจากความต้องการที่จะผละออกจากไออุ่นของครอบครัวที่คุ้นเคยมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเพื่อจะได้ไปเผชิญกับโลกกว้างด้วยตัวลำพัง ส่งผลให้คำทัดทานของป๋าและแม่ที่คราวนี้เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของฉันแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ในวันเดินทาง ฉันเก็บเสื้อผ้าและข้าวของสมบัติส่วนตัวบางส่วนรวมทั้งกีตาร์คู่ใจขึ้นบรรทุกท้ายรถและเบาะหลังรถซันนี่เต็มคันพอดี ร่ำลาป๋ากับแม่ที่อุตส่าห์ตื่นขึ้นมาส่งแล้วขับรถออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางด้วยความกระปรี้กระเปร่า นับว่าเป็นการขับรถทางไกลด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ระยะทางระหว่างกรุงเทพฯถึงอุดรนั้นประมาณห้าร้อยกิโลเมตรเศษ ใช้เวลาขับสบาย ๆ เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ประมาณ 7 ชั่วโมงก็ถึง ก่อนหน้านั้นเด่นชัยซึ่งดีอกดีใจที่ได้ข่าวว่าฉันจะขึ้นไปทำงานที่อุดรก็ช่วยเป็นธุระจัดหาห้องเช่าให้เรียบร้อย อยู่แถวบ้านห้วย เป็นห้องเล็ก ๆ มีตู้เตียงอย่างละ 1 ชิ้นพร้อมกับพัดลมเพดาน 1 ตัว เมื่อฉันเห็นห้องนี้ทีแรกก็ชอบใจทันทีเพราะเป็นบ้านใต้ถุนสูง สามารถนำรถเข้าไปจอดใต้ถุนตรงกันกับห้องที่ฉันเช่าอยู่ได้พอดีจึงดูเหมือนว่าเป็นห้องเช่าห้องเดียวในบ้านที่มีที่จอดรถส่วนตัว ค่าเช่าก็ไม่ถูกไม่แพงแค่เดือนละ ห้าร้อยบาทรวมค่าน้ำค่าไฟ แต่ต้องใช้ห้องน้ำรวมซึ่งก็ไม่เป็นปัญหามากนักเพราะมีอยู่ถึงสองห้องไม่ต้องแย่งกันเข้า

ฉันใช้ชีวิตช่วงแรกที่อุดรอย่างคนที่มีอิสระเสรีเต็มที่ในห้องนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็แค่อาศัยนอนคืนละไม่กี่ชั่วโมง เสื้อผ้าก็จ้างเขาซักรีด ข้าวปลาอาหารการกินนั้นเล่าก็มีสารพัดชนิดให้เลือกทั้งไทยฝรั่งจีนแกว ฉันหากินเอาข้างนอกทุกมื้อ บ้านเช่าหลังนี้ แบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ให้คนเช่าหลายสิบห้อง เหมือนจะแกล้งลองใจกันในที เด่นชัยเลือกเช่าห้องที่นี่ให้กับฉันเพราะคนเช่าทั้งหมดล้วนเป็นหญิงที่มีอาชีพพิเศษจากต่างถิ่นต่างที่มาทำมาหาสตางค์ที่อุปมาอุปมัยกันว่าตกอยู่เกลื่อนถนนในเมืองอุดรทั้งสิ้น แต่ก็แปลกที่ฉันกลับไม่มีโอกาสได้รู้จักหรือพูดคุยกับใครเลย แม้แต่สาวใต้ตาคมที่อยู่ห้องติดกัน เนื่องจากต้องออกไปทำงานแต่เช้าพอดีเวลาที่พวกเธอเพิ่งจะเข้านอนกันและฉันจะกลับมาถึงห้องอีกทีก็ตอนดึกพอดีเวลาที่พวกเธอแต่งหน้าทาแป้งออกไปทำงานกันจนหมดแล้ว

จากคุณ : แมงกะพรุน - [16 มิ.ย. 45 01:20:55 A:203.107.247.114 X:]

ความคิดเห็นที่ 1
คุณแมงกะพรุนตอนเป็นหนุ่มน้อยคงโลดโผนไม่เบานะคะ ถ้าวันไหนว่างๆจะมาเล่าชีวิตวัยรุ่นให้ฟังบ้าง รับรองสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก เสือ สิงห์ กระทิง แรด นัก ประทับใจกึ่งประหลาดใจค่ะ ที่คุณแมงกะพรุนมีความจำที่ดีเลิศ คงจะด้วยความช่างสังเกตและความเอาใจใส่กับลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ (แสดงถึงความเป็นคนอ่อนไหว) อย่าว่าแต่เรื่อง ยี่สิบ สามสิบปีก่อนเลย อาทิตย์ที่แล้วไปไหนมาบ้างยังจำไม่ได้ (นี่ขนาดอายุ ยังไม่สามสิบเลยนะคะ) อย่านอนดึกนักนะคะ ร่างกายไม่ชอบค่ะ
จากคุณ : belissima - [16 มิ.ย. 45 03:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2
ลิงค์ร้อนๆมาแล้วค่ะ
ตอนที่ 26
http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1560823/W1560823.html
จากคุณ : JW (Chelsey) - [16 มิ.ย. 45 04:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3
สาวใต้ตาคม นอกจากตาคมแล้ว วาจา รอยยิ้มก็คม..มีดในมือยิ่งคม ^_^
จากคุณ : GTW - [16 มิ.ย. 45 04:53:50 A:203.144.143.254 X:202.133.172.50]

ความคิดเห็นที่ 4
เย้..วันนี้มาเร็ว อนุโมทนากับการบวชของพี่แมงกะพรุนนะคะ เห็นภาพเลยเพราะไปงานบวชอากับน้ามาหลายคนท่าทางชีวิตจะโลดโผนมากนะคะช่วงนี้ รอลุ้นอ่านตอนต่อไปเหมือนเคยค่ะ สุขสันต์วันสุดสัปดาห์ค่ะ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [16 มิ.ย. 45 04:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5
เอารูปมาฝากเป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะคะ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [16 มิ.ย. 45 04:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6
"แมงกะพรุน" เป็นอะไรกับ "แมงกะพรุน" รึเปล่า?
จากคุณ : ปุจฉา - [16 มิ.ย. 45 09:16:28 A:203.113.37.9 X:]

ความคิดเห็นที่ 7
แง้มๆ ว่านางเอกจะโผล่รึเปล่าเนี่ย
จากคุณ : Licht (Miran) - [16 มิ.ย. 45 13:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8
ผู้ใหญ่ชอบพูดว่าเป็นผู้ชายต้องบวชก่อนเบียด ตอนนี้ก็บวชไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคงถึงทีเบียดซักทีละมั๊ง คอยลุ้นอยู่ค่ะว่าจะไปเจอนางเอกที่อุดรฯหรือเปล่า
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [16 มิ.ย. 45 14:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10
สมัยโน้น..สำหรับคนกท. ได้ยินจังหวัดแถวๆนั้นก็นึกภาพกันดารไว้แล้วละค่ะ นึกถึงตอนเป็นนศพ.ปีเกือบสุดท้าย เลือกไปฝึกงานจว.นครพนม ทางบ้านเป็นห่วงกันใหญ่ เอ....ดนตรีประกอบสำหรับที่นางเอกจะปรากฏนี่ ต้องเปลี่ยนกันเล็กน้อยแล้วนะคะ เพราะเริ่มมาตั้งแต่ตอนที่แล้ว อิ๊..อิ๊..ขอให้คุณพระคุ้มครองสุขภาพคุณแมงกะพรุนไปตลอดค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [16 มิ.ย. 45 19:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11
++คุณปราณ:
นั่นแน้ ต่อไปคงต้องเรียก "คุณหมอปราณ" แล้วไปอยู่ NKP นานไหมครับน่ากลัว เหมือนอย่างที่คนอื่นกลัวกันหรือไม่ครับ
ความกลัวของคน มักเกิดจากความไม่รู้ ความไม่คุ้นเคย เสมอ
++คุณหมูแดงจ้ะ:
นางเอกที่ว่า แต่งหน้าจวนเสร็จ..รออีกนิด นะจ๊ะ
++คุณ Licht (Miran):
แหม..เลือกใช้คำกิริยา สำหรับการออกโรงรอบแรกของนางเอกได้สะใจจริง ๆ จวน "โผล่" พ้นท้องนทีเต็มทีแล้ว
++คุณปุจฉา:
จงกาเครื่องหมาย X ข้อที่ผิดที่สุด
(1) แมงกระชอน --> แมงกะชอน
(2) แมงกะแท้ --> แมงกระแท้
(3) แมงกะพรุน --> แมงกะพรุน
(4) สุริโยทัย --> สุริโยไท
++คุณ JW (Chelsey):
ขอบพระคุณ สำหรับลิงค์ร้อน ๆ และกุหลาบช่องาม What is it, in the name that you use to call a rose, by any other names smell as sweet!
++คุณ GTW:
อีกสอง+สามตอนจะมาเฉลยว่ามีอะไรที่น่ากลัวกว่ามีดในมือเธอ
++คูณ belissima:
อยากฟังเหมือนกันอย่างที่บอกไว้วันก่อนว่าอยากให้ทุกท่านคิดว่ามานั่งล้อมวงฟังคนแก่เล่าความหลังช่วยกันฟัง ช่วยกันเล่า
ช่วยกันวิจารณ์น่าจะดีกว่า ฟังเฉย ๆ นะเรื่องความจำของคนแบ่งออกเป็นสองช่วงใหญ่ ๆ คือความจำช่วงใกล้และความจำช่วงไกลบางคนใกล้ดี ไกลห่วย บางคนใกล้ห่วย ไกลดี แต่ว่ากันว่าคนเรา..มักจะจำความทุกข์ได้แม่นยำกว่าความสุขไม่ว่าจะใกล้หรือไกลที่จริงหนูไม่ได้นอนดึกนะแต่เพิ่งตื่นต่างหาก ช่วงนี้มีถ่ายทอดสดกอล์ฟยูเอสโอเพ่น ไทเกอร์ เอ หรือ ไทยเกอร์ หว่า
กำลังนำ
จากคุณ : แมงกะพรุน - [17 มิ.ย. 45 01:01:11 A:203.149.44.110 X:]

ความคิดเห็นที่ 12
5555
จากคุณ : วิสัชนา - [17 มิ.ย. 45 09:11:09 A:203.113.34.61 X:]

ความคิดเห็นที่ 13
อนุโมทนาย้อนหลังกับพี่แมงกะพรุนด้วยคนค่ะ อิอิ ท่าจะวุ่นวายน่าดูชม รอนางเอกออกเหมือนกันง่าาาาาา
จากคุณ : Clear Ice - [18 มิ.ย. 45 01:52:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14
แหะ แหะ มาช้าไปหน่อย เลยขอเกาะท้ายกระทู้ นั่งรออ่านตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อค่ะ
จากคุณ : O-HO - [18 มิ.ย. 45 13:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15
++คุณวิสัชนา:
สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม..
++คุณ Clear Ice:
ขอบคุณครับ
++คุณ APO96330
คราวที่แล้ว เดาว่าคุณเป็นผู้ชาย จากที่ใบ้ให้คราวนี้เดาว่าคุณใส่แว่นดำและไว้หนวด!
++คุณโอ้โฮ
เฮ้อ..โล่งใจไปที คิดว่าทิ้งกันเสียแล้ว
จากคุณ : แมงกะพรุน - [19 มิ.ย. 45 01:23:27 A:203.121.148.164 X:]


ไม่มีความคิดเห็น: