เพื่อน ๆ ที่อุดรทุกคนต่างก็ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันเมื่อรู้แน่ ๆ ว่าคราวนี้อเมริกันโกโฮมจริง ๆ หลังจากตั้งท่าเงื้อง่าราคาแพงมานาน จำนวนทหารที่ประจำการอยู่ตามฐานบินต่าง ๆ ก็เริ่มลดน้อยลงตามจำนวนเครื่องบินที่ถูกส่งกลับคืนสู่ฐานบินต้นสังกัด คงเหลือเพียงทหารที่จำเป็นต้องเคลียพื้นที่ก่อนที่จะส่งสถานที่คืนให้กับฝ่ายไทยเท่านั้น คนไทยที่ทำงานในแคมพ์ก็ต่างถูกปลดออกเกือบหมดที่เหลืออยู่ก็นั่งรอวันถูกปลด เดือดร้อนกันไปทั่วรวมไปจนถึงพวกนอกแคมพ์ที่เคยได้สตางค์เป็นกอบเป็นกำจากการทำมาค้าขายกับอเมริกันทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนหาช่องทางเอาตัวรอดกันทั้งสิ้น พวกที่มาอยู่แบบฉาบฉวยก็ง่ายหน่อย แต่พวกที่มาลงหลักปักฐานซื้อที่สร้างบ้านมีลูกมีเมียก็เหนื่อยหน่อย ความคึกคักเริ่มจางหายแทนที่ด้วยหงอยเหงาที่คืบคลานเข้ามาเยือนอุดรอย่างเงียบ ๆ แต่แน่นอน สถานเริงรมย์ต่างก็ทยอยปิดตัวเองลงจนเกือบหมดสิ้น
ฉันได้รับจดหมายตอบเรียกตัวให้ไปสัมภาษณ์ที่เชสคอมเมิชช่วลบร้านซ์เร็วกว่าที่คาดไว้ จอห์น ดีซิโก้ขอให้ฉันลางานขึ้นกรุงเทพไปเข้ารับการติวเข้มอีกครั้งก่อนที่จะไปสัมภาษณ์ซึ่งจอห์นดูเหมือนว่าจะตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าฉัน เราซักซ้อมกันหลายครั้งโดยจอห์นรับบทเป็นผู้สัมภาษณ์ ฉันได้เรียนรู้ในขณะนั้นว่าเทคนิคการสัมภาษณ์ที่จริงแล้วมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการสัมภาษณ์นั้น ๆ เช่นการสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม การสัมภาษณ์เพื่อให้ข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานหรือองค์กรกับผู้ถูกสัมภาษณ์เพิ่มเติม การสัมภาษณ์เพื่อทดสอบความรู้ความสามารถในงานที่สมัครหรือไหวพริบปฏิภาณของผู้ถูกสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์เพื่อทดสอบความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ส่วนรูปแบบการสัมภาษณ์ก็จะมีทั้งแบบหนึ่งต่อหนึ่งหมายความว่าผู้สัมภาษณ์คนหนึ่งกับผู้ถูกสัมภาษณ์หนึ่งคน หรือ กลุ่มต่อหนึ่ง หมายความถึงผู้สัมภาษณ์มีมากกว่าหนึ่งประกอบกันขึ้นเป็นองค์คณะสัมภาษณ์ผู้ถูกสัมภาษณ์หนึ่งคน เป็นต้น
ผู้สัมภาษณ์หากได้รับการฝึกฝนมาดีก็จะสามารถทำการสัมภาษณ์ได้ทุกรูปแบบ รูปแบบการสัมภาษณ์ต่าง ๆ จะใช้สำหรับงานต่างประเภทกัน จอห์นทราบมาว่างานที่ฉันสมัครไปนี้เป็นงานที่ต้องทำภายใต้ความกดดัน ดังนั้นเทคนิคการสัมภาษณ์จึงน่าจะเป็นแบบที่เรียกกันว่า สเตรสด์ อินเทอร์วิว (Stressed Interview) การทำสเตรสด์ อินเทอร์วิวที่ว่านี้ นอกจากผู้สัมภาษณ์จะไม่แสดงความเป็นมิตรหรืออารมณ์อื่นใดแล้ว ยังจะสร้างความกดดันผ่านคำถามต่าง ๆ โดยใช้คำถามที่ฝรั่งเรียกว่าแนสตี้เควสชั่น แปลเป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุดคงเป็นคำถามกวนหรือยั่วโมโหและผู้สัมภาษณ์จะใช้ทุกโอกาสที่มีในการขัดจังหวะผู้รับการสัมภาษณ์ในขณะที่ตอบคำถามเหล่านั้นเพื่อสังเกตความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของผู้รับการสัมภาษณ์ไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย การสัมภาษณ์ในลักษณะนี้ผู้สัมภาษณ์ต้องมีประสบการณ์และมีความสามารถที่จะควบคุมการสัมภาษณ์ไว้ได้โดยไม่ล่มกลางคันหรือถูกผู้รับการสัมภาษณ์ทำร้ายร่างกายเอาเสียก่อน
สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่ผู้ถูกสัมภาษณ์มักจะพากันมองข้ามไปก็คือความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์กรเจ้าของตำแหน่งงานนั้น ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ต้องทำความรู้จัก ทำความเข้าใจกับพื้นฐานขององค์กรเป็นเบื้องต้น เช่นโครงสร้างการบริหาร ประเภทของธุรกิจที่องค์กรนั้นทำ ผลประกอบการ และรายนามคณะกรรมการหรือผู้บริหารเป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ จะเอื้อให้ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์รู้เขารู้เรา รู้ว่าองค์กรนั้นเป็นอย่างไร มีความมั่นคงมากน้อยขนาดไหน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นธุรกิจที่เราสนใจหรือไม่ นอกจากนี้ ยังแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นอีกด้วยว่า เราสนใจที่จะเข้าร่วมงานกับเขาอย่างจริงจัง
คำแนะนำข้อสุดท้ายที่จอห์นให้กับฉันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตัวเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์ จอห์นถามว่าฉันวางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไรซึ่งฉันก็ตอบไปทันทีแทบจะไม่ต้องคิดว่าไม่เห็นต้องวางแผนอะไร ฉันแต่งตัวไปทำงานตามปกติอย่างไรก็คิดว่าจะไปอย่างนั้น การแต่งตัวไปทำงานตามปกติของฉันในช่วงที่ทำงานอยู่ในแคมป์ที่อุดรก็คือการใส่เสื้อซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อแขนสั้นผูกเนคไทด์ซึ่งถือว่าเป็นการแต่งตัวแบบสุภาพเหมาะสมกับการทำงานในสำนักงานแล้ว เสื้อแขนสั้นที่ฉันใช้อยู่ทั้งหมดในตอนนั้นเป็นเสื้อซึ่งซื้อจากพีเอ๊กซ์เป็นเสื้อเชิร์ตลายทางสไตล์อเมริกันในเฉดสีต่าง ๆ กันใส่คู่ไปกับเนคไทด์ใบพายขนาดใหญ่มโหฬารซึ่งอยู่ในแฟชั่นในขณะนั้น สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับเสื้อพีเอ็กซ์ชุดนี้ก็คือคอปกที่เห็นว่าตัดได้ดีนัก เมื่อติดกระดุมผูกเน็คไทด์เรียบร้อยแล้วปกที่พับลงมาจะอยู่ตัวพอดีไม่แข็งไปไม่อ่อนจนเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือปลายคอปกจะไม่มีทางกระเดิดงอนขึ้นมาเป็นปีกนกเป็นอันขาด
เมื่อจอห์นได้ยินแผนการเกี่ยวกับการแต่งตัวของฉันก็ร้องคำว่า “โน” ในระดับเสียงที่ต่างกันติดต่อกันประมาณห้าสิบครั้งแล้วตามปิดท้ายด้วยคำว่า “โนเวย์” อย่างหนักแน่นเป็นการเน้นย้ำเป็นคำสุดท้าย จอห์นไม่ได้ใช้คำว่า “ควร” แต่เน้นคำว่า “ต้อง” คือบังคับให้ฉันต้องใส่สูทไปรับการสัมภาษณ์ อย่าแม้แต่จะคิดที่จะใส่ชุดครึ่งท่อนไปเพราะจะดูไม่เหมาะสมและอาจถูกมองไปได้ว่าไม่ให้เกียรติกับผู้สัมภาษณ์โดยจอห์นให้เหตุผลเพิ่มน้ำหนักว่าฉันไม่ได้ไปสมัครเข้าทำงานในตำแหน่งเสมียน ที่จริงสูทกับฉันนั้นเป็นอะไรที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันไม่เคยเข้าใจและยังคงไม่เข้าใจอยู่จนทุกวันนี้ว่า เสื้อสูท ซึ่งใครก็ไม่รู้บัญญัติศัพท์ภาษาไทยไว้ว่า “ชุดสากลนิยม” จึงเป็นเครื่องหมายแสดงความสุภาพไปได้ทั้ง ๆ ที่มันเป็นชุดที่ออกแบบมาสำหรับคนในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นใช้ ชื่อเขาก็บอกชัดเจนแล้วว่าเป็นของสากล เป็นชุดที่นิยมใส่กันในสากล ไม่ใช่ชุดไทย ฉันซึ่งเป็นคนรักษ์ไทยไม่นิยมความเป็นสากลจึงหลีกเลี่ยงที่จะใส่เสื้อสูทมาแต่ไหนแต่ไรยกเว้นเสียแต่ว่าจะเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เท่านั้น
เมื่อฉันเอารูปตอนแต่งงานมาให้จอห์นดูพร้อมกับบอกว่าฉันมีสูทอยู่ชุดเดียวก็ชุดสีฟ้าสดใสที่แดงแฮนด์ซั่มตัดให้เป็นของขวัญงานแต่งงานั้นแหล่ะ จอห์นก็ทำหน้าเหมือนคนที่หมดสิ้นแล้วซึ่งความหวังทั้งมวลในชีวิตพร้อมกับขอให้ฉันรีบไปหาซื้อหรือตัดสูทใหม่โดยกำหนดให้เลือกเป็นสีน้ำเงินหรือสีเทาเข้ม ๆ เท่านั้น นั่นเป็นคำแนะนำเดียวของจอห์นที่ฉันเชื่อแต่ก็มิได้ทำตามแต่เก็บไว้ในใจไม่ได้บอกจอห์น สาเหตุที่ไม่ทำตามคำแนะนำนั้นมิใช่เพราะต้องการที่จะกระด้างกระเดื่องแต่เป็นเพราะในขณะนั้นฉันไม่มีสตางค์มากพอที่จะตัดหรือซื้อสูทใหม่อีกชุดและคิดในใจว่าอยากเก็บเงินซึ่งมีไม่มากนักไว้เป็นทุนในการดาวน์บ้านหรือซื้อนมให้ลูกกินมากกว่า อีกใจหนึ่ง ฉันบังเกิดความมั่นใจลึก ๆ ว่า ถึงอย่างไรและไม่ว่าฉันจะแต่งตัวอย่างไรไป ฉันก็คงได้งานนี้แน่
ในวันนัดสัมภาษณ์ฉันได้มีโอกาสนั่งกรอกใบสมัครงานกับคุณเพ็ญศรีอีกครั้งหนึ่ง คุณเพ็ญศรีแจ้งให้ฉันทราบว่างานที่ว่างอยู่พอดีในตอนนั้นเป็นงานระดับหัวหน้าแผนกในแผนกบริการลูกค้า (Customer Services) ซึ่งค่อนข้างจะตรงกับประสบการณ์ของฉันที่อุดร ผู้จัดการแผนกบริการลูกค้าที่ฉันต้องไปพบเป็นคนไทย แต่เป็นคนไทยที่มีเชื้อสายผสมปนเปกันหลายเชื้อชาติ มีชื่อเป็นไทยแต่นามสกุลเป็นฝรั่งว่า สุรชัย ลู ริชชาร์ด ในสายตาของฉันแล้วคุณสุรชัยดูไม่เหมือนคนไทย แต่ก็ไม่เหมือนฝรั่ง ถ้าจะให้ลงความเห็นจริง ๆ แล้วฉันเห็นว่าคุณสุรชัยดูเหมือนแขกอินเดียตัวโต ๆ มากกว่าอย่างอื่นทั้งหมดจะขาดก็เพียงผ้าโผกศรีษะและหนวดเคราเท่านั้น ในภายหลังฉันจึงได้รับรู้ว่าคุณสุรชัยชอบเรียกตัวเองและให้ต้องการให้คนอื่นเรียกแกว่า ลู ริชชาร์ด หรือไม่ก็เรียกว่ามิสเตอร์ริชชาร์ด หรือคุณริชชาร์ดมากกว่าที่จะเรียกแกโดยชื่อไทยว่า “คุณสุรชัย” เพราะในธนาคารเชสตอนนั้นมีคนชื่อสุรชัยถึงสองคน สรุชัยอีกคนเป็นเสมียน
ต่อมาสิ่งที่ฉันชอบดูและเห็นว่าสนุกนักคือเวลาที่โอเปอร์เรเตอร์โอนสายโทรศัพท์ของสุรชัยที่เป็นเสมียนมาให้กับสุรชัย ลู ริชชาร์ด เพราะทุกครั้ง มร.ริชชาร์ดจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตะโกนใส่โทรศัพท์ลั่นไปว่า “ทีหลังช่วยบอกด้วยว่าจะพูดกับสุรชัยที่เป็นเสมียน สุรชัยคนนี้เป็นผู้จัดการ”
เวลาที่นัดกันที่แรกคือบ่ายสี่โมงหลังจากธนาคารปิดทำการครึ่งชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่ากว่าที่ฉันจะได้พบกับมร.ริชชาร์ดก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็นเหตุเพราะแกติดธุระปล่อยให้ฉันนั่งรออย่างกระสับกระส่ายวุ่นวายใจในชุดสูทสีฟ้าตัดกันเป็นอย่างดีกับกางเกงสีดำอยู่กว่าสองชั่วโมง ตอนห้าโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาเลิกงานตามปกติ คุณเพ็ญศรีซึ่งแจ้งกับฉันว่าจะขอตัวกลับก่อนได้พาฉันไปนั่งรอที่โต๊ะรับแขกซึ่งตั้งอยู่หน้าห้องทำงานห้องหนึ่งมีโต๊ะทำงานของผู้หญิงวัยเลยกลางคนที่มีหน้าตาไม่เป็นมิตรที่สุดคนหนึ่งที่ฉันเคยพบมาในชีวิตนั่งอยู่ ฉันมองจากอุปกรณ์การทำงานต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานนั้นก็พอที่จะเดาได้ไม่ผิดว่าหญิงนั้นมีตำแหน่งหน้าที่เป็นเลขานุการของใครสักคนหนึ่ง ฉันพยายามส่งยิ้มที่ฉันคิดเองว่าหวานหยาดเยิ้มที่สุดให้กับหญิงนั้นแต่เท่าที่ฉันได้รับตอบคืนมาคือหน้าที่เรียบเฉยที่เชิดขึ้นเล็กน้อยและริมฝีปากนี้เม้มเหยียดตรงที่ฉันพอจะสรุปเป็นคำแปลสั้น ๆ ได้เพียงคำเดียวว่า “ทะลึ่ง”
การสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี ฉันมิได้เจอการสัมภาษณ์แบบสเตรสด์ดังที่คาดไว้ มร.ริชชาร์ดพูดภาษาอังกฤษสำเนียงคนอังกฤษแท้ ๆ แต่ฟังง่ายกว่ามากได้ดีพอ ๆ กับภาษาไทย เป็นคนตัวอ้วนใหญ่และลงพุงที่คุยสนุก หัวเราะเสียงดัง และเป็นกันเองแถมยังเป็นผู้ชายที่ฉันคิดว่ามีลูกตาที่โปนและใหญ่มากจนทำให้ฉันนึกถึงปลาเงินปลาทองทุกทีที่เห็นตาคู่นั้น จนฉันไม่กล้าสบตาตรง ๆ กับ มร.ริชชาร์ดมากเท่าที่จอห์นกำชับกำชามา
โดยสรุป มร.ริชชาร์ดเพียงแต่ถามฉันถึงเรื่องทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับเชสเอมเอฟเอฟและงานที่ผ่านมา โดยวัตถุประสงค์แล้วน่าจะเป็นการทดสอบทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของฉันมากกว่าความอยากรู้จริง ๆ ฉันแน่ใจว่าจะได้งานทำโดยก่อนที่จะสิ้นสุดการสัมภาษณ์เสียอีกเมื่อฉันตาไวเห็นมร.ริชชาร์ดเขียนลายมือตัวโตเท่าหม้อแกงลงในแบบประเมินผลผู้สมัครสั้น ๆ ว่า “A perfect candidate”
ต่ออีกประมาณสองสัปดาห์ฉันก็ได้รับแจ้งจากคุณเพ็ญศรีทางโทรศัพท์ว่าฉันได้งานทำที่เชสคอมเมิชช่วลบร้านซ์และถามว่าจะเริ่มงานได้เมื่อใดเพื่อจะได้ส่งจดหมายเสนอตำแหน่งงานให้ ฉันเกือบจะตอบไปแล้วว่าเมื่อใดก็เมื่อนั้นแต่พลันคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองมิใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยอีกต่อไปจึงตอบไปว่าขอเวลาในการโยกย้ายข้าวของครอบครัวกลับกรุงเทพสองเดือน จึงตกลงกันว่าฉันจะเริ่มงานในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2519
ในระยะสุดท้ายที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่อุดรแม่เริ่มขึ้นมาหาบ่อยขึ้น คงจะเป็นด้วยติดใจพวกเพื่อน ๆ ขี้เมาทั้งหลายของฉันที่คุยสนุกแต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความเคารพงกับแม่เสมอมา นายปั้นนั้นไม่ต้องพูดถึงเคยขึ้นมาอยู่ทีละเป็นเดือนช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอม สำหรับงานท่องเที่ยวพักผ่อนประจำปี (Annual Picnic) ของธนาคารในปีสุดท้ายก็จัดขึ้นแบบทิ้งทวนเป็นการท่องเที่ยวที่สัมบุกสัมบันมากด้วยการเดินทางไกลเป็นวงรอบในจังหวะที่มีการหยุดยาวติดต่อกัน 3 วันซึ่งหาไม่ง่ายเหมือนในสมัยนี้ เริ่มออกเดินทางจากอุดร วกขึ้นเชียงใหม่ จากเชียงใหม่ล่องลงมากรุงเทพแวะไปพัทยาลงเรือไปเที่ยวเกาะล้านก่อนที่จะวกรถกลับอุดรจากจังหวัดระยองโดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ สนุก เมา และเหนื่อยมาก คนนอกที่ไม่ใช่พนักงานธนาคารแต่ชื้อตั๋วร่วมขบวนไปด้วยก็มีแม่กับนายปั้น ทวีสลิด แดงแฮนด์ซั่ม อ๊อดทอม ไอ้สาน และ โอ๊ตเป็นต้น
(โปรดอ่านต่อไปได้อีกนิดที่ความคิดเห็นที่ 1)
จากคุณ : แมงกระพรุน - [ 5 ก.ย. 45 20:28:06 A:202.183.228.67 X:203.170.151.168 ]
--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 1
นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันและตุ่มทิ้งปองให้แม่ของทวีเป็นผู้ดูแลแต่เพียงลำพังตั้งแต่ลูกเกิดมา พอ กลับมาถึงได้อุ้มลูกก็พบด้วยความตกใจว่า คอของลูกนั้นเปื่อยเป็นแผลยุ่ยจนหนังลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ เพราะถูกน้ำนมกัด เนื่องจากดูดนมแล้วนมมันไหลลงไปเปียกชื้นอยู่ที่ซอกคอเมื่อผสมเข้ากับเหงื่อของลูกก็เลยเป็นเรื่อง แม่ของทวีคงไม่เห็น จึงไม่ได้เช็ดให้แห้ง ข้างแม่เมื่อเห็นดังนั้นก็ได้โอกาสยื่นคำขาดว่าจะขอรับปองไปให้ “ปู่ดู” ที่กรุงเทพฯแล้วจะเลี้ยงไว้ให้จนกว่าฉันกับตุ่มจะย้ายตามลงไป ฉันเห็นว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตุ่มกับฉันก็มีภาระที่ต้องสะสางอีกเป็นอันมากจึงยอมให้แม่อุ้มปองขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพไป ตอนที่แม่จับมือปองโบกหยอย ๆ ให้กับฉันผ่านหน้าต่างรถทัวร์นั้นฉันเกือบจะวิ่งขึ้นไปแย่งเอาลูกคืนมาเสียแล้วแต่ก็ทำไม่ทันเพราะรถเคลื่อนตัวออกไปเสียก่อน ฉันไม่รู้ว่าตุ่มคิดอย่างไรเพราะเห็นยืนเงียบงันอยู่ ส่วนฉันนั้นใจมันหวิว ๆ อย่างไรชอบกลเมื่อต้องยืนมองรถทัวร์คันนั้นพาลูกวิ่งห่างจากเราออกไปจนลับสายตา
ช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2518 ที่อุดรเป็นอะไรที่เงียบเหงาเกินกว่าที่จะเรียกได้ว่าเป็นช่วงเดือนแห่งการเฉลิมฉลองดังเช่นที่เคยเป็นมา ทุกคนที่ฉันรู้จักตกงานแล้วหรือไม่ก็กำลังจะตกงาน แดงแฮนด์ซั่มปิดร้านตัดเสื้อกางเกงขนย้านลูกเมียไปตั้งหลักใหม่อยู่ที่ขอนแก่น ไอ้สานหายตัวไปอย่างลึกลับไม่มีใครพบเห็น อ๊อดทอมตกงาน ตุ๊ว๊ากตกงาน ตุ่ม ฉันและตุ๊ไมตรีกำลังจะตกงาน ทวีกำลังจะตกงาน ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าซึมนั้น ทวีก็เสนอขึ้นมาว่าจะจัดงานเลี้ยงส่งตุ่มกับฉันก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน ตามกำหนดการฉันกับตุ่มจะทำงานให้กับเชสเอมเอฟเอฟสาขาอุดรถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2518 และตั้งใจว่าจะย้ายข้าวของและเมียเข้ากรุงเทพภายในอาทิตย์แรกของเดือนมกราคม 2519 แม่หาเรื่องนั่งรถทัวร์กลับขึ้นมาอุดรอีกรอบโดยอ้างว่าจะมาช่วยขนของด้วยอีกแรงหนึ่ง ปล่อยให้ “ไอ้จิ๋ม” คนใช้คู่ใจของแม่ที่อยู่กันยืดที่สุดรับหน้าที่ในการเลี้ยงดูปองซึ่งแม่อุ้มขึ้นไปอยู่กรุงเทพฯเป็นการชั่วคราว
ทวีลงทุนไปจ้างเขาเขียนป้ายผ้ามีข้อความตัวใหญ่เขียนไว้ว่า “ลาที..มิใช่ลาก่อน” มาขึงเชือกแขวนไว้กลางลานบ้านหนองประจักษ์ ทุกคนที่เหลืออยู่ที่อุดรในตอนนั้นต่างมาร่วมงานและเสแสร้งทำเป็นสนุกสนานแต่ต่างก็มองตากันอย่างเศร้าซึมอึกอักอย่างไรพิกล ฉันนึกด่าทวีอยู่ในใจว่าไม่จัดเสียยังจะดีกว่า ที่จริงฉันก็แย้งกับทวีไปแล้วเมื่อมันออกความคิด แต่มันกลับยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องจัด ในกลุ่มเพื่อนตอนนั้นมีฉันคนเดียวที่มีเป้าหมายได้งานทำแล้วอย่างแน่นอน ส่วนคนอื่นรวมทั้งทวีนั้นยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันทั้งสิ้น แม้ว่าทุกคนที่ทำงานในแคมพ์จะได้รับเงินชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมาย แต่นั่นก็อาจเป็นเงินก้อนเดียวซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรนักสำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องกินต้องใช้ในช่วงที่ต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อหางานทำใหม่ อย่างที่เคยเล่าในตอนแรก ๆ นั่นแหล่ะ ทุกคนที่ฉันรู้จักล้วนเป็นพวก “มีเท่าใดใช้ให้หมด ไม่มีใครมีเงินเก็บกันเลย”
สมบัติทั้งที่เป็นของตุ่มและฉันอยู่เดิมและทั้งที่เราซื้อหามาหลังจากแต่งงานอยู่กินกันนั้น เมื่อเก็บใส่กล่องกระดาษใหญ่ ๆ แล้วกองเป็นภูเขา ที่แรกที่กะกันว่าจะเช่าเพียงรถปิ๊กอัพขนก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นรถหกล้อของ ร.ส.พ. แทน ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่สี่ปีที่ฉันซัดเซพเนจรขึ้นมาอุดรโดยลำพังตัวคนเดียวมีสมบัติตั้งต้นแค่ใส่เต็มท้ายรถซันนี่จะงอกเงยออกจนเต็มกระบะรถบรรทุกหกล้อถึงหนึ่งคันได้อย่างแปลกประหลาดมาก
ป๋ากับแม่ชักชวนอย่างแข็งขันให้ฉันกับตุ่มไปลงหลักปักฐานอยู่ด้วยกันเสียที่บ้านเอกมัย เป็นข้อเสนอที่ฉันออกจะเห็นดีด้วยในครั้งแรกเนื่องจากต่อไปจะเหลือฉันเพียงคนเดียวที่มีรายได้ ส่วนตุ่มนั้นกะว่าจะให้อยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่เมื่อกลับมาคิดถึงเรื่องปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายในระยะเวลาอันสั้นหลังจากที่ฉันและตุ่มย้ายเข้าไปอยู่ร่วมชายคาและแนวโน้มที่แม่จะยึดเอาปองไปเลี้ยงดูเป็นการถาวรแล้ว ฉันซึ่งเป็นคนรักสงบไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็รีบเปลี่ยนใจโดยเร็ว ตุ่มนั้นไม่ต้องพูด เห็นด้วยกับฉันเต็มร้อยเปอร์เซนต์ เราตกลงกันว่าจะหาซื้อบ้านสักหลังโดยเร็วที่สุด ในระยะแรกที่หาบ้านใหม่นั้น ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องอาศัยอยู่ที่บ้านเอกมัยไปพลาง ๆ ก่อน
หลายปีต่อมา ฉันจึงเริ่มยอมรับความจริงว่า ไม่ว่าตัวจะอยู่ที่ไหน อยู่ด้วยกันหรือห่างกันสักเพียงใดไม่ ขึ้นชื่อว่า แม่ผัว กับ ลูกสะใภ้ ก็ต้องไม่ถูกไม่เข้ากันโดยธรรมชาติอยู่ดี จะมากหรือน้อย ถึงขั้นแตกหักจนต้องคนกลางต้องมานั่งเลือกว่าจะเอาแม่หรือเอาเมีย ก็ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของหู และการวางตัวของ “คนกลาง” นั้นเอง
คืนวันที่ย้ายของเข้ากรุงเทพ ทวีนึกสนุกอีท่าไหนก็ไม่รู้หอบขวดเหล้าโซดาและกระติกน้ำแข็งกระโดดขึ้นรถตามลงมาด้วยโดยไม่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น บอกกับฉันเพียงว่าส่งกันทั้งทีก็จะขอส่งให้ถึงกรุงเทพ ตะโกนบอกให้สลิดเฝ้าบ้านและเลี้ยงลูกดีดี ตุ่มแยกตัวไปนั่งคุมของไปกับคนขับรถ ร.ส.พ. ฉันแม่และทวี นั่งมาในซันนี่ขับนำหน้ารถ ร.ส.พ. อีกที ออกจากอุดรตอนเกือบสามทุ่มกะว่าจะให้ถึงกรุงเทพเช้าพอดี ฉันขับรถออกจากอุดรในเที่ยวนั้นใจหายวาบวับชอบกล ด้วยรู้แน่ว่าคงอีกนานกว่าจะได้กลับมาอีก และหากได้กลับมาจริง ทุกอย่างคงไม่มีวันที่จะเหมือนเดิมอีกแล้ว
ระหว่างทางที่วิ่งมาจากอุดร รถ ร.ส.พ. ถูกเรียกให้หยุดรวมแล้วถึงสี่ครั้ง ทุกครั้งต้องจ่ายค่าผ่านทางซึ่งคนขับรถก็แนะให้เตรียมใส่ซองไว้ให้เรียบร้อย ไม่รู้เป็นไง ฉันไพล่นึกไปถึงวันแต่งงานที่น้อง ๆ ตุ่มเอาเข็มขัดเงินเข็มขัดนาคมากั้นประตูเงินประตูทอง ต้องจ่ายสตางค์เสียก่อนจึงจะผ่านได้ ต่างกันที่ คราวนั้นฉันให้ด้วยความเต็มใจ แต่คราวนี้ ฉันให้ด้วยความขมขื่นใจชอบกล คนขับรถบรรทุกปลอบใจว่า “ให้ ๆ ไปเถิดครับ มันเป็นธรรมเนียม ไม่งั้นโดนค้นแหลก หากล่าช้าไปรถจะติดเวลาเข้ากรุงเทพฯไม่ได้ เดี๋ยวจะยุ่งกันไปใหญ่”
ป๋าสละโรงรถที่บ้านเอกมัยให้สำหรับกองสมบัติของฉันกับตุ่มไว้เป็นการชั่วคราวเมื่อฉันให้เหตุผลว่าจะหาบ้านอยู่เองให้ได้ภายใน 3 เดือน ในระหว่างนั้นฉันกับตุ่มก็ได้ห้องเดิมของฉัน ห้องที่เกิดบทอัศจรรย์เป็นครั้งแรกในคืนนั้นแหล่ะ เป็นห้องพักชั่วคราว ทวีที่อ้างว่าจะลงมาส่งก็โอ้เอ้นอนตีโมงกินเหล้าอยู่ด้วยกันเสียหลายวันกว่าจะจับตัวมันยัดขึ้นรถไฟส่งตัวกลับไปอุดรได้
ในช่วงที่ฉันยังว่างก่อนที่จะไปเริ่มงานกับเชสคอมเมิชช่วลบร้านซ์ ฉันกับตุ่มเริ่มออกหาบ้านกันอย่างจริงจัง ช่วงนั้น บ้านจัดสรรที่ชื่อออกคุ้นหูด้วยผลของการโฆษณาประชาสัมพันธ์มีอยู่หลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวปลูกในเนื้อที่ระหว่าง 50 ถึง 100 ตารางวา ตอนนั้นคนยังไม่รู้จักทาวน์เฮาส์หรือคอนโดมิเนียมแต่อย่างใด ฉันกับตุ่มตกลงกันว่าเราในฐานะที่ยังเป็นนกน้อยจะสร้างรังแต่พอตัวจึงเน้นหาบ้านในเนื้อที่ระหว่าง 50 – 75 ตารางวาโดยเน้นหาบ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลย่านหัวหมากเลยตลอดไปจนถึงแถบสำโรง ตอนนั้นฉันกับตุ่มมีเงินรวมกันอยู่ประมาณเก้าหมื่นเศษกะกันว่าน่าจะพอจ่ายเป็นเงินดาวน์บ้านได้และน่าจะมีเงินเหลือติดกระเป๋าพอให้อุ่นใจได้บ้างไม่มากก็น้อย
แล้วเราก็ไปชอบใจได้บ้านในหมู่บ้านเมืองเงินนิเวศน์ ถนนพัฒนาการ เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นมีสามห้องนอนสามห้องน้ำพร้อมห้องครัวและห้องคนใช้แยกต่างหากจากตัวบ้าน ปลูกในเนื้อที่ 62 ตารางวา ด้วยเห็นว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านเอกมัยนัก ราคาบ้านพร้อมที่ดินในตอนนั้นตกสามแสนห้าหมื่นบาท วางดาวน์ยี่สิบห้าเปอร์เซนต์ ในขณะที่วางเงินดาวน์นั้น บ้านยังไม่ได้สร้างที่ที่พนักงานขายพาไปชี้ให้ดูยังเป็นดินเฉอะแฉะมีต้นหญ้าต้นกกขึ้นอยู่เต็มไปหมด พนักงานขายยืนยันกับฉันและตุ่มอย่างมั่นเหมาะว่าวางเงินดาวน์แล้วไม่เกินสามเดือนบ้านสร้างเสร็จแน่ฉันก็ตกลงใจวางเงินดาวน์ไป พร้อมกับทำเอกสารขอกู้เงินส่วนที่เหลือจากธนาคารเจ้าของโครงการไปในคราวเดียวกันด้วย
จากคุณ : แมงฯ - [ 5 ก.ย. 45 20:29:50 A:202.183.228.67 X:203.170.151.168 ]
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ชอบการจากลาเลย เฮ้อ เศร้า แต่การเริ่มต้นใหม่ ก็ท้าทายดี ^_^
จากคุณ : Lazy Genius - [ 5 ก.ย. 45 21:18:02 ]
ความคิดเห็นที่ 3
ผมก็แพ้สูทเหมือนกัน ใส่ทีไรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกิ้งก่าได้ทองหรือลิงได้แก้ว อสูรกับสูท ยังไงยังงั้น ร้อนต่างหาก ^_^...
จากคุณ : GTW - [ 5 ก.ย. 45 21:22:29 A:202.133.172.223 X: ]
ความคิดเห็นที่ 4
Don't like saying good-bye too ah ka. This chapter is a bid sad ner~~
จากคุณ : Clear Ice - [ 5 ก.ย. 45 23:01:23 ]
ความคิดเห็นที่ 5
ตอนนี้ออกจะเศร้าๆ นะคะ แล้วพลอยลุ้นต่อไปด้วยว่า เรื่องบ้านจะเป็นอย่างไร อ่านจากที่ตอบกระทู้ก่อนแล้วโล่งอกค่ะ ที่คุณแมงฯ หายไป เพราะเครื่องคอมพ์มีปัญหาเท่านั้น แหะ แหะ รักษาสุขภาพนะคะ
จากคุณ : O-HO - [ 6 ก.ย. 45 00:26:19 ]
ความคิดเห็นที่ 6
งวดนี้รีบมาเต็มที่นะคะ จองที่ข้างหน้าๆบ้าง (กลัวถูกต่อว่าค่ะ....อิ..อิ..) พูดถึง stressed interview แล้ว มีเหมือนกันเชียวค่ะ ยังจำตอนถูกสัมภาษณ์เข้าเรียนหมอได้ราวกับเกิดวานนี้เลยค่ะ ทุกคนจะร้องไห้ออกมาจากห้องสัมภาษณ์เหมือนๆกันหมด แต่เมื่อเราตั้งสติได้ รู้ทันจุดประสงค์ของคำถาม ยิ้มตอบไปแบบไม่รู้ไม่ชี้ อาจารย์ที่สัมภาษณ์นั้นเองค่ะ จะทำหน้างง..งง ถามต่ออีกไม่ถูก เพราะคาดปฏิกริยาผิด เลยให้จบได้เลย กิ๊กๆ....
ไม่ชอบการจากกันเหมือนกันนะคะ ไม่ว่าเมือ่ใดที่ไหน กี่หนกี่หนใน ชีวิตน่าจะชิน ก็จะเศร้าเหมือนๆกันทุกที ทั้งๆที่เป็นส่วนธรรมชาติที่ เลี่ยงไม่พ้น ทักทายคุณ Lazy Genius, คุณ GWT, น้องไอซ์ และน้องโอโฮ ค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [ 6 ก.ย. 45 04:06:42 ]
ความคิดเห็นที่ 7
หวัดดีพี่แมงฯและเดอะคลับค่ะ ตอนนี้ เศร้าจริงๆด้วย พี่แมงฯนี่เตรียมพร้อมดีจัง ตาฝรั่งคนนั้นมองการไกลดีนะ ได้กลิ่นไม่ชอบมาพากลเรื่องบ้านนะพี่แมงฯ ยังไม่ได้สร้างเลย แค่ 3 เดือนจะเสร็จหรือ ไปก่อนนะเดี๋ยวมาใหม่ค่ะ
จากคุณ : JW - [ 6 ก.ย. 45 04:06:53 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 8
หวัดดีพี่หมอปราณ ออนไลน์พร้อมกันเลยนะคะ ช่วงนี้เริ่มเย็นๆแล้วนะคะ รักษาสุขภาพนะคะ
จากคุณ : JW - [ 6 ก.ย. 45 04:08:32 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 9
ว้าว..น้องเจขา กอดค่ะ..กอด..คิดถึงจังค่ะ ที่นี่ยังร้อนอยู่ค่ะ จะปลายแปดสิบแน่ะค่ะ พิลึกเลย ฤดูกาลปรวนแปร
แหะๆ..ขอกระตู้วู้ ปฏิคมของคลับหน่อยนะคะ
จากคุณ : ปราณ - [ 6 ก.ย. 45 04:15:38 ]
ความคิดเห็นที่ 10
Khun Maeng ka, I cannot imagine what blue suits look like. ;) Khun Pran ka, the temperature in Sounthern CA. yesterday was about 110 degree F. ka, . Today is a little bit better (around 85). Where do you live ka?
จากคุณ : B - [ 6 ก.ย. 45 05:09:56 A:134.173.133.227 X: ]
ความคิดเห็นที่ 11
กำลังจะมาตั้งต้น สร้างบ้านใหม่ที่กรุงเทพฯแล้ว ติดตามค่ะ
จากคุณ : scottie - [ 6 ก.ย. 45 08:25:02 ]
ความคิดเห็นที่ 12
^-^
มาแอบอมยิ้มเป็นกำลังใจให้พี่แมงฯสู้ต่อไป ^-^
จากคุณ : T.time - [ 6 ก.ย. 45 08:41:15 ]
ความคิดเห็นที่ 13
แวะมาอ่านต่อ ชีวิตคนเรานี่เหมือนกับเรือกลางมหาสมุทรจริงๆนะ คุณแมงฯ เราไม่ได้เลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหรอก เราเรียนคณะประมง แล้วก็ลงเรียนวิชา Marine Breeding คือดารเพาะและนุบาลสัตว์ทะเล ตอนนี้ก็เรียนการเลี้ยงกุ้งและปฏิบัติจริง ประคบประหงมอย่างดี แล้วมันก็เป็นโรค นี่เพิ่งเลี้ยงครั้งแรกนะเนี่ย
จากคุณ : Licht - [ 6 ก.ย. 45 10:56:40 A:158.108.5.2 X:158.108.86.217 ]
ความคิดเห็นที่ 14
มานั่งฟังเช่นกันครับ ตกลงพี่แมงฯ ปัจจุบันยังอยู่พัฒนาการอยู่หรือเปล่า ผมอยู่คลองตัน ชักใกล้กันแล้วสิ...หวัดดีคุณ JW และ พี่หมอปราณ พร้อมชาวแฟนคลับทั้งหลายครับ
จากคุณ : พิจิก27 - [ 6 ก.ย. 45 13:57:41 A:203.155.70.253 X: ]
ความคิดเห็นที่ 15
แว่บเข้ามาอีกครั้งเพื่อ สวัสดีค่ะ พี่หมอปราณ น้องเจย์ และแฟนคลับ "เรื่องของฉัน" ด้วยเช่นกันค่ะ
จากคุณ : O-HO - [ 6 ก.ย. 45 14:10:06 ]
ความคิดเห็นที่ 16
@^v^@
จากคุณ : P_JUNG - [ 6 ก.ย. 45 17:59:56 A:194.82.103.141 X:193.60.131.2, 193.60.131.12 ]
ความคิดเห็นที่ 17
แวะมาอ่านด้วยใจจดจ่อ รู้สึกว่าตอนนี้เหงาๆ เศร้าๆ ยังไงชอบกลนะ แต่ก็ได้ความรู้เรื่องการสัมภาษณ์ ได้รู้ว่าพี่แมงเป็นคนค่อนข้างจะมั่นใจในตัวเองมาก ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของเทรนเนอร์ไปซะทุกอย่าง เพราะมั่นใจว่าจะได้งานแน่ๆ อยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้แสดงกริยาปั้นปึ่งหรือแสดงตัวว่ารู้ดีกว่าให้เทรนเนอร์รู้สึก นับว่าเป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง ไงก็ดี...เอาเป็นว่า อ่านตอนนี้จบแล้ว ขอ รอลุ้น "บ้านใหม่" ของพี่แมงกับพี่ตุ่ม (อ้อ..ของน้องปองด้วย) ก็แล้วกันนะคะ
จากคุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 7 ก.ย. 45 10:45:53 A:203.148.232.36 X: ]
ความคิดเห็นที่ 18
รวมลิงค์ “เรื่องของฉัน" http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1739522/W1739522.html
ขอเชิญลงนามในสมุดเยี่ยมด้วยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1739495/W1739495.html#1
จากคุณ : JW (Chelsey) - [ 7 ก.ย. 45 13:35:42 ]
ความคิดเห็นที่ 19
ด่วนครับ Extremely Urgent! ขอเชิญทุกๆท่าน ร่วมอวยพรวันเกิดให้พี่แมงกระพรุน เพี่อเป็นกำลังใจในการเขียนหนังสือ และต่อสู้ชีวิต ได้ที่นี่ครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1739867/W1739867.html
จากคุณ : มูโจ้ - [ 7 ก.ย. 45 17:26:52 ]
ความคิดเห็นที่ 20
น้องมูโจ้..ยกนิ้วให้ค่ะ เก่งจริง เก่งจัง..สำหรับ คคห. 19 ขอเฉพาะกิจหน่อยค่ะ.. ..คุณ B คะ Greetings from NJ ค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [ 7 ก.ย. 45 19:31:28 ]
ความคิดเห็นที่ 21
ถึงตอนจากลา ในฝั่งลาวจะมีเพลงอยู่เพลงหนึ่งที่มักใช้ในพิธีอำลา ชื่อเพลงคือ ลาก่อนจาก ที่หลายคน(รวมทั้งผม)มักจะเรียกลาก่อนเด้อ เลยเอามาฝากกันเป็นเพลงประกอบของตอนนี้ ส่วนที่เหลือก็สำหรับคุณมุโจ้กับพี่แมงฯ ที่โหลดไม่ทันเมื่อกระทู้ที่แล้ว
http://www.angelfire.lycos.com/80s/deer0/La_Korn_Jak.MP3
http://www.angelfire.lycos.com/80s/deer0/kitty_kallen___little_things_mean_a_lot.mp3
http://www.angelfire.lycos.com/80s/deer0/John_Williams___Cavatina_from_The_Deer_Hunter.mp3
*ฝากขอบคุณ คุณศุภาด้วยครับที่ช่วยจับไก่ให้ผมในกระทู้ที่แล้ว แถมเป็นไก่ตัวที่ใหญ่มากน่าจะกินอิ่มไปได้หลายวันทีเดียว มิเช่นนั้นอาจจะทำให้ผู้อ่านหลายๆ คนเข้าใจผิดไปอีกนาน ขอบคุณครับ
จากคุณ : biblio - [ 8 ก.ย. 45 23:34:38 ]
ความคิดเห็นที่ 22
ไปสุขสันต์วันเกิด"พี่แมงฯ" มาครับ แล้วก็เลยเข้ามายกมือด้วย รักษาสุขภาพนะครับ
จากคุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 9 ก.ย. 45 10:02:46 ]
ความคิดเห็นที่ 23
ขอบคุณพี่ปราณครับที่ชมความเก่งกาจประดุจปัวโรต์ของผม แหะๆ ขอสารภาพความจริงว่าไม่ได้เก่งมาจากไหนหรอกครับ อาศัยที่ว่าพี่แมงฯ แกไม่ได้ปิดบังตัวเองเลย ทั้งรูป ทั้งเรื่อง ชื่อเสียงเรียงนาม ของจริงทั้งน้าน ประกอบกับคนอ่าน 'เรื่องของฉัน' แพร่กระจายมากหลายขึ้นทุกวันๆ ผมเลยได้พิสูจน์ทฤษฎี 'โลกกลม' ให้เห็นกันอีกครั้ง
คุณ bib ครับ ผมแห้วอีกตามเคย โหลดไม่ทันอีกแล้วเพราะไปภาระกิจต่างรัฐเสีย 2 วัน (แฮ่ะๆ ทำพูดให้เท่ห์แบบคุณศุภาไปอย่างนั้นเอง ที่จริงต่างอำเภอต่างหาก) อยากได้ 2 เพลงนี้จริงๆ ทำไงดีครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 9 ก.ย. 45 13:19:24 ]
ความคิดเห็นที่ 24
พี่แมงฯยังไม่เข้ามาอีกนะ สงสัยฉลองอยู่ค่ะ หวัดดีคุณมูโจ้ข้างบนค่ะ จะไปพักผ่อนนอนหลับแล้วค่ะ ฝันเห็นเลขอะไรจะมาบอกนะคะ ฮี่ๆๆๆ มากูดไนท์ค่ะ
จากคุณ : JW - [ 9 ก.ย. 45 15:05:05 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 25
ฉันคิดว่าชีวิตของคุณก็สบายกว่าฉันมากแันแต่งงานกับหมอช่วยกันทำคลีนิค2ปีได้บ้าน1หลังต่อมาฉันถูกรถชนและตลอดเวลาพี่น้องเขายกพวกมาตีเอาหัวของฉันโหมดกับพื้นเพื่อทำลายความดีของฉันแต่แล้วไอ้ตำรวจแสนเลวเรียกเขาไปหาหมอที่รพกรุงเทพเพื่อทำสำนวนว่าฉันตีเขาก่อนเขามากัน4คนสามีฉันยังเข้าข้างเขาทุกอย่างลองคิดดูว่าตระกูลตั้งมะโนมานะผู้ชายที่ทำฉันก็คือศิริศักดิ์ขณะนี้ทำงานอยู่ไทยเสษฐกิจมาทำฉันเมื่อปี2530จงเขาต้องถูกศาลสั่งจำค่ก6เดือนทุกคนจงจำไว้เถอะเขาอิจฉาเพราะไปรักเรขามีสามีแล้วโทรเคมประกันของสามีฉันแต่สามีฉันก็ทราบดีว่าผู้หญิงคนนี้เคยดทรด่าสามีก็เคยฟังก็ยังยอมให้ทำลายครอบครัวตัวเอง
จากคุณ : stangman2@hotmail.com - [ 9 ก.ย. 45 17:40:40 A:203.107.244.17 X: ]
ความคิดเห็นที่ 26
#25 ?????? wrong kratoo?
จากคุณ : Lazy Genius - [ 9 ก.ย. 45 21:37:37 ]
ความคิดเห็นที่ 27
คุณมูโจ้ผมลองเช็คดูแล้วก็ยังโหลดได้ปกตินะครับ ลองใหม่อีกทีครับ *อย่าลืมสูตร คลิกขวาแล้ว เซฟทาเกตแอส ใช้โปรแกรมดาวโหลดจะไม่ได้ผลครับ
จากคุณ : biblio - [ 9 ก.ย. 45 22:07:50 A:203.110.64.68 X: ]
ความคิดเห็นที่ 28
เจว่ากระทู้ 25 หลงมาจากห้องสวนลุมนะ อยู่กระทู้ไหนคะจะตามไปอ่าน หวัดดีบ่ายวันจันทร์ค่ะ
จากคุณ : JW - [ 10 ก.ย. 45 02:43:57 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 29
Many happy returns.
จากคุณ : APO96330 - [ 10 ก.ย. 45 08:44:02 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104 ]
ความคิดเห็นที่ 30
"ตอนที่แม่จับมือปองโบกหยอย ๆ ให้กับฉันผ่านหน้าต่างรถทัวร์นั้นฉันเกือบจะวิ่งขึ้นไปแย่งเอาลูกคืนมาเสียแล้วแต่ก็ทำไม่ทันเพราะรถเคลื่อนตัวออกไปเสียก่อน ฉันไม่รู้ว่าตุ่มคิดอย่างไรเพราะเห็นยืนเงียบงันอยู่ ส่วนฉันนั้นใจมันหวิว ๆ อย่างไรชอบกลเมื่อต้องยืนมองรถทัวร์คันนั้นพาลูกวิ่งห่างจากเราออกไปจนลับสายตา"....สงสารพี่แมงกระพรุนจังเลยค่ะ....เอ..นึกว่าผู้ชายไม่ค่อยรักลูกเสียอีกน๊า..สงสัยต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว...น่ารักมากเลยค่ะ
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 10 ก.ย. 45 11:03:20 ]
ความคิดเห็นที่ 31
สวัสดีคุณเจครับ ตอนนี้คงกำลังหลับสบาย ใกล้สว่างแล้ว ขอบคุณคุณบิ๊บครับ สูตรที่ว่าได้ผลจริงๆ
จากคุณ : มุโจ้ - [ 10 ก.ย. 45 11:10:06 A:203.144.144.233 X:203.144.134.135 ]
ความคิดเห็นที่ 32
ฮ่วย พักนี้มาสายบ่อยแฮะเรา ยังไงก็ไม่ลืมเข้ามาหวัดดีพี่แมงฯกับมิตรรักนักอ่านทุกท่านด้วยค่ะ
จากคุณ : bellissima - [ 10 ก.ย. 45 19:24:30 A:80.218.75.75 X: ]
ความคิดเห็นที่ 33
สวัสดีครับ เพื่อน ๆ นักอ่านร่วมชมรมทุกท่าน แมงฯกลับมาแล้วนะครับ แม้จะไม่ตรงเวลา ที่เก่าแต่ไม่ใช่เวลาเดิม แต่ก็ยังมา ที่หายไปไม่ใช่อะไรหรอก เป็นด้วยสองเหตุหลักคือ 1) อย่างที่เคยแจ้งไว้ก่อนหน้าที่แล้วว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวที่ใช้อยู่เป็นประจำน่ะ เมนบอร์ดมันพัง แม้ว่าจะอยู่ในช่วงระยะเวลาประกัน แต่ต้องเคลมใช้เวลาตั้ง 2 อาทิตย์เป็นอย่างน้อย เลยไม่ได้แวะเข้ามาดูเลย และ 2) พอได้โอกาสแวะเข้ามาเห็นอะไรที่น้องเจย์กับน้องมูโจ้ทำให้ด้วยความปรารถนาดีในทั้งสามกระทู้ที่เกี่ยวเนื่องกันแล้ว ก็เกิดอาการอึ้งไป แข้งขามันอ่อนแรงไปดื้อ ๆ ถ้าเป็นฝรั่ง (อีกแล้ว) ต้องบอกว่า It is with mixed emotions that I… ความรู้สึกมันผสมผเสปนเปไปจนยากที่จะแยกแยะ แต่เหนืออื่นใดก็คือความขอบคุณ ชื่นชม ตื้นตันใจในความคิดริเริ่มของน้อง ๆ ทั้งสองคน แต่ก็อดที่จะรู้สึกเกรงใจท่านผู้อ่านท่านอื่น ๆ เป็นอย่างมาก เกรงใจจริง ๆ ทั้งท่านที่อาจรู้สึกว่าถูกกะเกณฑ์ให้ต้องมาเขียนอะไร อะไร โดยที่ใจอาจไม่ต้องการ แบบงานสังคมที่ไม่อยากไปเลยแต่ต้องไปอะไรทำนองนั้น และ ท่านอื่น ๆ ที่อาจเห็นว่า เอ..นี่มันอะไรกันหนักหนา รกหูรกตาจัง ก็เลยต้องรีบสลัดความขวยเขินทิ้ง รีบออกหน้าม่านมากล่าวคำขอบคุณในไมตรีจิตที่แสนบริสุทธิ์ทั้งมวลที่ท่านผู้อ่านได้กรุณาสละเวลาแสดงมา ขอน้อมรับในไมตรีจิตนั้นไว้ด้วยใจที่เบิกบาน ขอให้คำอำนวยพรอันพิสุทธิ์ทั้งหลายทั้งมวล จงย้อนคืนสู่ทุกท่านเป็นหลายเท่าทวีคูณด้วยเทอญ และขอออกตัวไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่า หากความปรารถนาดีอย่างจริงใจของน้องเจย์และน้องมูโจ้ที่มีแก่ฉันเป็นการส่วนตัวในการนี้ได้ก่อให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจ หรือรำคาญหูรำคาญตา ต่อท่านผู้อ่านท่านใด ฉันก็ขอน้อมรับคำตำหนิติเตียนนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียวและใคร่อภัยในความไม่สะดวกทั้งหลายทั้งมวลเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับเรื่องวันเกิด ที่จริงแม้จะเป็นเรื่องที่เป็นส่วนตัวแต่วันเกิดของฉันก็เป็นอะไรที่รู้กันไปทั่วจนเกือบจะเป็นสาธารณะไปเสียแล้วในขณะที่ฉันยังสวมหัวโขนมีอำนาจหน้าที่ในอันที่จะให้คุณให้โทษต่อผู้อื่นได้ แต่เมื่อฉันถอดหัวโขนอันหนักนั้นออกเสียแล้ว บรรดาผู้คนที่เคยรู้ เคยจำ วันนั้นได้ก็ต่างพร้อมใจกันหลงลืมกันเสียเป็นอันมาก ซึ่งฉันเองก็ยินดียิ่งนัก คงมีแต่คนที่มิได้หวังสิ่งใดเป็นการตอบแทนนอกจากต้องการแสดงความจริงใจต่อฉันอย่างเสมอต้นเสมอปลายเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงจำวันนั้นได้อย่างแม่นยำ อนึ่ง ฉันเองเป็นคนที่ไม่เคยฉลองหรือปิติยินดีกับวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดหรือของขวัญของกำนัลอันได้มาสืบเนื่องจากยศฐาบรรดาศักดิ์ทั้งหลายทั้งมวลที่เคยมีเลย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว วันคล้ายวันเกิดของฉันเป็นเพียงวันที่เตือนให้ฉันระลึกถึงพระคุณของแม่ ระลึกถึงความเจ็บปวดอันประมาณมิได้ที่แม่ได้รับโดยที่มีฉันซึ่งกระเสือกกระสนดิ้นรนด้วยแรงแห่งกิเลศและตัณหาอันเป็นปฐมที่จะออกมาดูโลกที่ยุ่งเหยิงไม่มีที่ยุตินี้ กับประโยชน์อีกประการหนึ่งของวันนี้ก็คือ มันคอยเตือนให้ฉันรู้ว่า เวลาชีวิตของฉันในโลกนี้ เหลือน้อยลงไปอีกหนึ่งปีแล้วนะ มีอะไรที่ยังติดค้าง มีอะไรที่อยากจะทำ แล้วยังไม่ได้ทำอีกหรือไม่ ทำแล้วคนอื่นเดือดร้อนหรือไม่ ถ้ามี ถ้าไม่ ก็รีบ ๆ ทำเสีย ก็เท่านั้นเอง
ที่จริงพวกเราที่แวะมาเขียนแวะมาคุยแวะมาลงชื่อในทั้งสองกระทู้ก็คนกันเองคุ้น ๆ กันทั้งนั้น จะมีรายใหม่ที่เพิ่งเผยโฉมมาให้เห็นก็เพียงไม่กี่ราย พวกมวลชนเงียบก็ยังคงความเป็นมวลชนเงียบอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนบรรดาสมาชิกประจำที่ตามให้กำลังใจ สนับสนุน อวยชัยให้พรกันมาแต่เก่าก่อนก็ล้วนเป็นคนที่มานั่งพบนั่งคุยกันอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่น่าลำบากลำบนเลยจริง ๆ เกรงใจจริง ๆ
เอ้า ได้ฤกษ์ตอบกระทู้ตามธรรมเนียมที่ดีงามกันเสียที บัดนี้…เชิด ไฮเล เฮโล โห่รา แขกจะมาร้องรำทำเพลง ตุ๊เหร่งเตรง ร้องเพลงลิเก ฯลฯ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : Lazy Genius - [ 5 ก.ย. 45 21:18:02 ]
แหม งวดนี้คุณเลซี่ หักปากกาเซียนระเนระนาด หลุดเข้ามาได้เป็นคนแรกเลย ทุกทีคอยแต่จะเข้ามายิ้มปิดท้ายกระทู้ งวดนี้มาคุยได้ด้วย ขอบคุณครับ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : GTW - [ 5 ก.ย. 45 21:22:29 A:202.133.172.223 X: ]
ครับ จะแพ้จะไม่ชอบอย่างไร ก็คงต้องทน เพราะมันกลายเป็นค่านิยมในสังคมไทยไปเสียแล้ว
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : Clear Ice - [ 5 ก.ย. 45 23:01:23 ]
น้องไอ้ซ์: Parting is such a sweet sorrow. นะน้องนะ มีเริ่มก็ต้องมีจบ มีพบก็ต้องมีจาก ขออย่างเดียว ให้การจากกันนั้น เป็นการจากกันด้วยความรัก ความเข้าใจ คิดถึงกันเมื่อใด ก็ระลึกถึงสิ่งดี ๆ ที่ได้มีโอกาสแบ่งปันกันมาได้ ขอ (ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้) อย่าให้เป็นการจากกันด้วยความเกลียดชังเลย..โอม เพี้ยง
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : O-HO - [ 6 ก.ย. 45 00:26:19 ]
ขอบคุณครับที่เอาใจช่วย คุณโอ้โฮเคยได้ยินคำเปรียบเปรยที่ว่า “ปลูกเรือนผิด..คิดจนเรือนทลาย” หรือเปล่าล่ะ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : ปราณ - [ 6 ก.ย. 45 04:06:42 ]
แหมใครนะที่ไปว่าคุณหมอปราณมาสายได้ บอกหน่อยได้ไหม นี่แหล่ะหนา ที่เขาว่า “รู้เขารู้เรา ชนะศึกไปกว่าครึ่ง” ที่จริงไม่ว่า “ใคร” หรือ “อะไร” ก็ล้วนเป็นปัจจัยภายนอกด้วยกันทั้งสิ้น จะแพ้ จะชนะ จะสุข จะทุกข์ อยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ใจเรา ทั้งสิ้น แต่กลไกการป้องกันตัวเองของคนเราสั่งการให้เราล้วนไม่กล้า หรือ ไม่อยากที่จะแบบรับความรับผิดชอบนั้นไว้ด้วยตัวเอง ต้องหาคนอื่นหรือสิ่งอื่นให้มารับผิดชอบแทน อย่างเพลงที่มีเนื้อร้องว่า “I can’t stop loving you” นั่นอย่างไร ถ้าจะถามว่า “why” คนร้องก็จะร้องตอบมาว่าเพราะ “I’ve made up my mind” ถามต่อไปว่า “for what” คนร้องก็จะร้องตอบมาว่า “to live in missery” เห็นไหม ตั้งใจทำตัวเองทั้งนั้น
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 6 ก.ย. 45 04:06:53 A:142.173.107.180 X: ]
หวัดดีน้องเจย์ บ้านสร้างไม่เสร็จหรอก สามเดือนจะเสร็จได้อย่างไร ตอนนั้นมันยังเด็ก ใครพูดอะไรก็เชื่อเขาไปหมด นี่ขนาดแก่จนจะเข้าโลงอยู่แล้ว ยังเชื่อเขาไปหมดเหมือนเดิม ใครว่าอะไรเชื่อหมด
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : B - [ 6 ก.ย. 45 05:09:56 A:134.173.133.227 X: ]
Take a stroll in the park on a clear and sunny afternoon. Look up in the sky and I bet you’ll see the blue, exactly the same blue of the blue suite I mentioned. For your information, Khun Pran’s lives her happy life on the other side of the coast.
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : scottie - [ 6 ก.ย. 45 08:25:02 ]
ครับ แหม ถ้าย้อนเวลาไปได้จะเลือกสร้างบ้านเองจริง ๆ แต่หลังนี้ไม่ได้สร้างเอง ใช้ซื้อเอา เลยเป็นปัญหา
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : T.time - [ 6 ก.ย. 45 08:41:15 ]
ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ บางทีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้กลับมีความหมาย เป็นพลังใจพลังกายอย่างเอนกจริง ๆ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : Licht - [ 6 ก.ย. 45 10:56:40 A:158.108.5.2 X:158.108.86.217 ]
แหม นี่ถ้าตัวเองไม่บอกเราไม่รู้จริง ๆ นะเนี่ย คิดเลยเถิดไปว่าตัวเองเป็นเจ้าของฟาร์มกุ้ง ดีนะ เรากำลังจะไปขอสมัครเป็นคนให้อาหารกุ้งในฟาร์มตัวเองอยู่พอดีเลย
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : พิจิก27 - [ 6 ก.ย. 45 13:57:41 A:203.155.70.253 X: ]
หรือครับ คนคลองตันหรือครับเนี่ย งั้นคงจำตอนน้ำท่วมปี 26 ได้นะครับ ตอนนั้นพวกที่อยู่ในถนนพัฒนาการ ต้องนั่งรถ GMC ของทหารออกมานานติดต่อกันเป็นเดือน ฉันต้องไปเช่าโรงแรมอยู่กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง ตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้วแถวนั้นแล้วครับ อพยพมาอยู่ฝั่งธนฯ กลับมาเป็นคนฝั่งธนฯได้สิบกว่าปีแล้ว แต่แม่กับน้องชายยังอยู่แถวพัฒนาการ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : P_JUNG - [ 6 ก.ย. 45 17:59:56 A:194.82.103.141 X:193.60.131.2, 193.60.131.12 ]
สวัสดีครับ เอ๋..ทำไม IP address ของคุณพีจังมีตั้งสามชุดแน่ะ กันคนแกะรอยหรือครับ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 7 ก.ย. 45 10:45:53 A:203.148.232.36 X: ]
ขอบคุณครับที่ช่วยลุ้น ที่จริงฉันเองก็เป็นพ่อลูกสองนะ ปองมีน้องอีกคนเป็นผู้ชายชื่อ “ธีร์” เป็นลูกหลงมาอย่างไรก็ไม่รู้ ห่างกันกับพี่หนึ่งรอบฯสิบสองปีพอดี
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW (Chelsey) - [ 7 ก.ย. 45 13:35:42 ]
นี่ไง น้องเจย์มือทำตัวเชื่อมขนานแท้และดั้งเดิม ตื้นตันและขอบคุณน้องเจย์จริง ๆ ที่สร้างกระทู้รวมลิ้งค์และกระทู้สมุดเยี่ยมให้ ขอบคุณอีกครั้งนะน้องนะ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : มูโจ้ - [ 7 ก.ย. 45 17:26:52 ]
แหม คุณมูโจ้ แมงฯชักเขินแล้วนะ เดี๋ยวคนเขาจะว่าเป็นคนเชียร์แขกหรอก ไม่กลัวรึ
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 11 ก.ย. 45 21:08:29 ]
ความคิดเห็นที่ 34
++คุณ :หมอ ปราณ - [ 7 ก.ย. 45 19:31:28 ]
เอ้า คุณมูโจ้ น้องบี ทราบแล้วเปลี่ยน
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : biblio - [ 8 ก.ย. 45 23:34:38 ]
ขอบคุณจริง ๆ ครับ เสียดายจริงที่ตอนนี้เครื่องมันพัง ยังดาวน์โหลดไม่ได้เลยสักเพลง ขอต๊ะไว้ก่อนนะครับ ยังไงเครื่องเสร็จเมื่อไหร่จะรีบแจ้งให้ทราบเพื่อรบกวนขอเพลงที่พลาดอีกรอบ สำหรับคุณบี๊บ ไม่เกรงใจนะครับ เกื้อกูลกันมานานแล้วนี่ครับ แล้วก็เรื่องปล่อยไก่นะ เราพวกเดียวกัน หากไก่คุณบิ๊บหมดเล้าเมื่อใด ขอยืมกันได้นะครับ ฉันมีเป็นคอกเลย ปล่อยทิ้งปล่อยขว้างได้อีกนาน
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 9 ก.ย. 45 10:02:46 ]
ขอบคุณมากครับ พากันตกระกำลำบากลำบนกันไปหมดเลย เกรงใจจริง ๆ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : มูโจ้ - [ 9 ก.ย. 45 13:19:24 ]
หัวหน้าสายลับของฉันเพิ่งวิ่งมารายงานเดี๋ยวนี้เองว่า “พี่ ๆ รู้แล้วครับ ว่านายมูโจ้เป็นใคร” ที่พักปัจจุบันอยู่อำเภอเมืองนนทบุรี บ้านเกิดอยู่แถวสี่พระยา บ้านเดิมอยู่พระโขนง..ทำงานอยู่หลังสวน มิน่า ต้องเดินทางไปต่างอำเภอทุกวัน แฮ่ม ระวังให้ดี เจอตัวเมื่อใดจะทวงค่าจ้างนักสืบ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 9 ก.ย. 45 15:05:05 A:142.173.107.180 X: ]
แหมน้องเจย์ก็ ไม่ได้ฉลองสักหน่อย มัวแต่ไปหาเลขเด็ดให้น้องไง (กระซิบ..กระซิบ) งวดนี้ให้สี่ตัวเลย 2819 หรือ 2811 100x100 ไปเลย ถ้าถูกอย่าลืมแบ่ง แต่ถ้าถูกกินไปทวงเงินคืนได้ที่คุณมูโจ้
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : stangman2@hotmail.com - [ 9 ก.ย. 45 17:40:40 A:203.107.244.17 X: ]
สวัสดีครับคุณสตังค์ฯ ไม่ว่าคุณจะตั้งใจมาหรือหลงมา ก็ขอต้อนรับนะครับ เห็นใจในความทุกข์ของคุณจริง ๆ แต่ ไม่ทราบจะปลอบว่าอย่างไรเหมือนกัน เอาเป็นว่าทั้งที่ว่าทุกข์ ที่ว่าสุข ที่ว่าบุญ ที่ว่าบาป ล้วนเป็นนามธรรม วัดปริมาณไม่ได้ จับต้องไม่ได้ แต่รู้ว่ามีอยู่ที่นั่น เผชิญหน้ากับมันอย่างมีสติดีกว่าครับ อย่ามัวไปเปรียบเทียบอยู่เลยว่าใครดีใครแย่กว่ากัน ขอเอาใจช่วยให้คุณสามารถผ่านพ้นวิบากกรรมที่ประสบอยู่ไปได้ก็แล้วกัน วันหน้าแวะมาคุยมาระบายใหม่ได้เสมอนะครับ
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : Lazy Genius - [ 9 ก.ย. 45 21:37:37 ]
wrong kratoo? มาโหวตกันไหม แมงฯว่า แกมาถูกที่แล้วนะ หรือพวกเราว่าไงกัน
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : biblio - [ 9 ก.ย. 45 22:07:50 A:203.110.64.68 X: ]
ครับ อย่าใช้ดาวน์โหลดด้วยวิธีอื่นเลยครับ คลิ๊กขวาเซฟทาเก็ตแอส ชัวร์ปึก รับรอง ไวรัสฟรี (ไม่มีไวรัส) อีกต่างหาก
__________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 10 ก.ย. 45 02:43:57 A:142.173.107.180 X: ]
เอ้า พวกที่ว่าคุณสตางค์ฯมาผิดกระทู้นำ 2 ต่อ 1
_________________________________________________________________________________________
++คุณ : APO96330 - [ 10 ก.ย. 45 08:44:02 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104 ]
Thank you and ditto..ditto
_________________________________________________________________________________________
คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 10 ก.ย. 45 11:03:20]
แหม ขึ้นชื่อว่าลูกแล้วใครบ้างที่ไม่รัก ไม่ห่วง ใครที่ยังไม่มีลูกส่วนมากจะไม่รู้ซึ้งหรอกว่าความรักของพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่เหลือคณาจริง ๆ วิธีแสดงออกซึ่งความรักนั้นต่างหาก ที่ต่างกันออกไป
_________________________________________________________________________________________
++คุณ : มุโจ้ - [ 10 ก.ย. 45 11:10:06 A:203.144.144.233 X:203.144.134.135 ]
เอ..พวกเราว่าไหม งวดนี้หาเรื่องมาบ่อยแฮะ แบบว่า back to the crime scene มาดูผลงานหรือเปล่าน้า
_________________________________________________________________________________________
++คุณ : bellissima - [ 10 ก.ย. 45 19:24:30 A:80.218.75.75 X: ]
ป๊าด..คึดว่าสิทิ่งกันซะแหล่ว คอบใจหลายหลายเด๋อ ที่ยังคึดฮอดกันยู๋
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 11 ก.ย. 45 21:15:00 ]
ความคิดเห็นที่ 35
ส่วนนี้ต่อไปนี้จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1739495/W1739495.html
ความคิดเห็นที่ 1, 11 และ 17
++คุณ : JW (Chelsey) - [ 7 ก.ย. 45 13:16:28 ]
ขอขอบคุณน้องเจย์ อีกครั้งสำหรับความปรารถนาดีที่มีให้กับพี่เสมอมา
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 2 และ 7
คุณ : GTW - [ 7 ก.ย. 45 13:23:54 A:202.133.172.37 X: ]
ขอบพระคุณคุณพี่จริง ๆ ครับที่ติดตามให้กำลังใจมาตลอดนับจากวันที่ [16 เม.ย. 45 12:04:43] คุณพี่เป็นผู้อ่านคนแรกที่เข้ามาอ่านแล้วทิ้งความเห็นไว้ว่า “อุ้มเข้ากะเอวนึกออกครับ เป็นท่ามาตรฐานในการอุ้มเด็กแบบหนึ่ง”
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 3 - 5
++คุณ : JW (Chelsey) - [ 7 ก.ย. 45 13:42:18 ]
เห็นหรือยังว่าน้องคนนี้เหนียวแน่นขนาดไหน ใครอ่านใครเขียนความเห็นเป็นคนแรกยังรู้เลย เอ้า..รางวัล ข้าวราดแกงเขียวหวานปลาทูน่า แนบด้วยไข่เจียวเหลืองกรอบ และปลาฉิ้งฉ่างอบน้ำผึ้งโรยงาขาวอีกหนึ่งกำมือ มีน้ำปลาพริกกะเหรี่ยงบีบมะนาวอยู่ข้าง ๆ ด้วย เติมเองตามใจชอบนะจ๊ะ เอ..พี่ว่าจะเจย์นะ เรามาตั้งแชร์ลูกโซ่กันดีไหม
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 6 และ 8
++คุณ : ปราณ - [ 7 ก.ย. 45 18:29:59 ]
ขอบคุณคุณหมอปราณที่หลงเชื่อน้องเจย์ ขอบคุณที่ชักชวนให้อีกหลายคนมาอ่าน ดีใจที่ “เรื่องของฉัน” กลายเป็นสื่อให้พวกเราได้มารู้จักชอบพอกันได้เป็นอย่างดีถึงเพียงนี้ ขอบคุณในปิยะวาจาและความปรารถนาดีที่มอบให้กับแมงฯเสมอมา ในส่วนของคำชมนั้นอ่านแล้วเขินจริง ๆ ครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 9
++คุณ : O-HO - [ 7 ก.ย. 45 21:09:12 ]
คุณโอ้โฮเป็นแฟนรุ่นก่อตั้งอีกคนหนึ่งที่ติดตามให้กำลังใจกันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ขอบคุณครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 10
++คุณ : สาวกห้ากระสอบ - [ 8 ก.ย. 45 00:49:53 ]
ขอบคุณครับที่ชอบ “เรื่องของฉัน” นาน ๆ เห็นชื่อสักทีก็ดีใจ ที่ยังไม่ทิ้งกัน
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 13
++คุณ : ศุปัณณัย - [ 8 ก.ย. 45 18:26:05 ]
ขอบคุณและยินดีที่ได้รู้จักครับ วันหน้าแวะมาคุยใหม่นะครับ ยินดีต้อนรับเสมอแม้ว่าที่นี่จะไม่มีน้ำเย็นเลี้ยงแต่น้ำใจนั้นมีล้นหลามเลยครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 14
++คุณ : Guiness Draft - [ 9 ก.ย. 45 00:15:03 A:172.159.242.96 X: ]
Many thanks for your comments and blessing. I’ll take every words you said as a compliment. Please do come back and make yourself at home. You’re always welcomed here.
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 15
จากคุณ : พิจิก27 - [ 9 ก.ย. 45 12:58:08 ]
ขอบคุณครับ ดีใจทุกครั้งที่แวะมาเยี่ยม
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 16 และ 19
++คุณ : มูโจ้ - [ 9 ก.ย. 45 13:05:58 ]
เพิ่งรู้จริง ๆ นะครับว่าคุณมูโจ้นี่นะ นอกจากจะรู้เรื่องเพลงดี และเขียนการ์ตูนได้ตลกมากแล้ว ยังเรียงความได้ซาบซึ้งกินใจอีกด้วย จะยอมรับหรือไม่ก็ตาม..ขอได้รับความขอบคุณด้วยความจริงใจยิ่งนะครับ ส่วนเรื่องของขวัญสำหรับน้องเจย์นั้น เมื่อกี้ได้นำแกงเขียวหวานปลาทูน่าราดข้าวสวยร้อน ๆ ไปให้ 1 ชามแล้ว ขอบคุณอีกครั้งครับที่เป็นห่วง
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 18
++คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 10 ก.ย. 45 11:15:56 ]
ขอบคุณสำหรับ GIF แสนกิ๊บเก๋ครับ ยังแฮ้ปไม่ได้ ต้องรอเครื่องซ่อมเสร็จเสียก่อน
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 20
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 11 ก.ย. 45 10:26:25 ]
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ “กินของขม..ชมเด็กสาว..เล่าความหลัง ฯลฯ” หากจะเปรียบเรียงความ “เรื่องของฉัน” เป็นภาพยนต์ ก็คงเป็นได้แค่ภาพยนต์ขาวดำ ความคิดเห็นนานาทัศนะที่ต่อท้ายเรื่องของฉันในแต่ละตอนคือสีสรร ที่เปลี่ยนภาพยนต์ขาวดำให้กลายเป็นภาพยนต์สีเทคนิค แถมด้วยเพลงประกอบอันไพเราะจากมิวสิคคอมโพสเซอร์ยี่ห้อ “บิ๊บ” ซาวนด์เอฟเฟคระบบดอลบี้สเตริโอ อีกต่างหาก
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 21
จากคุณ : หมอปราณ - [ 11 ก.ย. 45 16:49:22 ]
นะครับ ยอมรับแล้วนะครับว่าคนมีอายุสมัยก่อนเวลาเล่าอะไรให้เด็กฟังจะใช้น้ำเสียงที่เรียบเย็นเสมอ ส่วนเรื่องฝนนะ แมงฯชอบแบบที่เทลงมาโครม ๆ ที่ฝรั่งเรียก cats and dogs มากกว่าตกปรอย ๆ น่ารำคาญ สมัยโน้นหลังคาบ้านล้วนเป็นสังกะสีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว นอนสบายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกตี
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 11 ก.ย. 45 21:18:51 ]
ความคิดเห็นที่ 36
จากกระทู้ที่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1739867/W1739867.html
เสนอโดยคุณ : มูโจ้ - [ 7 ก.ย. 45 17:21:45 ]
ความคิดเห็นที่ 1 และ 4
++คุณ : GTW - [ 7 ก.ย. 45 17:47:24 A:202.133.156.245 X: ]
คุณพี่มาเป็นคนแรกอีกเช่นเคย ขอบพระคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนทบเท่าทวีคูณนะครับ ส่วนไอ้ที่คุณพี่ว่า –1 หรือ +1 น่ะ คิดว่าเขาใช้บวกอายุคนตายเพื่อซื้อหวยมิใช่หรือครับ แบบว่าถ้าคนตายเป็นผู้หญิงให้เอาอายุตั้งแล้วลบด้วย 1 ถ้าคนตายเป็นผู้ชายให้เอาอายุตั้งแล้วบวกด้วย 1
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 2 ,3 และ 7
++คุณ : ปราณ - [ 7 ก.ย. 45 18:08:38 ]
คุณหมอปราณแม้จะอยู่ไกล แต่ก็ถึงไวเสมอนะครับ ขอน้อมรับพรของคุณหมอด้วยหัวใจที่เบิกบาน ขอให้พรนั้นสนองคืนทบเท่าทวีคูณนะครับ โล่งใจจริง ๆ ครับที่คุณมูโจ้ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ แล้วก็แหมขนาดคุณศุภาแกไปต่างรัฐ คุณหมอยังใช้คำว่า “สักครู่” เห็นภาพเลยครับว่า 1) กลัวคนแย่งที่ หรือ 2) คง ไปแป๊บเดียวจริง ๆ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 5
++คุณ : reader - [ 7 ก.ย. 45 18:54:53 A:203.146.175.119 X: ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ reader เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ วันหน้าแวะมาคุยกันอีกนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 6
++คุณ : พิราบเงิน - [ 7 ก.ย. 45 19:00:18 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณพิราบเงินเป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ วันหน้าแวะมาคุยกันอีกนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 8
++คุณ : scottie - [ 7 ก.ย. 45 20:12:03 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ scottie เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 9
++คุณ : Clear Ice - [ 7 ก.ย. 45 20:26:29 ]
แหม น้องไอ้ซ์แต่กลอนก็เป็นด้วย หน้าใสสวยเอวอ่อนยอนพฤกษา อำนวยพรให้พี่แมงฯแสงเข้าตา* สุขอุรามีกำลังดังอสุรี (หมายเหตุ “แสงเข้าตา” นั้นอย่าเข้าใจว่าเป็นกลอนพาไป ตั้งใจจริงที่จะเขียนอย่างนั้น เพราะว่ากอ่านกลอนน้องไอ้ซ์แล้วตื้นตันจนน้ำตาไหลไง ไก๋ไปเป็นแสงเสิงเข้าตาไปเลย ไปมันน้ำขุ่นคลักอย่างนี้แหล่ะ
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อน้องไอ้ซ์ เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 10
++คุณ : O-HO - [ 7 ก.ย. 45 22:07:29 ]
ขอขอบคุณในพรอันประเสริฐ ให้ล้ำเลิศเปี่ยมสุขทุกสถาน แค่น้ำใจอันดีที่เนาว์นาน คุณโอ้โฮเจือจาร แสนยินดี
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 11
++คุณ : รสา รสา - [ 7 ก.ย. 45 22:15:48 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณรสา รสา เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ ดีใจครับที่ยังไม่ลืมกัน
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 12
++คุณ : โอริสา อามิ** - [ 8 ก.ย. 45 00:07:13 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นคืนสนองต่อคุณโอริสา อามิ** ทบเท่าทวีคูณนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 13
++หมูแดงจ้ะ - [ 8 ก.ย. 45 05:37:21 ]
ขอขอบคุณในพรอันประเสริฐ ที่ล้ำเลิศดีจริงทุกสิ่งสรร แถมด้วยสิ่งมีค่าเกินจำนรร คือรักนั้นที่ (หมูแดงมอบ) ให้พี่ยินดีเอย
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 14
++คุณ : JW (Chelsey) - [ 8 ก.ย. 45 05:58:57 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนกับน้องเจย์และคนซึ่งเป็นที่รักของน้องเจย์ทบเท่าทวีคูณนะน้องนะ (อธิฐานสิคะ) โอมเพี้ยง ขอให้น้องเจย์มีแต่ความสุขความเจริญไร้ซึ่งโรคาพยาธิทั้งมวลด้วยเถิด
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 15 และ 16
++คุณ : JW (Chelsey) - [ 8 ก.ย. 45 06:00:07 ]
(ตามมาด้วยของขวัญค่ะ) ขอบคุณครับ ขออนุญาตเก็บไว้โดยไม่แกะกระดาษนะ เชื่อไหม สมัยก่อนพี่ชอบเอาของขวัญที่คนให้ซ่อนไว้โดยไม่แกะกระดาษ เพราะอยากให้ “ของขวัญ” คงสภาพเป็น “ของขวัญ” อยู่นาน ๆ ไม่อยากให้มันกลายเป็นเสื้อ เป็น เน็คไท หรือเป็นอะไร ๆ เมื่อแกะกระดาษ ปรากฏว่าวันหนึ่งตุ่มไปเจอขุมสมบัติเข้าโดยบังเอิญ แม่แกะเสียเรียบเลย ของขวัญที่พี่อุตส่าห์เก็บสะสมไว้ตั้งนานเลยกลายเป็นอะไร อะไร ไปหมด มีอยู่กล่องหนึ่งเป็นขนม รางี้ขึ้นเพียบเลย เรื่องวัฒนะธรรมการให้และรับของขวัญระหว่างไทยกับฝรั่งนี่คนละเรื่องเลยนะ ของฝรั่งพอให้ปุ๊บต้องรีบแกะปั๊บ แล้วต้องรีบร้องวิ๊ดว้ายกระตู้วู้ทำเป็นถูกอกถูกใจ ของไทยคนละเรื่องเลย ได้ปุ๊บเก็บปั๊บ แล้วไปแอบแกะดูทีหลัง แกะตรงนั้นหาว่า งก ไม่เกรงใจคนให้ เป็นงั้นไป
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 17 และ 20
++คุณ : ปราณ - [ 8 ก.ย. 45 06:22:37 ]
ฝากขอบพระคุณคุณพี่ (แซ็กโซโฟนส่วนตัว) ด้วยครับ ว่าแต่ว่าเมื่อใดจะมีโอกาสได้ฟังจริง ๆ เสียทีล่ะครับ รูปไม่มาไม่เป็นไรครับ พอจะนึกภาพออก เดี๋ยววานคุณมูโจ้วาดให้ก็ได้ครับ เพื่อคุณหมอแล้ว คุณมูโจ้จะขัดได้อย่างไร
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 19
++คุณ : JW (Chelsey) - [ 8 ก.ย. 45 06:28:42 ]
ฮื่อ ของพวกเราก็ได้แค่นี้แหล่ะ ของคุณหมอปราณเค้าน่ะ “ของสด”
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 21
++คุณ : - นิค - - [ 8 ก.ย. 45 12:26:21 A:203.148.217.209 X: ]
ขอบคุณครับ ดีใจที่ชอบ แต่ เอ เรื่องแนวคิดที่จะเอา “เรื่องของฉัน” ไปให้เด็กอ่านนอกเวลานี่นะ ลองคุยกับคุณพี่ GTW หน่อยไม่ดีหรือครับ ต้นตำหรับทีเดียวเทียวรายนั้นนะ ตอนนี้สงสัยจะเปลี่ยนใจไปแล้ว
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 22
คุณ : ศุภา - [ 9 ก.ย. 45 04:24:14 A:24.94.208.131 X: ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณศุภาเป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 23
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 9 ก.ย. 45 10:00:51 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณอุ๊บ อิ๊บ เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 24
++คุณ : มูโจ้ - [ 9 ก.ย. 45 12:01:45 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณมูโจ้ เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ เอ..ว่าแต่ว่าหมอคนไหนครับที่ดูว่าแมงฯจะมีดวงเดินทางไกล รีบไปขอค่ายกครูคืนได้เลยครับ ตอนนี้อย่าว่าแต่จะเดินทางไกลเลยครับ เดินทางใกล้แค่ 10-20 ก้าวยังหอบแฮกแล้วเลย
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 25
คุณ : พิจิก27 - [ 9 ก.ย. 45 12:59:54 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณพิจิก27 เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
_________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 26
++คุณ : Lazy Genius - [ 9 ก.ย. 45 21:36:09 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ Lazy Genius เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 27
++คุณ : P_JUNG - [ 9 ก.ย. 45 21:41:40 A:202.133.157.216 X: ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ P_JUNG เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 28
++คุณ : kapukluk (pixp) - [ 10 ก.ย. 45 03:50:36 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณกะปุ๊กลุ๊กเป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 29
++คุณ : แพรห่ม - [ 10 ก.ย. 45 09:48:39 A:65.178.105.69 X: ]
ขอบคุณในคำนิยมและพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ แพรห่ม เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 30
++คุณ : T.time - [ 10 ก.ย. 45 10:18:34 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ T.time เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 31
++คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 10 ก.ย. 45 11:00:31 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณนิดนิดหน่อยหน่อยเป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 32
++คุณ : ดา ดา - [ 10 ก.ย. 45 17:12:59 ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ: ดา ดา เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ ขออนุญาตเอา (มีสตางค์เยอะๆ) ออกมาไว้นอกวงเล็บ แล้วเอา โรคภัยไม่มี ไปเก็บไว้ในวงเล็บแทนนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 33
คุณ : Licht (Miran) - [ 10 ก.ย. 45 18:27:09 ]
“สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่” ขอบคุณนะคะน้องลิชท์
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 34
คุณ : เพลง - [ 10 ก.ย. 45 18:41:07 A:203.113.51.103 X: ]
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อคุณ เพลง เป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็นที่ 35
++คุณ : bellissima - [ 10 ก.ย. 45 19:20:45 A:80.218.75.75 X: ]
ใจหายใจคว่ำจริง ๆ นะน้องเบลเกือบเกาะรถด่วนขบวนสุดท้ายไม่ทันแล้วนะเนี่ย ฉิวเฉียด ฉิวเฉียด
ขอบคุณในพรอันประเสริฐยิ่งครับ ขอให้พรนั้นสนองคืนต่อน้องเบลเป็นทบเท่าทวีคูณนะครับ
________________________________________________________________________________________
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 11 ก.ย. 45 21:29:57 ]
วันเสาร์, มกราคม 23, 2553
เรื่องของฉัน ตอนที่ 42
อเมริกายุติการดำเนินการทางทหารในเวียตนามใต้ลงในปี 2516 ตามสนธิสัญญาหยุดยิงที่ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้านั้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่เวียตนามเหนือสัญญาว่าจะปล่อยตัวเชลยศึกอเมริกันเป็นชุดแรก สนธิสัญญาหยุดยิงนี้เป็นสนธิสัญญาที่แปลก เพราะอเมริกาซึ่งเป็นใครที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเทศเวียตนามและน่าจะถือว่าเป็นบุคคลที่สามได้ลงนามสัญญากับเวียตนามเหนือว่าจะเลิกทะเลาะกัน อเมริกาสัญญาว่าจะเลิกทุบตีเวียตนามเหนือด้วยการเทกระจาดทิ้งระเบิดใส่เอาเหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมา ส่วนเวียตนามเหนือนั้นเล่า ก็สัญญาว่าจะปล่อยตัวนักบินอเมริกันที่ถูกจับไว้เป็นเชลยสงครามเหตุเพราะเครื่องบินที่ขับไปทิ้งระเบิดหรือไปแอบดูกิจกรรมต่าง ๆ ในเวียตนามเหนือถูกยิงตกลงในเขตประเทศเวียตนามเหนือ นักบินเหล่านี้ต่างก็สาบแช่งตัวเองที่มัวแต่ตกใจว่าเครื่องบินโดนยิงเลยดึงคันโยกดีดตัวเองออกจากเครื่อง ไม่ยอมตกตายไปพร้อมกับเครื่องบินซึ่งดูแล้วจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก เพราะเมื่อร่มพยุงชีพพาตัวนักบินเดนตายเหล่านี้ร่อนลงถึงพื้นก็ต่างต้องเผชิญกับชะตากรรมซึ่งทุกคนล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า “หากตายเสียก่อนก็จะดีกว่ามาก”
ทั้งอเมริกาและเวียตนามเหนือต่างตั้งใจว่าจะลงนามในสัญญากันสองฝ่ายแต่พลันก็คงเห็นเวียตนามใต้นั่งทำตาปริบ ๆ อยู่ตรงนั้นด้วย ก็เลยเรียกมาลงนามร่วมเสียอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อมิให้เกิดอาการขวยเขินแล้วเปลี่ยนชื่อสนธิสัญญานั้นเป็นสนธิสัญญาสามฝ่าย
ดังนั้น เมื่ออเมริกาหยุดยิงและเวียตนามเหนือปล่อยตัวนักบินเชลยบางส่วนกลับมาแล้ว เวียตนามเหนือโดยกองกำลังเวียตกง ก็ยังคงรุกรานเวียตนามใต้อยู่อย่างต่อเนื่องโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะรวมสองเวียตนามเข้าเป็นประเทศสังคมนิยมเดียวกัน เพราะถือว่าตนสัญญาว่าจะหยุดยิงกับอเมริกา มิได้สัญญากับเวียตนามใต้ ครั้นอเมริกาจะขนทหารกลับเข้ามาใหม่ก็ใช่ที่ ก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องให้การสนับสนุนเป็นเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่รัฐบาลเวียตนามใต้ให้ทำสงครามกับพวกเวียตกงอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่เงินช่วยเหลือนี้ก็กลับถูกยักยอกโดยผู้มีอำนาจในเกือบทุกระดับชั้นอย่างเอิกเกริกไร้ยางอาย ผู้ที่มีอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนั้นล้วนมีชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้ออย่างสุดขีด ผู้ใดก็ตามที่มีโอกาสต่างพากันคิดยักย้ายถ่ายเทเอาของหลวงมาเป็นประโยชน์แห่งตนกันทั้งสิ้น ในขณะที่ทหารชั้นผู้น้อยก็หมดกำลังใจมิได้คิดที่จะสู้รบกับพวกเวียตกงเพราะทุกคนหากเปรียบเป็นเด็กก็เหมือนกับเด็กที่ถูกเอาใจเสียจนเคยอีกทั้งยังมั่นใจว่าหากเหตุการณ์คับขึ้นขึ้นเมื่อใดลูกพี่เก่าก็จะเข้ามาช่วยแก้ไขสถานะการณ์ให้อย่างแน่นอน
จวบจนถึงปี 2518 ก่อนที่ปองจะเกิดได้เพียงเดือนเดียว ไซ่ง่อนเมืองหลวงของเวียตนามใต้ในสมัยนั้นก็แตกลง พวกเวียตกงบุกเข้ายึดควบคุมเมืองไว้ได้ทั้งหมด ฆ่าทหารเวียตนามใต้และข้าราชการที่หนีไม่ทันเสียมากมาย ในช่วงสองถึงสามวันก่อนที่กรุงไซง่อนจะแตก สนามบินตันซอนุทถูกปิด สายการบินทุกสายยกเลิกการบินเนื่องจากสนามบินแห่งนั้นถูกเวียตกงยิงถล่มอย่างหนักติดต่อกันมาหลายวัน สถานทูตอเมริกันจึงเป็นเสมือนหนึ่งประตูสู่อิสระภาพเพียงประตูเดียวที่เหลืออยู่ซึ่งก็แน่นอนที่สุดกลายเป็นสถานที่ซึ่งชุลมุนมาก เพราะนอกจากฝรั่งอเมริกันที่ตกค้างอยู่ในเวียตนามใต้ทุกคน พวกที่เป็นเมียหรือญาติพี่น้องข้างเมียของทหารในคราบพลเรือนอเมริกันรวมตลอดไปจนถึงพลเรือนชาวเวียตนามใต้ที่ทำงานหรือเคยทำงานให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ของอเมริกัน ทั้งที่มีชื่อและไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิในการอพยพออกนอกประเทศต่างก็หอบผ้าหอบผ่อนหอบลูกจูงหลานมาออกันเพื่อยื้อแย่งปีนป่ายเข้าไปในบริเวณสถานทูต คนพวกนี้ไม่มีทางเลือกอื่นในชีวิตเหลืออยู่อีกนอกจากจะต้องออกจากประเทศไปให้ได้ไม่ว่าโดยวิถีทางใดก็ตามเพราะเวียตกงได้ประกาศล่วงหน้ามานานแล้วว่าคือคนที่ทรยศต่อประเทศชาติ คือคนที่ทรยศต่ออุดมการของโฮจินมินห์ ฉะนั้น โอกาสที่จะมีชีวิตรอดหลังจากเวียตกงเข้าเมืองได้จึงไม่มีเหลืออยู่เลย
ภาพของสงครามไม่ว่าจะมองในแง่มุมไหนก็ล้วนโหดร้ายและบีบคั้นจิตใจอย่างรุนแรงไปทั้งสิ้นภาพนายทหารเวียตนามใต้ที่ใช้ปืนพกจ่อยิงไปที่หัวของชายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเวียตกงกลางตลาดสดซึ่งที่ชุมนุมชนโดยไม่มีการสอบสวน ภาพของเด็กหญิงที่เดินร้องไห้ไปตามถนนด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าถูกไฟจากระเบิดนาปาล์มเผาไหม้ไปจนหมดสิ้น ภาพของกลุ่มทหารอเมริกันรุ่นสุดท้ายที่ตกเป็นทาสของกัญชายาเสพติดอย่างรุนแรงใส่เครื่องแบบที่ถูกดัดแปลงเสียจนเกือบจะดูไม่ออกว่าเป็นเครื่องแบบของทหาร ภาพของผู้ชายผู้หญิงทั้งที่เป็นคนแก่หนุ่มสาวรวมไปถึงเด็ก ๆ แห่งหมู่บ้านไมไลกว่าสามร้อยคนที่ถูกทหารอเมริกันฆ่าตายเพราะสงสัยว่าเป็นพวกเวียตกง ภาพของบ้านเมืองที่ลุกเป็นไฟผู้คนที่ออกวิ่งกระเซอะกระเซิงไปในสถานที่ต่าง ๆ บ้างก็ฉวยโอกาสออกปล้นฆ่าข่มขืนคนชาติเดียวกันเองในนสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดไร้ขื่อไร้แป ภาพของผู้คนที่หอบผ้าหอบผ่อนหอบลูกจูงหลานพากันไปอออยู่หน้ารั้วสถานทูตอเมริกันในกรุงไซ่งอน ภาพของผู้คนที่แย่งกันปีนป่ายเพื่อที่จะเข้าไปในบริเวณสถานทูตให้ได้ในขณะที่เครื่องช้อบเปอร์บินว่อนรับผู้คนจากหลังคาสถานทูตไปส่งลงยังเรือบันทุกเครื่องบินหลายลำที่จอดรออยู่ในอ่าวตั้งเกี๋ย เป็นอะไรที่เห็นเมื่อใดก็ให้หดหู่หัวใจนัก
ก่อนหน้านั้นสักสามปีถ้ามีใครมาพูดขึ้นว่าว่าไซ่ง่อนจะแตกให้กับเวียตกง คนฟังก็จะพากันหัวเราะกันครื้นเครงด้วยคิดว่าเป็นเรื่องตลกอย่างแน่แท้ ไม่มีทางที่ใครจะปักใจเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงได้เป็นอันขาด
หากจะมองสงครามเวียตนามในภาพรวม อเมริกาได้ถูกสังคมโลกตราหน้าว่าเป็นผู้แพ้เมื่อยินยอมลงนามในสนธิสัญญาหยุดยิงและถอนทหารออกจากเวียตนามเพียงเพื่อแลกกับการที่เวียตนามเหนือยินยอมที่จะปลดปล่อยเชลยสงครามหลังจากที่ยึกยักตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ เสียจนมากมาย การแพ้ในครั้งนั้นเป็นการแพ้ให้กับ “มวยคนละรุ่น” แต่นั่นเป็นภาพที่คนจำติดตา เป็นภาพของคนที่มองเรื่องนี้อย่างผิวเผิน ทั้งที่เป็นอเมริกันเองและที่เป็นคนชาติอื่น โจทย์ในเรื่องนี้ที่ยังไม่มีคำตอบคือ อเมริกาแพ้จริงหรือ
มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มเข้าไปมีบทบาททางการทหารในประเทศเวียตนามมาตั้งแต่ปี 2493 เมื่อประธานาธิบดีทรูแมนตัดสินใจส่งผู้เชี่ยวชาญทางทหารรวม 35 นายเข้าไปช่วยฝรั่งเศสอำนวยการรบในสงครามเดียนเบียนฟูเพื่อผดุงรักษาสภาพของประเทศที่เป็นอนานิคมไว้ จึงกล่าวได้ว่าโดยรวมแล้วอเมริกาเข้ามามีบทบาททางการทหารทั้งในทางตรงและทางอ้อมเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ แม้ว่าอเมริกาจะเสียทหารถึงห้าหมื่นกว่าคนในสงครามเวียตนามซึ่งคนฟังอาจตกใจเห็นว่าคนตายเยอะนัก แต่หากจะเทียบกับจำนวนผู้คนที่เสียชีวิตในสงครามนี้ทั้งหมดซึ่งประมาณกันว่าเป็นจำนวนมากกว่าสองล้านคน หรือจะเทียบกับจำนวนทหารอเมริกันที่เข้าไปปฏิบัติการรบในเวียตนามกว่าห้าแสนคน เทียบกับคนอเมริกันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายที่ต้องตายไปด้วยโรคหัวใจซึ่งมีจำนวนถึงกว่าเจ็ดแสนคนต่อปี เทียบกับที่คนอเมริกันฆ่ากันเองตายไปกว่าหกแสนสองหมื่นคนในสงครามกลางเมืองที่อเมริกันฝ่ายเหนือรบกับฝ่ายใต้เพียงเพราะความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องทาสนิโกร หรือจะเทียบกับคนยิวที่ถูกเยอรมันฆ่าในสงครามโลกครั้งที่สองกว่าหกล้านคนแล้ว ก็จะเห็นได้โดยง่ายว่าอเมริกาเสียทหารในสงครามเวียตนามน้อยมาก
แต่เมื่อย้อนมาคำนึงถึงแสนยานุภาพทางทหารและเทคโนโลยี่ที่อเมริกามีอยู่ในมือในขณะนั้นจะยังจะมีใครเชื่ออยู่อีกหรือว่าอเมริกันแพ้สงครามเวียตนาม หากอเมริกาตั้งใจจะรบกับเวียตกงในสงครามเวียตนามอย่างเต็มกำลังเพื่อมุ่งเอาชนะคะคานกันจริง ๆ แล้วเวียตกงจะไปมีอะไรเหลือ
อเมริกามิได้ใช้หรือตั้งใจที่จะใช้ยุทธการเชิงรุกในสงครามเวียตนามนอกจากการทิ้งระเบิดถล่มจุดยุทธศาสตร์ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นที่เปิดเผยในเวียตนามเหนืออย่างหนักและการที่ประธานาธิบดีจอห์นสันออกมาพูดอยู่เนือง ๆ ว่าอเมริกาจะไม่จำกัดขีดความสามารถในการใช้อาวุธปรมณูไว้เมื่อถึงคราวที่จำเป็นแล้ว กองกำลังภาคพื้นดินของอเมริกาไม่เคยรุกเข้าไปรบเพื่อยึดครองพื้นที่ในเขตประเทศเวียตนามเหนือเลย ทหารราบอเมริกันได้รับคำสั่งให้ทำการรบเพื่อต่อต้านการแทรกแซงของกองกำลังเวียตกงในพื้นที่ประเทศเวียตนามใต้เท่านั้น และในช่วงท้าย ๆ ของสงครามเมื่อทหารเวียตกงเลี่ยงไปใช้เส้นทางในเขมรและลาวเพื่อรุกรานเวียตนามใต้ อเมริกาก็เลือกที่จะจ้างทหารรับจ้างจากไทยเข้าไปรุกรบเพื่อยับยั้งการแซกแซงและทำลายเส้นทางลำเลียงนั้นลงเสียเท่านั้น
(โปรดอ่านต่อไปได้อีกนิดที่ความคิดเห็นที่ 1)
จากคุณ : แมงกระพรุน - [ 30 ส.ค. 45 02:38:55 A:203.149.40.15 X: ]
ความคิดเห็นที่ 1
หากจะเปรียบสงครามเวียตนามกับขั้นตอนของสงครามในสมัยโบราณแล้วก็น่าจะตรงกันขั้นตอนขี่ม้าท้าทายถามชื่อแซ่รำทวนท้าทายข้าศึกที่หน้าค่ายของตัวเอง เดชะบุญที่คู่ต่อสู้ในสงครามเย็นมิได้รับคำท้า สงครามร้อนหรือสงครามจริง ๆ จึงยังมิได้เกิด เป้าหมายที่แท้จริงของอเมริกาน่าจะเป็นโซเวียตหาใช่เวียตกงหรือเวียตนามเหนือไม่ อเมริกาหรือจะให้เฉพาะเจาะจงลงไปก็คงต้องใช้คำว่าซีไอเอเห็นว่าหากโซเวียตทนเห็นลูกน้องของตัวเองโดนรังแกมาก ๆ ไม่ไหวก็ต้องกระโดดลงมาเล่นเองในสงครามที่ต่างฝ่ายต่างกำหนดขอบเขตได้เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีหุ่นเชิดของตัวเองคนละตัว และรบกันในสังเวียนที่ใกล้จากบ้านของทั้งสองฝ่ายจึงเป็นที่แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถควบคุมมิให้สงครามนั้นขยายของเขตออกไปได้โดยง่าย
หากการณ์เป็นไปเช่นนั้นอเมริกาก็จะสามารถใช้สมรภูมิเวียตนามเป็นสนามทดสอบศักยภาพของอาวุธของตัวกับของคู่แข่งตลอดกาลอย่างโซเวียตได้ในสนามรบที่ห่างจากบ้านตัวเองกว่าครึ่งโลก นอกจากนั้นยังสามารถใช้สมรภูมิเวียตนามเป็น “งานแสดงสินค้า” ให้กับลูกค้าที่สนใจจะซื้อหาอาวุธได้ชมประสิทธิภาพของอาวุทยุธโทปกรณ์ต่าง ๆ ในสนามรบจริงได้อีกด้วย แต่งานนี้อเมริกันคาดผิดที่โซเวียตไม่ยอมเล่นด้วย อาจเป็นเพราะโซเวียตได้ประเมินแล้วเห็นว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ของตนยังห่างชั้นกับของอเมริกันมาก อย่างมากที่ทำจึงเป็นเพียงแค่โยนเศษเงินกับอาวุธที่ใกล้จะปลดระวางให้กับเวียตนามเหนือเท่านั้น ถึงกระนั้นก็ตามหากจะลองคิดดูกันเล่น ๆ ว่าอเมริกันสามารถใช้สมรภูมิเวียตนามทดสอบศักยภาพของอาวุธประเภทต่าง ๆ แต่เพียงฝ่ายเดียวได้ประโยชน์มหาศาลเพียงใด มีใครรู้หรือไม่ว่าอเมริกาขายอาวุธและเทคโนโลยี่ทางการสงครามที่พัฒนาขึ้นจากสงครามเวียตนามให้กับประเทศด้อยพัฒนาต่าง ๆ ได้เป็นมูลค่ามหาศาลขนาดไหน
เมื่ออเมริกาเริ่มที่จะหมดความอดทนและความสนใจในเวียตนาม ก็หันไปหาของเล่นใหม่ในตะวันออกกลาง พอดีกับจังหวะที่ยิวและอาหรับเริ่มหงุดหงิดใส่กันจนมองหน้ากันไม่ติด อเมริกาก็เลยได้จังหวะลงจากหลังเสือโดยอาศัยสนธิสัญญาหยุดยิงที่ลงนามกันที่กรุงปารีสหลังการเจรจาสันติภาพที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์โลก ถอนทหารออกไปจากประเทศเวียตนาม ปล่อยให้เวียตนามใต้เผชิญชะตากรรมต่อไปแต่เพียงโดดเดี่ยวลำพัง เหมือนกับเด็กที่เบื่อโยนของเล่นชิ้นเก่าที่เล่นมานานทิ้งแล้วผละไปหาของเล่นชิ้นใหม่ กองกำลังเวียตนามเหนือซึ่งประกอบด้วยผู้คนที่เกิดเป็นคนและมีชีวิตอยู่ท่ามกลางสงครามตลอดมาต่างรบด้วยชีวิตจิตใจ รบเพื่อสนองปณิธานอันแรงกล้าที่จะรวมชาติเวียตนามเข้าด้วยกัน ก็ใช้เวลาไม่ถึงสองปีดีหลังจากที่อเมริกาถอนกำลังส่วนใหญ่ออกไป บดขยี้ไล่รบเสียจนพวกเวียตนามใต้แพ้เละเทะไม่เป็นขบวนและยึดครองเวียตนามได้หมดทั้งประเทศในที่สุดดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในส่วนของกองกำลังสนับสนุนการรบในประเทศไทย เมื่อไม่มีการรบในเวียตนามอีกต่อไปแล้ว ความจำเป็นที่จะคงฐานทัพเหล่านั้นไว้ก็มีน้อยลง จริงอยู่ที่ก่อนหน้านั้น อเมริกาต้องการมีฐานทัพในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อคานอำนาจจ้องหน้าคุมเชิงกับโซเวียตและจีน แต่ความจำเป็นนั้นก็หมดไปเมื่อขีดความสามารถในการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ได้รับการพัฒนาขึ้นในระดับที่อเมริกาสามารถเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์มีน้ำหนักรวมกันกว่าหนึ่งร้อยตันในรัศมีกว่าเจ็ดพันกิโลเมตรได้โดยใช้เครื่องบินขนส่งกาแล๊กซี่เพียงลำเดียว ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ในขณะนั้นอเมริกามีฐานทัพใหญ่อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์และเกาะโอกินาวาไม่นับรวมถึงฐานทัพอากาศบนเกาะกวมซึ่งล้วนสามารถใช้เป็นฐานส่งกำลังบำรุงหากเกิดสงครามที่อเมริกาต้องการเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียขึ้นในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้โดยง่าย
ในประเทศไทยชมรมนิสิตนักศึกษาในขณะนั้นก็เริ่มพุ่งเป้าหมายการประท้วงรายวันมาเน้นย้ำให้ทหารอเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากประเทศไทยโดยเร็ว เรื่องเลยเข้าล๊อกกลายเป็นว่าพลังนิสิตนักศึกษาและรัฐบาลที่กำลังต้องการเอาใจนิสิตนักศึกษาในสมัยนั้นเป็นพิเศษประสบกับความสำเร็จอย่างงดงามในการเจรจากดดันจนอเมริกาต้องยินยอมถอนฐานทัพออกไปจากประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงอเมริกาก็ประสงค์ที่จะทำเช่นนั้นอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ผลกระทบจากการนี้ก็คือรัฐบาลและกองทัพต้องจำใจปล่อยให้เงินช่วยเหลือจำนวนมหาศาลที่เคยได้รับจากอเมริกาเป็นการแลกเปลี่ยนกับการยินยอมให้อเมริกาใช้ฐานทัพในประเทศไทยในขณะนั้นมลายหายวับไปกับตา
อเมริกาเริ่มทะยอยปิดฐานทัพในประเทศไทยและลดกำลังทหารประจำการลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา แรก ๆ ก็ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจนนักเพราะทหารที่เหลืออยู่ยังมีอีกมาก ต่อมา ผลกระทบทางด้านจุลภาคก็เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมเด่นชัดขึ้นเมื่อจำนวนทหารเริ่มลดน้อยลงจนคนไทยที่เคยทำมาหากินกับอเมริกันอย่างคล่องคอเริ่มมีอาการติดขัดในลำคอกันเป็นทิวแถว คนที่ทำงานเป็นลูกจ้างพนักงานธนาคารเชสเอมเอฟเอฟก็เช่นกัน ก่อนหน้านั้นได้มีการเจรจากันอย่างลับ ๆ ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของเชสเอมเอฟเอฟกับธนาคารเชสแมนแฮตตั้นซึ่งประกอบกิจการเป็นธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศอยู่ในกรุงเทพฯที่เรียกกันว่าคอมเมิชช่วลบร้านซ์ในอันที่จะขอให้คอมเมิชช่วลบร้านซ์รับโอนพนักงานของเชสเอมเอฟเอฟบางส่วนไปเมื่อเชสเอมเอฟเอฟต้องปิดตัวลงซึ่งได้ส่งผลให้พนักงานของเชสเอมเอฟเอฟได้รับโอนไปทำงานต่อเนื่องยังคอมเมิชช่วลบร้านซ์หลายรุ่น ทั้งหมดเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่เซนทรัลแอดมินนิสเตรชั่นอ๊อฟฟิสในกรุงเทพ พนักงานที่ทำงานอยู่ตามสาขาต่างจังหวัดซึ่งก็รวมทั้งตัวฉันด้วยไม่มีใครได้รับการโอนย้ายไปด้วยเลย
ถึงแม้จะได้ข่าวและพอจะวิเคราะห์ออกว่าตัวเองอาจไม่ได้รับโอกาสที่จะถูกโอนไปทำงานที่คอมเมิชช่วลบร้านซ์ซึ่งหมายความว่าฉันอาจจะถูกลอยแพหลังจากฐานทัพที่อุดรปิดตัวเองลงก็ตาม แต่ในขณะนั้นฉันก็มิได้กังวลเดือดร้อน ยังคงก้มหน้าทำงานในความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังความสามารถไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในช่วงปลายปี 2518 ขณะที่ปองเกิดมาได้เพียง 6 เดือนก็มีข่าวว่าเชสจะปิดสาขาที่อุดร พนักงานที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็เริ่มร้อนตัวหาลู่ทางที่จะขยับขยาย ฉันก็เริ่มพูดคุยหารือกับผู้เกี่ยวข้องที่กรุงเทพมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของฉันในเชส คำตอบแรก ๆ ที่ได้รับคือทางคอมเมิชช่วลบร้านซ์เริ่มมีข้อจำกัดในเรื่องกำลังคนได้ขอระงับโครงการรับโอนพนักงานจากเอมเอฟเอฟไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจึงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งหมายความว่าให้ฉันรอไปก่อน ระหว่างที่รอก็ให้ช่วยเคลียเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้การปิดสาขาอุดรทำได้โดยราบรื่น พวกฝรั่งพูดในทำนองขออย่าให้ฉันวิตกเพราะยังมีงานให้ทำไปอีกนานแม้ว่าสาขาธนาคารที่อุดรจะปิดไปแล้วก็ตาม
ในช่วงนั้นมีฝรั่งคนหนึ่งชื่อ จอห์น ดีซีโก้ ถูกโอนย้ายจากเวียตนามมารับงานด้านเอดมินิสเตรชั่นในอันที่จะทยอยยกเลิกธุรกรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ของธนาคารอยู่ที่กรุงเทพฯ จอห์น ดีซีโก้คนนี้ไงที่เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นครูภาษาอังกฤษคนที่สองของฉันรองจาก มร. บราเวนเดอร์ จอห์นกับฉันมีโอกาสได้พูดคุยและทำงานร่วมกันแล้วเกิดถูกอัธยาศัยคบกันเป็นเพื่อนจนสนิทกันมากถึงขั้นที่ฉันจะไปกินไปนอนที่บ้านพักของจอห์นที่ซอยร่วมฤดีทุกครั้งที่ฉันลงมาติดต่องานในกรุงเทพบ่อยขึ้นในระยะหลัง และก็เป็นจอห์นผู้นี้นี่เอง ที่แนะให้ฉันใช้นโยบายเชิงรุกหากต้องการที่จะทำงานกับเชสต่อไป
จอห์นสอนให้ฉันเขียนเรซูเมหรือประวัติส่วนตัวแบบมืออาชีพแทนที่จะเป็นเรซูเมแบบเด็ก ๆ ที่เคยใช้ประกอบจดหมายสมัครงานตอนเรียนจบใหม่ ๆ จอห์นแนะให้ฉันส่งเรซูเมที่ช่วยกันเขียนขึ้นนั้นพร้อมกับจดหมายสมัครงานตรงไปที่คอมเมิชช่วลบร้านซ์เลย อย่ารอ ฉันก็ทำตามคำแนะนำนั้น และเชื่อหรือไม่ คนที่เปิดซองจดหมายสมัครงานของฉันคือคุณเพ็ญศรีซึ่งได้รับการโอนย้ายไปรับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการแผนกงานบุคคลอยู่ที่คอมเมิชช่วลบร้านซ์เป็นรุ่นแรก คุณเพ็ญศรีคนเดียวกันกับคนที่เปิดซองจดหมายสมัครงานของฉันเมื่อหกปีก่อนนั้นนั่นแหล่ะ น่าแปลกไหม
จากคุณ : แมงฯ - [ 30 ส.ค. 45 02:44:52 A:203.149.40.15 X: ]
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน “เรื่องของฉัน” ตอนเก่า ๆ ก็โปรดไปที่นี่ "เรื่องของฉันตอนที่ 41" ซึ่งจะมีบัญชีลายแทงตัวเชื่อมพาท่านไปยัง “เรื่องของฉัน” ตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนที่ 1 – 40 ได้ในลัดนิ้วมือเดียว ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 30 ส.ค. 45 02:49:47 ]
ความคิดเห็นที่ 3
Sawasdee kha...Just finish the lab.. K.แมงกระพรุน kha.. I can't read your Karaoke language.. :-( Could you please translate your Karaoke language (in previous chapter) to me.. O-dai-ji-ni
จากคุณ : guest - [ 30 ส.ค. 45 03:32:15 A:133.68.126.131 X: ]
ความคิดเห็นที่ 4
Sometimes ordinary people's life is a memory of history.. I remember, when I was a pupil, one day our teacher told us that, Loas had changed her name... Combodia and Vietnam as well.. I was too young to understand anything. Then, some year later, our teacher had to response to policy from Ministry of Education (I mean Kra-suang-suek-sa).. she had to tell us to be aware of communist.. though we all didn't know exactly what it is..
จากคุณ : guest (again kha) - [ 30 ส.ค. 45 03:47:08 A:133.68.126.131 X: ]
ความคิดเห็นที่ 5
โอย....ตอนนี้หนักจัง ปวดหมอง ๆ แต่เชื่อว่าฝีมืออย่างพี่แมงฯต้องได้งานที่เชส กทม.แน่นอนเลย คนอะไรมากับดวงแท้ๆ
จากคุณ : JW - [ 30 ส.ค. 45 05:10:07 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นตอนที่บรรยายและวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดีมากครับ ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่ย่อยยับจากสงครามเมื่อไม่ถึงสามสิบปีมานี้จะพัฒนาอะไรๆได้เร็ว แถมบางอย่างอย่างแซงหน้า ประเทศไทยไปได้เสียอีก น่าแปลกครับ เหตุการณ์อย่างเดิมมาเกิดซ้ำอีก เป็นความบังเอิญที่น่าแปลก จะเรียกว่าดวงสมพงษ์กันได้ไหมนี่
จากคุณ : GTW - [ 30 ส.ค. 45 05:11:16 A:202.133.172.21 X: ]
ความคิดเห็นที่ 7
เหมือนในหนังเลยครับ อิจฉา"พี่แมงฯ"จังเลยชีวิตมีรสชาดดีจัง ตอนนั้นของผมก็ประมาณ 8 ขวบ เคยแต่อยู่ในเหตุการณ์ก่อน"เวียง(จันทร์)แตก"เท่านั้นเอง แต่ก็จำอะไรไม่ค่อยได้แล้วล่ะครับ รออ่าน "เรื่องของฉัน 43" นะครับ
จากคุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 30 ส.ค. 45 09:40:02 ]
ความคิดเห็นที่ 8
เอาใจช่วยพี่แมงกระพรุนอยู่นะคะ...แหม..ตอนนี้หนักขะหมองน่าดูเลยแหละ
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 30 ส.ค. 45 10:26:55 ]
ความคิดเห็นที่ 9
อื้อฮือ...ตอนนี้เล่นหนักจังนะพี่แมงฯ
จากคุณ : พิจิก27 - [ 30 ส.ค. 45 10:44:28 ]
ความคิดเห็นที่ 10
สนุกและมีสาระดีครับตอนนี้ การเล่าถึงชีวประวัติส่วนตัว ควรอ้างอิงถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ของชาติและของโลกในช่วงเวลานั้นๆด้วย ถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ไปในตัว พี่แมงฯ ทำได้ดีแล้วครับ ฟังถึงความวุ่นวายของฝูงชนที่บุกสถานฑูตอเมริกาแล้วนึกถึงภาพจากหนังเรื่อง The Killing Field และ The Deer Hunter ที่มาถ่ายทำในไทย จำได้ว่าเพลงธีมของ เดียร์ ฮันเตอร์ที่เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์คลาสสิค ไพเราะมาก ต้องขอโทษครับที่จำชื่อเพลงและคนเล่น คนแต่งไม่ได้ คงต้องรบกวนคุณ bib ช่วยจัดการอีกตามเคยละครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 30 ส.ค. 45 14:34:16 ]
ความคิดเห็นที่ 11
ใบปิดครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 30 ส.ค. 45 14:36:05 ]
ความคิดเห็นที่ 12
มาอ่านแล้วค่ะ (ตอนนี้ต้องเพิ่มสมาธิอีกหลายส่วน...แหะๆ)
จากคุณ : โคอาร่า - [ 30 ส.ค. 45 15:23:49 A:203.156.20.85 X: ]
ความคิดเห็นที่ 13
อ่านเรื่องเกี่ยวกับสงครามครั้งใด หดหู่ใจทุกที รออ่านตอนต่อไปนะคะ คงจะเป็นข่าวดีๆ แน่ๆ เลย
@ ^_^ @
จากคุณ : - โอ้โฮ - - [ 30 ส.ค. 45 16:15:14 ]
ความคิดเห็นที่ 14
วันนี้มาแบบ Good Morning Vietnam!!! เลยนะพี่ ว่าไปแล้ว ประเทศเวียตนาม ไม่ใช่สิ คนเวียตนามเป็นชนชาติที่น่าทึ่งทีเดียว ถ้าเพียงแต่ประเทศไม่มัวทะเลาะกับชาวบ้าน(หรือทะเลาะกันเองแต่ให้ชาวบ้านหนุนหลัง) ก็คงเป็นประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทย (ตอนนี้การท่องเที่ยวเวียตนาม เริ่มบูมมากขึ้นเรื่อยๆ ไทยเราต้องระวังให้ดี)
อะฮ่า พี่แมงฯ วนกลับมาเจอกามเทพคนเก่าของพี่อีกแล้ว เจอคุณเพ็ญศรีทีไรได้ลาภทุกที อยากรู้คราวนี้จะเกิดอะไรขึ้น
จากคุณ : bellissima - [ 30 ส.ค. 45 20:03:57 A:217.162.156.130 X: ]
ความคิดเห็นที่ 15
อ่านตอนนี้แล้วได้ความรู้เกี่ยวกับสงครามเวียดนามในอีกแง่มุมหนึ่งไปอีกหลายส่วน อืม...ถ้ามองในแง่นี้แล้ว อเมริกาไม่ได้เสียอะไรเท่าไหร่เลยเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ โฮะ ๆ เพิ่งสังเกตว่า ไอซ์เกิดปีเดียวกับปอง ลูกพี่แมงฯเลยค่ะ เอิ๊กส์
จากคุณ : Clear Ice - [ 30 ส.ค. 45 22:02:50 ]
ความคิดเห็นที่ 16
เดาว่าได้งานแน่ๆ เลย :) เรื่องสงคราวเวียดนาม ขอสารภาพว่ารู้สึกเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด คนอเมริกันรู้สึกกับเรื่องนี้มากกว่าสงครามโลกอีก
จากคุณ : scottie - [ 30 ส.ค. 45 23:12:39 ]
ความคิดเห็นที่ 17
มาช้าหน่อยค่ะ งวดนี้ มัวแต่ไปตามเก็บเซลล์สมองที่ตกๆหล่นๆ มาประกอบการอ่านตอนนี้ คุณแมงฯเขียนสนุกกว่าหนังสือประวัติศาสตร์แต่ได้ ความครบดีจังค่ะ คุณแมงฯกับคุณเพ็ญศรีเรียกว่ามีกรรมสัมพันธ์ กันมาไงคะ กรรมดี..จึงมาเกื้อกูลกัน ทักทายน้องๆแฟนคลับทุกคนค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [ 31 ส.ค. 45 02:46:14 ]
ความคิดเห็นที่ 18
มาอ่านด้วยตวามกระหายค่ะ อ่านแล้ว เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงทั้งทางสังคมโลกและสังคมไทยในช่วงนั้นเลย คุณแมงเป็นนักเล่าเรื่อง (จริง) ที่น่าติดตามมาก อิจฉาชีวิตของพี่กับพี่ตุ่มที่ได้เจอเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงนั้นด้วยตนเอง ได้สู้ ดิ้นรนและหาทางออกจนอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ นี่...ถ้าน้องปองเค้ามีเวลาเข้ามาอ่าน เค้าคงจะภูมิใจในตัว "ป๋ากับแม่" มากๆ เลย ปล. ยังรออ่าน ตอนที่ 43 อยู่นะคะ
จากคุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 31 ส.ค. 45 11:01:17 A:203.148.232.36 X: ]
ความคิดเห็นที่ 19
ตอนที่แล้วไม่ได้มาคุย แต่ก็ตามอ่านตั้งแต่วันแรกที่ลงนะคะ ขอทักทายเพื่อนนักอ่านทุกท่านคะ สบายกันดีนะคะ อ่านตอนนี้แล้ว ใจมันร้อนรุ่มอยากอ่านต่อตอนที่ ๔๓ รู้ทั้งรู้แหละค่ะว่าพี่แมงฯ ได้งานทำแน่ๆ แต่ที่อยากรู้มากกว่านั้นคือเหตุการณ์หลังจากที่คุณเพ็ญศรีเปิดซองจดหมายไปจนถึงการตกลงกันน่ะค่ะ คิดว่าต้องมีอะไรสำคัญเป็นจุดพลิกผันตรงนี้แน่ๆ
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [ 31 ส.ค. 45 12:50:19 ]
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนนี้เครียดจัง เราก็เครียดเพิ่งกลับจากไป trip ลุยปลาหยก ๆ เมื่อกี้เพื่อนที่อยู่กลุ่มเลี้ยงกุ้งเดียวกันเพิ่งโทรมาบอกว่า เจ้ากุ้งน้อยเป็นโรคเรืองแสงอ่ะอือ ทำไมไม่รักดีฟะ
จากคุณ : Licht (Miran) - [ 1 ก.ย. 45 19:52:07 ]
ความคิดเห็นที่ 21
อ่านแล้วนึกถึงข้อความจาก หนังสือ All Quiet on the Western Front ที่ว่า “สงครามไม่ได้พรากแค่ชีวิต แต่ยังพรากความเป็นมนุษย์ไปด้วย” อืม... พี่แมง วิเคราะห์ได้น่าสนใจดีครับ ตอนนี้ผมก็พยายามวิเคราะห์ศึกระหว่างอเมริกันกับอิรักอยู่ เพราะรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ พอสมควรมาตั้งแต่สมัยคลินตันแล้ว เห็นด้วยครับที่ว่าตอนนี้เวียดนามพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วมากโดยเฉพาะด้านการศึกษาที่พัฒนาล้ำหน้าไทยไปแล้ว
สำหรับเพลงที่ขอก็มี little thing mean a lot กับกีต้าร์ทีมสุดคลาสสิคจาก สุดยอดภาพยนตร์ Deer Hunter ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ปี 1978 ของผู้กำกับไมเคิล ชิมิโนที่ก็ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีนั้นไปด้วย ภาพความกดดันของเกมรัสเซียนลูเล็ตในหนังยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำหลายๆ คนมาจนกระทั่งปัจจุบัน
สำหรับกีต้าร์ทีมนี้เป็นผลงานของจอห์น วิลเลียม ชื่อว่า Cavatina จอห์น วิลเลียมคนเดียวกับสุดยอดคอมโพเซอส์ผู้สร้างสรรค์ทีมคลาสสิคมากมาย เช่น สตาร์วอร์,JAW,Indianajones,E.T. ฯลฯ คนนั้นแหล่ะ ในภาพยนตร์เรื่องนี้แกไม่ได้เป็นคอมโพสเซอส์ แต่เป็นนักดนตรีผู้บรรเลงกีต้าร์ครับ ส่วนคอมโพเซอส์ตัวจริงคือ Stanley Myers
little thing mean a lot ผมมีอยู่สองเวอร์ชัน แต่ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันเลย เพียงชื่อเหมือนกันเท่านั้นเลยเลือกอันที่คิดว่าพี่แมงขอมาลงให้
http://www.angelfire.com/folk/oldies/kitty_kallen___little_things_mean_a_lot.mp3
http://www.angelfire.com/folk/oldies/John_Williams___Cavatina_from_The_Deer_Hunter.mp3
จากคุณ : biblio - [ 1 ก.ย. 45 21:10:51 ]
ความคิดเห็นที่ 22
นึกถึงหนังที่เคยดู เห็นภาพเลยครับ
จากคุณ : Lazy Genius - [ 3 ก.ย. 45 20:05:03 ]
ความคิดเห็นที่ 23
ลุ้น ระทึกด้วยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงๆนะคะ (ป่าวหาว่าโกหกนะเอ้อ) เคยเห็นแต่ในหนัง....เรื่องอย่างนี้ไม่เกิดกับตัวเอง ก็แทบจะไม่เชื่อหู(ตา) แต่ยังไงๆ ก็ยังไม่อยากพิสูจน์ค่ะ เดี๋ยวหัวโกร๋น แล้วจนป่านเนี้ย ได้เจอคุณแก้วบ้างหรือเปล่าคะ
จากคุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:22:29 A:217.162.80.53 X: ]
ความคิดเห็นที่ 24
ฮ่วย ตอบผิดกระทู้ ขอโทษค่ะ
จากคุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:24:38 A:217.162.80.53 X: ]
ความคิดเห็นที่ 25
แหะ ๆ ขอโทษด้วยครับ มาช้าหน่อย ไปธุระต่างเมืองมาครับ มาตามอ่าน และ ตามเก็บ "เรื่องของฉัน" ต่อครับ ...คุณแมงกระพรุนวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงนั้นได้อย่างละเอียดและน่าอ่าน มากเลยครับ ...
คุณ biblio ครับ ผมชอบเพลง "Little Things Mean A Lot" มากเหมือนกัน เคยดาวน์โหลดมาฟัง ไม่ต่ำกว่าสิบเวอร์ชั่น แต่ไม่มีใครร้องเพลงนี้ได้ไพเราะ เหมือน Kitty Kallen สักคน ... ขอเอาเนื้อมาฝากด้วยนะครับ
LITTLE THINGS MEAN A LOT
- Kitty Kallen
Blow me a kiss across the room
Say I look nice when I'm not
Touch my hair as you pass my chair
Little things mean a lot
Give me your arm as we cross the street
Call me at six on the dot
A line a day when you're far away
Little things mean a lot
Don't have to buy me diamonds and pearls
Champagne, sables or such
I never care much for diamonds and pearls
'Cause honestly, honey, they just cost money
Give me your hand when I've lost my way
Give me your shoulder to cry on
Whether the day is bright or gray
Give me your heart to rely on
Send me the warmth of a secret smile
To show me you haven't forgot
For always and ever, now and forever
Little things mean a lot
Give me your hand when I've lost my way
Give me your shoulder to cry on
Whether the day is bright or gray
Give me your heart to rely on
Send me the warmth of a secret smile
To show me you haven't forgot
That always and ever, now and forever
Little things mean a lot
เอ้อ ขอชี้แจงข้อมูลของคุณ biblio หน่อยนะครับ คงไม่ว่ากัน John Williams นักบรรเลงกีตาร์คลาสสิกกับ John Williams นักแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ นามกระเดื่องเป็นคนละคนกันครับ บังเอิญชื่อมาซ้ำกันเท่านั้นเอง ตามไปดูรายละเอียด ได้ที่นี่ครับ http://plum.cream.org/williams/ ลิ้งค์ข้างบนนี้เกี่ยวกับ John Williams the classical guitarist แล้วก็มี ลิงค์ไปถึง John Williams the film composer ด้วยครับ มีรูปนักดนตรีทั้งสองท่านให้ดูด้วย ที่ http://www.mfiles.co.uk/Composers/John-Williams.htm มีแจ้งด้วยครับว่า มีคนสับสน credits ของ John Williams สองคนนี้บ่อยมากเกี่ยวกับ หนังเรื่อง "The Deer Hunter" ขอลอกมาจากเว็บเพจโดยตรงเลยนะครับ เขาว่าไว้อย่างงี้:
"One point to note that is frequently mis-quoted even in reference books,
is that John Williams the composer had no involvement with the Deer Hunter,
though John Williams the guitarist arranged and played the theme tune "Cavatina"
on guitar from the original song with music by Stanley Myers and words by Cleo Laine."
จากคุณ : ศุภา - [ 4 ก.ย. 45 08:59:58 A:24.94.209.67 X: ]
ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณคุณบิ๊บและคุณศุภามากครับ สำหรับลิงค์เพลง Cavatina รวมทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ John Williams เพราะผมก็สับสนเหมือนกันตอนที่คุณบิ๊บบอกว่าแกเล่นกีตาร์ด้วย
จากคุณ : มูโจ้ - [ 4 ก.ย. 45 15:09:29 A:203.144.143.254 X:203.144.134.86 ]
ความคิดเห็นที่ 27
http://plum.cream.org/williams/
http://www.mfiles.co.uk/Composers/John-Williams.htm
ขออนุญาตทำลิงค์ให้เสียเลยนะคะ น้องศุภา ขอบคุณมากค่ะ
สำหรับเนื้อเพลงโปรด
(ขำน้องเบลล์คนสวยหน่อยด้วย...กิ๊ก..กิ๊ก..)
จากคุณ : ปราณ - [ 4 ก.ย. 45 16:56:45 ]
ความคิดเห็นที่ 28
....................
..........
Yours truly,
จากคุณ : APO96330 - [ 4 ก.ย. 45 17:55:33 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104 ]
ความคิดเห็นที่ 29
ต่อไปเป็นรายการ “แมงฯตอบกระทู้” ตามธรรมเนียม หลังจากปะเรื่องของฉันตอนนี้แล้ว เครื่อง PC ที่ใช้อยู่ก็ถึงกาลชำรุดไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ ผู้สันทัดกรณีย์มาดูให้แล้วแจ้งว่า เมนบอร์ดเสีย ต้องเคลม อาจต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์ชีวิตของแมงฯช่วงนี้จึงลำเค็ญยิ่งนัก นี่หากต้องอยู่โดยไม่มีพีซีไม่มีอินเตอร์เนทจริง ๆ คงต้องชอกช้ำกว่านี้หลายเท่านัก ตอนนี้เลยต้องมายักยอกเอาเครื่องของปองมาใช้ขัดตาทัพไปพลาง ๆ ก่อน ไม่เข้าไม้เข้ามือเหมือนเดิม ผิดพลาดขออภัย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : guest - [ 30 ส.ค. 45 03:32:15 A:133.68.126.131 X: ]
สวัสดีครับ อ่านไม่ออกหรือครับ ยังไม่เห็นบอกว่า “ยอม” เลย ต้องบอกก่อนจึงจะเฉลย แล้วก็ต้องไขรหัสคำว่า โอไดจิอินิ ด้วยว่าแปลว่าอะไร แฮ่ม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : guest (again kha) - [ 30 ส.ค. 45 03:47:08 A:133.68.126.131 X: ] (อีกที)
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องรวมตัวกันอยู่เป็นสังคม เมื่อรวมตัวกันได้แล้วก็ต้องเลือกผู้นำของกลุ่มของสังคมนั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้า มาเป็นผู้นำ ในสมัยก่อนผู้นำส่วนใหญ่จะมีผลต่อการกำหนดแนวคิดของกลุ่มคนนั้น ๆ อย่างรุนแรงเสมอ เนื่องจากเป็นผู้นำได้เพราะแข็งแรงกว่ามีกำลังมากกว่า ผู้นำในสังคมนั้นเชื่อเช่นใด คนในสังคมก็จะถูกบังคับโน้มน้าวให้เชื่อเช่นนั้นเช่นกัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : JW - [ 30 ส.ค. 45 05:10:07 A:142.173.107.180 X: ]
แน่ะมาว่าพี่มากับดวง อ่านต่อไปเรื่อย ๆ แล้วจะเปลี่ยนแนวคิดว่า เออ..พี่เขามากับดวงจริง ๆ แต่เป็น ดวงจับกัง เหนื่อยแฮกไปทั้งชีวิต
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : GTW - [ 30 ส.ค. 45 05:11:16 A:202.133.172.21 X: ]
คุณพี่ GTW แกเป็นคนจริงจังกับชีวิตมาก ชอบอะไรแบบหนัก ๆ อย่างนี้มากกว่าไอ้ที่พร่ำเพ้อหวานแหววจนมดตอมจอเหมือนสี่ห้าตอนที่ผ่านมา..ใครสังเกตบ้างหรือไม่นั่งเงียบเชียว เพิ่งได้ยินเสียงก็ตอนนี้แหล่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 30 ส.ค. 45 09:40:02 ]
ขอบคุณครับ ที่จริงชีวิตพี่ในช่วงนั้นก็เป็นได้แค่คนดู แต่ก็ดีใจและถือเป็นบุญมหาบุญแล้วที่เรื่องไม่ได้เกิดในบ้านในเมืองของเรา พวกเราต้องช่วยกันภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงโปรดดลบันดาลให้ประเทศไทยแคล้วคลาดจากเรื่องเลวร้ายแบบนี้ตราบนานเท่านานด้วยเถิด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 30 ส.ค. 45 10:26:55 ]
ขอบคุณครับที่เอาใจช่วยย้อนหลัง เอาน่า หนักนิดเบาหน่อย หลากหลายรสชาติ ชีวิตมิใช่ดอกกุหลาบจะได้หวานชื่อไปตั้งแต่เกิดจนตาย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : พิจิก27 - [ 30 ส.ค. 45 10:44:28 ]
หนักไปหรือครับ ขอโทษทีช่วงนี้หมอสั่งให้เล่นเวทยกน้ำหนักเพื่อละลายความอ้วน เลยหนักธรรมชาติ หนักแบบไม่ได้ตั้งใจ ยังมีหนักกว่านี้อีกครับ โปรดอดใจรอ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : มูโจ้ - [ 30 ส.ค. 45 14:34:16 ]
ขอบคุณครับ สำหรับปิยะวาจา หนังสงครามเวียตนามของฮอลิวู้ดส่วนใหญ่แล้วจะพยายามสร้างให้เป็นแอบสแทรก ดูแล้วเครียด ดูเข้าใจยาก เพราะหากจะทำให้ตรงไปตรงมาแล้วมันชอกช้ำใจนัก บางเรื่องจึงแหกแนวสร้างซุปเปอร์แมนขึ้นมาให้สะใจไปเลย ตัวอย่างหรือ ก็ “แรมโบ้” ไง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : โคอาร่า - [ 30 ส.ค. 45 15:23:49 A:203.156.20.85 X: ]
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านอย่างเหนียวแน่นตลอดมา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : - โอ้โฮ - - [ 30 ส.ค. 45 16:15:14 ]
ขอบคุณครับ คุณโอ้โฮ เป็นแฟนพันธ์แท้อีกท่านหนึ่งที่ติดตามให้กำลังใจกันเสมอมา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : bellissima - [ 30 ส.ค. 45 20:03:57 A:217.162.156.130 X: ]
ใช่แล้วครับ คนเวียตนามนี่ถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับเป็นยิวแห่งเอเซียเลยละครับ สำหรับคุณเพ็ญศรียังเสมอต้นเสมอปลายให้ความเมตตากับแมงฯอยู่เหมือนเดินจนทุกวันนี้ เกือบสามสิบปีแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : Clear Ice - [ 30 ส.ค. 45 22:02:50 ]
คนที่มีมากกว่าแม้จะเสียมากแต่ในอัตราส่วนแล้วก็มักจะเสียน้อยกว่าคนที่มีน้อยกว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เอ๊ะ เขียนเองชักงงเองแล้วงานนี้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : scottie - [ 30 ส.ค. 45 23:12:39 ]
จริงครับ เหมือนหนามยอกอก อย่างไรก็อย่างนั้น พูดถึงทีไร เจ็บวูบไปทุกที
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : หมอปราณ - [ 31 ส.ค. 45 02:46:14 ]
แหม โล่งอกไปอีกเที่ยว คิดว่าคุณหมอปราณจะทิ้งกันเสียแล้ว งานนี้หมอมากับพระ คำว่ากรรมสัมพันธ์นี่ฟังไพเราะจับใจดี เป็นคำเดียวกันกับ “กรรมเวร” หรือเปล่าไม่ทราบครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 31 ส.ค. 45 11:01:17 A:203.148.232.36 X: ]
ขอบคุณครับ ดีใจที่ชอบ ตอนที่ 43 เพิ่งเขียนเสร็จครับ กำลังเกลาอยู่ ช่วงนี้แก่เฒ่าแล้วหูตาไม่ดี พีซีก็เสีย พัลวัลไปหมด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : หมูแดงจ้ะ - [ 31 ส.ค. 45 12:50:19 ]
แหม พลิกบ่อย ๆ ก็งงแย่สิคุณหมูแดง ไม่พลิกหรอกครับงานนี้ แบเบอร์มาเลย ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านมาตลอด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : Licht (Miran) - [ 1 ก.ย. 45 19:52:07 ]
ครับ เห็นเขาว่าคนเลี้ยงกุ้งนี่ก็เหมือนกับเอาเงินไปฝากให้คนอื่นเล่นไพ่ให้นะ ทำได้แค่นั่งลุ้นอย่างเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : biblio - [ 1 ก.ย. 45 21:10:51 ]
ขอบคุณจริง ๆ ครับสำหรับเพลงที่ขอไว้ทั้งสองเพลง เสียใจจังที่ยังดาวน์โหลดไม่ได้เพราะเครื่องพัง หวังว่าคงไม่มีมือดีมาบล๊อกเสียก่อนนะครับ ไม่งั้นละเสียดายแย่เลย เรื่องอเมริกันกับอิรัควิเคราะห์เสร็จเมื่อใดเอามาแบ่งกันอ่านบ้างนะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : Lazy Genius - [ 3 ก.ย. 45 20:05:03 ]
ขอบคุณครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:22:29 A:217.162.80.53 X: ] (อีกที)
เอ..ลุ้นตรงไหนหรือครับ แล้วแก้วนี่ใครหรือครับ ยังไม่ออกสักหน่อย กะว่าอีกตอนสองตอนแก้วจึงจะออก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:22:29 A:217.162.80.53 X: ] (อีกแล้ว)
ฮ่วย เจ้าตอบผิดกระทู้แล้วยังมาหลอกให้ข้อยตอบผิดตามไปด้วย เฮ็ดอิหยังกะด้อกะเดี้ยแท้น้อ เคยบ่อยนะที่ใจผูกพันอยู่กับอะไรมันมักจะวกไปที่นั่นโดยอัตโนมัติเสมอ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : ศุภา - [ 4 ก.ย. 45 08:59:58 A:24.94.209.67 X: ]
เป็นแฟนตัวจริงเสียงจริงอีกคนครับ มาที่ใด หนักแน่น ข้อมูลเพียบ เป็นประโยชน์และประเทืองความรู้ยิ่งนัก ยินดีตอนรับคุณศุภาเสมอนะครับ แล้วก็ขอบพระคุณสำหรับเนื้อเพลง Little things mean a lot คุณหมูแดงจ้ะน่าจะเขียนเป็นลำนำดูสักตั้งนะครับ ความหมายง่าย ๆ กินใจดีจริง ๆ เชียว เพลงนี้น่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : หมอปราณ - [ 4 ก.ย. 45 16:56:45 ] (อีกที)
แหม งวดนี้คุณหมอมาช้าแต่มาแบบทวินแอ๊กชั่น มีแถม ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับที่ลงมือทำลิงค์ให้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว มือเบ้า เบา สมเป็นหมอ เอ..แบบนี้สงสัยนักว่าคงหยิกไม่ค่อยเจ็บ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : APO96330 - [ 4 ก.ย. 45 17:55:33 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104 ]
……………………..
……………..
Yours sincerely,
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากคุณ : แมงฯ - [ 4 ก.ย. 45 22:01:15 A:168.120.26.246 X: ]
ความคิดเห็นที่ 30
ฮ่วย ดาวน์โหลดไม่ทัน มัวแต่ชะล่าใจ โดนบล็อกไปเรียบร้อยแหล่ว
คุณบิ๊บครับ ขอโทษครับ ขอลิงค์ 2 เพลงข้างบนนี้อีกทีได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 5 ก.ย. 45 10:20:09 A:203.144.143.254 X:203.144.134.235 ]
ความคิดเห็นที่ 31
พี่แมงฯ
พี่แมงฯดวงจับกังจริงๆเหรอ
ของนู๋ดวงจับฉ่าย มีอะไรในตู้ก็โยนลงหม้อต้มหมดเลย
ฮ่าๆๆๆ
ช่วงนี้นู๋งานรัดตัวฮ่ะ รีบเก็บเกี่ยวแสงแดดก่อนจะหนาวอีกครั้ง ที่นี่หน้าหนาวจะฝนตกเยอะมากตกพรำๆได้ทั้งวันนะบางที โอกาสเหมาะๆก็ตกมาเป็นหิมะ
พี่แมงฯรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
พวกเรารออ่านตอนที่ 43 อยู่ค่ะ
หวัดดีเดอะคลับด้วยค่ะ
จากคุณ : JW - [ 5 ก.ย. 45 12:32:08 A:142.173.107.180 X: ]
ทั้งอเมริกาและเวียตนามเหนือต่างตั้งใจว่าจะลงนามในสัญญากันสองฝ่ายแต่พลันก็คงเห็นเวียตนามใต้นั่งทำตาปริบ ๆ อยู่ตรงนั้นด้วย ก็เลยเรียกมาลงนามร่วมเสียอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อมิให้เกิดอาการขวยเขินแล้วเปลี่ยนชื่อสนธิสัญญานั้นเป็นสนธิสัญญาสามฝ่าย
ดังนั้น เมื่ออเมริกาหยุดยิงและเวียตนามเหนือปล่อยตัวนักบินเชลยบางส่วนกลับมาแล้ว เวียตนามเหนือโดยกองกำลังเวียตกง ก็ยังคงรุกรานเวียตนามใต้อยู่อย่างต่อเนื่องโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะรวมสองเวียตนามเข้าเป็นประเทศสังคมนิยมเดียวกัน เพราะถือว่าตนสัญญาว่าจะหยุดยิงกับอเมริกา มิได้สัญญากับเวียตนามใต้ ครั้นอเมริกาจะขนทหารกลับเข้ามาใหม่ก็ใช่ที่ ก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องให้การสนับสนุนเป็นเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่รัฐบาลเวียตนามใต้ให้ทำสงครามกับพวกเวียตกงอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่เงินช่วยเหลือนี้ก็กลับถูกยักยอกโดยผู้มีอำนาจในเกือบทุกระดับชั้นอย่างเอิกเกริกไร้ยางอาย ผู้ที่มีอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนั้นล้วนมีชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้ออย่างสุดขีด ผู้ใดก็ตามที่มีโอกาสต่างพากันคิดยักย้ายถ่ายเทเอาของหลวงมาเป็นประโยชน์แห่งตนกันทั้งสิ้น ในขณะที่ทหารชั้นผู้น้อยก็หมดกำลังใจมิได้คิดที่จะสู้รบกับพวกเวียตกงเพราะทุกคนหากเปรียบเป็นเด็กก็เหมือนกับเด็กที่ถูกเอาใจเสียจนเคยอีกทั้งยังมั่นใจว่าหากเหตุการณ์คับขึ้นขึ้นเมื่อใดลูกพี่เก่าก็จะเข้ามาช่วยแก้ไขสถานะการณ์ให้อย่างแน่นอน
จวบจนถึงปี 2518 ก่อนที่ปองจะเกิดได้เพียงเดือนเดียว ไซ่ง่อนเมืองหลวงของเวียตนามใต้ในสมัยนั้นก็แตกลง พวกเวียตกงบุกเข้ายึดควบคุมเมืองไว้ได้ทั้งหมด ฆ่าทหารเวียตนามใต้และข้าราชการที่หนีไม่ทันเสียมากมาย ในช่วงสองถึงสามวันก่อนที่กรุงไซง่อนจะแตก สนามบินตันซอนุทถูกปิด สายการบินทุกสายยกเลิกการบินเนื่องจากสนามบินแห่งนั้นถูกเวียตกงยิงถล่มอย่างหนักติดต่อกันมาหลายวัน สถานทูตอเมริกันจึงเป็นเสมือนหนึ่งประตูสู่อิสระภาพเพียงประตูเดียวที่เหลืออยู่ซึ่งก็แน่นอนที่สุดกลายเป็นสถานที่ซึ่งชุลมุนมาก เพราะนอกจากฝรั่งอเมริกันที่ตกค้างอยู่ในเวียตนามใต้ทุกคน พวกที่เป็นเมียหรือญาติพี่น้องข้างเมียของทหารในคราบพลเรือนอเมริกันรวมตลอดไปจนถึงพลเรือนชาวเวียตนามใต้ที่ทำงานหรือเคยทำงานให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ของอเมริกัน ทั้งที่มีชื่อและไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิในการอพยพออกนอกประเทศต่างก็หอบผ้าหอบผ่อนหอบลูกจูงหลานมาออกันเพื่อยื้อแย่งปีนป่ายเข้าไปในบริเวณสถานทูต คนพวกนี้ไม่มีทางเลือกอื่นในชีวิตเหลืออยู่อีกนอกจากจะต้องออกจากประเทศไปให้ได้ไม่ว่าโดยวิถีทางใดก็ตามเพราะเวียตกงได้ประกาศล่วงหน้ามานานแล้วว่าคือคนที่ทรยศต่อประเทศชาติ คือคนที่ทรยศต่ออุดมการของโฮจินมินห์ ฉะนั้น โอกาสที่จะมีชีวิตรอดหลังจากเวียตกงเข้าเมืองได้จึงไม่มีเหลืออยู่เลย
ภาพของสงครามไม่ว่าจะมองในแง่มุมไหนก็ล้วนโหดร้ายและบีบคั้นจิตใจอย่างรุนแรงไปทั้งสิ้นภาพนายทหารเวียตนามใต้ที่ใช้ปืนพกจ่อยิงไปที่หัวของชายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเวียตกงกลางตลาดสดซึ่งที่ชุมนุมชนโดยไม่มีการสอบสวน ภาพของเด็กหญิงที่เดินร้องไห้ไปตามถนนด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าถูกไฟจากระเบิดนาปาล์มเผาไหม้ไปจนหมดสิ้น ภาพของกลุ่มทหารอเมริกันรุ่นสุดท้ายที่ตกเป็นทาสของกัญชายาเสพติดอย่างรุนแรงใส่เครื่องแบบที่ถูกดัดแปลงเสียจนเกือบจะดูไม่ออกว่าเป็นเครื่องแบบของทหาร ภาพของผู้ชายผู้หญิงทั้งที่เป็นคนแก่หนุ่มสาวรวมไปถึงเด็ก ๆ แห่งหมู่บ้านไมไลกว่าสามร้อยคนที่ถูกทหารอเมริกันฆ่าตายเพราะสงสัยว่าเป็นพวกเวียตกง ภาพของบ้านเมืองที่ลุกเป็นไฟผู้คนที่ออกวิ่งกระเซอะกระเซิงไปในสถานที่ต่าง ๆ บ้างก็ฉวยโอกาสออกปล้นฆ่าข่มขืนคนชาติเดียวกันเองในนสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดไร้ขื่อไร้แป ภาพของผู้คนที่หอบผ้าหอบผ่อนหอบลูกจูงหลานพากันไปอออยู่หน้ารั้วสถานทูตอเมริกันในกรุงไซ่งอน ภาพของผู้คนที่แย่งกันปีนป่ายเพื่อที่จะเข้าไปในบริเวณสถานทูตให้ได้ในขณะที่เครื่องช้อบเปอร์บินว่อนรับผู้คนจากหลังคาสถานทูตไปส่งลงยังเรือบันทุกเครื่องบินหลายลำที่จอดรออยู่ในอ่าวตั้งเกี๋ย เป็นอะไรที่เห็นเมื่อใดก็ให้หดหู่หัวใจนัก
ก่อนหน้านั้นสักสามปีถ้ามีใครมาพูดขึ้นว่าว่าไซ่ง่อนจะแตกให้กับเวียตกง คนฟังก็จะพากันหัวเราะกันครื้นเครงด้วยคิดว่าเป็นเรื่องตลกอย่างแน่แท้ ไม่มีทางที่ใครจะปักใจเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงได้เป็นอันขาด
หากจะมองสงครามเวียตนามในภาพรวม อเมริกาได้ถูกสังคมโลกตราหน้าว่าเป็นผู้แพ้เมื่อยินยอมลงนามในสนธิสัญญาหยุดยิงและถอนทหารออกจากเวียตนามเพียงเพื่อแลกกับการที่เวียตนามเหนือยินยอมที่จะปลดปล่อยเชลยสงครามหลังจากที่ยึกยักตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ เสียจนมากมาย การแพ้ในครั้งนั้นเป็นการแพ้ให้กับ “มวยคนละรุ่น” แต่นั่นเป็นภาพที่คนจำติดตา เป็นภาพของคนที่มองเรื่องนี้อย่างผิวเผิน ทั้งที่เป็นอเมริกันเองและที่เป็นคนชาติอื่น โจทย์ในเรื่องนี้ที่ยังไม่มีคำตอบคือ อเมริกาแพ้จริงหรือ
มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มเข้าไปมีบทบาททางการทหารในประเทศเวียตนามมาตั้งแต่ปี 2493 เมื่อประธานาธิบดีทรูแมนตัดสินใจส่งผู้เชี่ยวชาญทางทหารรวม 35 นายเข้าไปช่วยฝรั่งเศสอำนวยการรบในสงครามเดียนเบียนฟูเพื่อผดุงรักษาสภาพของประเทศที่เป็นอนานิคมไว้ จึงกล่าวได้ว่าโดยรวมแล้วอเมริกาเข้ามามีบทบาททางการทหารทั้งในทางตรงและทางอ้อมเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ แม้ว่าอเมริกาจะเสียทหารถึงห้าหมื่นกว่าคนในสงครามเวียตนามซึ่งคนฟังอาจตกใจเห็นว่าคนตายเยอะนัก แต่หากจะเทียบกับจำนวนผู้คนที่เสียชีวิตในสงครามนี้ทั้งหมดซึ่งประมาณกันว่าเป็นจำนวนมากกว่าสองล้านคน หรือจะเทียบกับจำนวนทหารอเมริกันที่เข้าไปปฏิบัติการรบในเวียตนามกว่าห้าแสนคน เทียบกับคนอเมริกันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายที่ต้องตายไปด้วยโรคหัวใจซึ่งมีจำนวนถึงกว่าเจ็ดแสนคนต่อปี เทียบกับที่คนอเมริกันฆ่ากันเองตายไปกว่าหกแสนสองหมื่นคนในสงครามกลางเมืองที่อเมริกันฝ่ายเหนือรบกับฝ่ายใต้เพียงเพราะความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องทาสนิโกร หรือจะเทียบกับคนยิวที่ถูกเยอรมันฆ่าในสงครามโลกครั้งที่สองกว่าหกล้านคนแล้ว ก็จะเห็นได้โดยง่ายว่าอเมริกาเสียทหารในสงครามเวียตนามน้อยมาก
แต่เมื่อย้อนมาคำนึงถึงแสนยานุภาพทางทหารและเทคโนโลยี่ที่อเมริกามีอยู่ในมือในขณะนั้นจะยังจะมีใครเชื่ออยู่อีกหรือว่าอเมริกันแพ้สงครามเวียตนาม หากอเมริกาตั้งใจจะรบกับเวียตกงในสงครามเวียตนามอย่างเต็มกำลังเพื่อมุ่งเอาชนะคะคานกันจริง ๆ แล้วเวียตกงจะไปมีอะไรเหลือ
อเมริกามิได้ใช้หรือตั้งใจที่จะใช้ยุทธการเชิงรุกในสงครามเวียตนามนอกจากการทิ้งระเบิดถล่มจุดยุทธศาสตร์ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นที่เปิดเผยในเวียตนามเหนืออย่างหนักและการที่ประธานาธิบดีจอห์นสันออกมาพูดอยู่เนือง ๆ ว่าอเมริกาจะไม่จำกัดขีดความสามารถในการใช้อาวุธปรมณูไว้เมื่อถึงคราวที่จำเป็นแล้ว กองกำลังภาคพื้นดินของอเมริกาไม่เคยรุกเข้าไปรบเพื่อยึดครองพื้นที่ในเขตประเทศเวียตนามเหนือเลย ทหารราบอเมริกันได้รับคำสั่งให้ทำการรบเพื่อต่อต้านการแทรกแซงของกองกำลังเวียตกงในพื้นที่ประเทศเวียตนามใต้เท่านั้น และในช่วงท้าย ๆ ของสงครามเมื่อทหารเวียตกงเลี่ยงไปใช้เส้นทางในเขมรและลาวเพื่อรุกรานเวียตนามใต้ อเมริกาก็เลือกที่จะจ้างทหารรับจ้างจากไทยเข้าไปรุกรบเพื่อยับยั้งการแซกแซงและทำลายเส้นทางลำเลียงนั้นลงเสียเท่านั้น
(โปรดอ่านต่อไปได้อีกนิดที่ความคิดเห็นที่ 1)
จากคุณ : แมงกระพรุน - [ 30 ส.ค. 45 02:38:55 A:203.149.40.15 X: ]
ความคิดเห็นที่ 1
หากจะเปรียบสงครามเวียตนามกับขั้นตอนของสงครามในสมัยโบราณแล้วก็น่าจะตรงกันขั้นตอนขี่ม้าท้าทายถามชื่อแซ่รำทวนท้าทายข้าศึกที่หน้าค่ายของตัวเอง เดชะบุญที่คู่ต่อสู้ในสงครามเย็นมิได้รับคำท้า สงครามร้อนหรือสงครามจริง ๆ จึงยังมิได้เกิด เป้าหมายที่แท้จริงของอเมริกาน่าจะเป็นโซเวียตหาใช่เวียตกงหรือเวียตนามเหนือไม่ อเมริกาหรือจะให้เฉพาะเจาะจงลงไปก็คงต้องใช้คำว่าซีไอเอเห็นว่าหากโซเวียตทนเห็นลูกน้องของตัวเองโดนรังแกมาก ๆ ไม่ไหวก็ต้องกระโดดลงมาเล่นเองในสงครามที่ต่างฝ่ายต่างกำหนดขอบเขตได้เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีหุ่นเชิดของตัวเองคนละตัว และรบกันในสังเวียนที่ใกล้จากบ้านของทั้งสองฝ่ายจึงเป็นที่แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถควบคุมมิให้สงครามนั้นขยายของเขตออกไปได้โดยง่าย
หากการณ์เป็นไปเช่นนั้นอเมริกาก็จะสามารถใช้สมรภูมิเวียตนามเป็นสนามทดสอบศักยภาพของอาวุธของตัวกับของคู่แข่งตลอดกาลอย่างโซเวียตได้ในสนามรบที่ห่างจากบ้านตัวเองกว่าครึ่งโลก นอกจากนั้นยังสามารถใช้สมรภูมิเวียตนามเป็น “งานแสดงสินค้า” ให้กับลูกค้าที่สนใจจะซื้อหาอาวุธได้ชมประสิทธิภาพของอาวุทยุธโทปกรณ์ต่าง ๆ ในสนามรบจริงได้อีกด้วย แต่งานนี้อเมริกันคาดผิดที่โซเวียตไม่ยอมเล่นด้วย อาจเป็นเพราะโซเวียตได้ประเมินแล้วเห็นว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ของตนยังห่างชั้นกับของอเมริกันมาก อย่างมากที่ทำจึงเป็นเพียงแค่โยนเศษเงินกับอาวุธที่ใกล้จะปลดระวางให้กับเวียตนามเหนือเท่านั้น ถึงกระนั้นก็ตามหากจะลองคิดดูกันเล่น ๆ ว่าอเมริกันสามารถใช้สมรภูมิเวียตนามทดสอบศักยภาพของอาวุธประเภทต่าง ๆ แต่เพียงฝ่ายเดียวได้ประโยชน์มหาศาลเพียงใด มีใครรู้หรือไม่ว่าอเมริกาขายอาวุธและเทคโนโลยี่ทางการสงครามที่พัฒนาขึ้นจากสงครามเวียตนามให้กับประเทศด้อยพัฒนาต่าง ๆ ได้เป็นมูลค่ามหาศาลขนาดไหน
เมื่ออเมริกาเริ่มที่จะหมดความอดทนและความสนใจในเวียตนาม ก็หันไปหาของเล่นใหม่ในตะวันออกกลาง พอดีกับจังหวะที่ยิวและอาหรับเริ่มหงุดหงิดใส่กันจนมองหน้ากันไม่ติด อเมริกาก็เลยได้จังหวะลงจากหลังเสือโดยอาศัยสนธิสัญญาหยุดยิงที่ลงนามกันที่กรุงปารีสหลังการเจรจาสันติภาพที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์โลก ถอนทหารออกไปจากประเทศเวียตนาม ปล่อยให้เวียตนามใต้เผชิญชะตากรรมต่อไปแต่เพียงโดดเดี่ยวลำพัง เหมือนกับเด็กที่เบื่อโยนของเล่นชิ้นเก่าที่เล่นมานานทิ้งแล้วผละไปหาของเล่นชิ้นใหม่ กองกำลังเวียตนามเหนือซึ่งประกอบด้วยผู้คนที่เกิดเป็นคนและมีชีวิตอยู่ท่ามกลางสงครามตลอดมาต่างรบด้วยชีวิตจิตใจ รบเพื่อสนองปณิธานอันแรงกล้าที่จะรวมชาติเวียตนามเข้าด้วยกัน ก็ใช้เวลาไม่ถึงสองปีดีหลังจากที่อเมริกาถอนกำลังส่วนใหญ่ออกไป บดขยี้ไล่รบเสียจนพวกเวียตนามใต้แพ้เละเทะไม่เป็นขบวนและยึดครองเวียตนามได้หมดทั้งประเทศในที่สุดดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในส่วนของกองกำลังสนับสนุนการรบในประเทศไทย เมื่อไม่มีการรบในเวียตนามอีกต่อไปแล้ว ความจำเป็นที่จะคงฐานทัพเหล่านั้นไว้ก็มีน้อยลง จริงอยู่ที่ก่อนหน้านั้น อเมริกาต้องการมีฐานทัพในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อคานอำนาจจ้องหน้าคุมเชิงกับโซเวียตและจีน แต่ความจำเป็นนั้นก็หมดไปเมื่อขีดความสามารถในการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ได้รับการพัฒนาขึ้นในระดับที่อเมริกาสามารถเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์มีน้ำหนักรวมกันกว่าหนึ่งร้อยตันในรัศมีกว่าเจ็ดพันกิโลเมตรได้โดยใช้เครื่องบินขนส่งกาแล๊กซี่เพียงลำเดียว ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ในขณะนั้นอเมริกามีฐานทัพใหญ่อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์และเกาะโอกินาวาไม่นับรวมถึงฐานทัพอากาศบนเกาะกวมซึ่งล้วนสามารถใช้เป็นฐานส่งกำลังบำรุงหากเกิดสงครามที่อเมริกาต้องการเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียขึ้นในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้โดยง่าย
ในประเทศไทยชมรมนิสิตนักศึกษาในขณะนั้นก็เริ่มพุ่งเป้าหมายการประท้วงรายวันมาเน้นย้ำให้ทหารอเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากประเทศไทยโดยเร็ว เรื่องเลยเข้าล๊อกกลายเป็นว่าพลังนิสิตนักศึกษาและรัฐบาลที่กำลังต้องการเอาใจนิสิตนักศึกษาในสมัยนั้นเป็นพิเศษประสบกับความสำเร็จอย่างงดงามในการเจรจากดดันจนอเมริกาต้องยินยอมถอนฐานทัพออกไปจากประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงอเมริกาก็ประสงค์ที่จะทำเช่นนั้นอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ผลกระทบจากการนี้ก็คือรัฐบาลและกองทัพต้องจำใจปล่อยให้เงินช่วยเหลือจำนวนมหาศาลที่เคยได้รับจากอเมริกาเป็นการแลกเปลี่ยนกับการยินยอมให้อเมริกาใช้ฐานทัพในประเทศไทยในขณะนั้นมลายหายวับไปกับตา
อเมริกาเริ่มทะยอยปิดฐานทัพในประเทศไทยและลดกำลังทหารประจำการลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา แรก ๆ ก็ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจนนักเพราะทหารที่เหลืออยู่ยังมีอีกมาก ต่อมา ผลกระทบทางด้านจุลภาคก็เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมเด่นชัดขึ้นเมื่อจำนวนทหารเริ่มลดน้อยลงจนคนไทยที่เคยทำมาหากินกับอเมริกันอย่างคล่องคอเริ่มมีอาการติดขัดในลำคอกันเป็นทิวแถว คนที่ทำงานเป็นลูกจ้างพนักงานธนาคารเชสเอมเอฟเอฟก็เช่นกัน ก่อนหน้านั้นได้มีการเจรจากันอย่างลับ ๆ ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของเชสเอมเอฟเอฟกับธนาคารเชสแมนแฮตตั้นซึ่งประกอบกิจการเป็นธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศอยู่ในกรุงเทพฯที่เรียกกันว่าคอมเมิชช่วลบร้านซ์ในอันที่จะขอให้คอมเมิชช่วลบร้านซ์รับโอนพนักงานของเชสเอมเอฟเอฟบางส่วนไปเมื่อเชสเอมเอฟเอฟต้องปิดตัวลงซึ่งได้ส่งผลให้พนักงานของเชสเอมเอฟเอฟได้รับโอนไปทำงานต่อเนื่องยังคอมเมิชช่วลบร้านซ์หลายรุ่น ทั้งหมดเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่เซนทรัลแอดมินนิสเตรชั่นอ๊อฟฟิสในกรุงเทพ พนักงานที่ทำงานอยู่ตามสาขาต่างจังหวัดซึ่งก็รวมทั้งตัวฉันด้วยไม่มีใครได้รับการโอนย้ายไปด้วยเลย
ถึงแม้จะได้ข่าวและพอจะวิเคราะห์ออกว่าตัวเองอาจไม่ได้รับโอกาสที่จะถูกโอนไปทำงานที่คอมเมิชช่วลบร้านซ์ซึ่งหมายความว่าฉันอาจจะถูกลอยแพหลังจากฐานทัพที่อุดรปิดตัวเองลงก็ตาม แต่ในขณะนั้นฉันก็มิได้กังวลเดือดร้อน ยังคงก้มหน้าทำงานในความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังความสามารถไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในช่วงปลายปี 2518 ขณะที่ปองเกิดมาได้เพียง 6 เดือนก็มีข่าวว่าเชสจะปิดสาขาที่อุดร พนักงานที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็เริ่มร้อนตัวหาลู่ทางที่จะขยับขยาย ฉันก็เริ่มพูดคุยหารือกับผู้เกี่ยวข้องที่กรุงเทพมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของฉันในเชส คำตอบแรก ๆ ที่ได้รับคือทางคอมเมิชช่วลบร้านซ์เริ่มมีข้อจำกัดในเรื่องกำลังคนได้ขอระงับโครงการรับโอนพนักงานจากเอมเอฟเอฟไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจึงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งหมายความว่าให้ฉันรอไปก่อน ระหว่างที่รอก็ให้ช่วยเคลียเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้การปิดสาขาอุดรทำได้โดยราบรื่น พวกฝรั่งพูดในทำนองขออย่าให้ฉันวิตกเพราะยังมีงานให้ทำไปอีกนานแม้ว่าสาขาธนาคารที่อุดรจะปิดไปแล้วก็ตาม
ในช่วงนั้นมีฝรั่งคนหนึ่งชื่อ จอห์น ดีซีโก้ ถูกโอนย้ายจากเวียตนามมารับงานด้านเอดมินิสเตรชั่นในอันที่จะทยอยยกเลิกธุรกรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ของธนาคารอยู่ที่กรุงเทพฯ จอห์น ดีซีโก้คนนี้ไงที่เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นครูภาษาอังกฤษคนที่สองของฉันรองจาก มร. บราเวนเดอร์ จอห์นกับฉันมีโอกาสได้พูดคุยและทำงานร่วมกันแล้วเกิดถูกอัธยาศัยคบกันเป็นเพื่อนจนสนิทกันมากถึงขั้นที่ฉันจะไปกินไปนอนที่บ้านพักของจอห์นที่ซอยร่วมฤดีทุกครั้งที่ฉันลงมาติดต่องานในกรุงเทพบ่อยขึ้นในระยะหลัง และก็เป็นจอห์นผู้นี้นี่เอง ที่แนะให้ฉันใช้นโยบายเชิงรุกหากต้องการที่จะทำงานกับเชสต่อไป
จอห์นสอนให้ฉันเขียนเรซูเมหรือประวัติส่วนตัวแบบมืออาชีพแทนที่จะเป็นเรซูเมแบบเด็ก ๆ ที่เคยใช้ประกอบจดหมายสมัครงานตอนเรียนจบใหม่ ๆ จอห์นแนะให้ฉันส่งเรซูเมที่ช่วยกันเขียนขึ้นนั้นพร้อมกับจดหมายสมัครงานตรงไปที่คอมเมิชช่วลบร้านซ์เลย อย่ารอ ฉันก็ทำตามคำแนะนำนั้น และเชื่อหรือไม่ คนที่เปิดซองจดหมายสมัครงานของฉันคือคุณเพ็ญศรีซึ่งได้รับการโอนย้ายไปรับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการแผนกงานบุคคลอยู่ที่คอมเมิชช่วลบร้านซ์เป็นรุ่นแรก คุณเพ็ญศรีคนเดียวกันกับคนที่เปิดซองจดหมายสมัครงานของฉันเมื่อหกปีก่อนนั้นนั่นแหล่ะ น่าแปลกไหม
จากคุณ : แมงฯ - [ 30 ส.ค. 45 02:44:52 A:203.149.40.15 X: ]
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน “เรื่องของฉัน” ตอนเก่า ๆ ก็โปรดไปที่นี่ "เรื่องของฉันตอนที่ 41" ซึ่งจะมีบัญชีลายแทงตัวเชื่อมพาท่านไปยัง “เรื่องของฉัน” ตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนที่ 1 – 40 ได้ในลัดนิ้วมือเดียว ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 30 ส.ค. 45 02:49:47 ]
ความคิดเห็นที่ 3
Sawasdee kha...Just finish the lab.. K.แมงกระพรุน kha.. I can't read your Karaoke language.. :-( Could you please translate your Karaoke language (in previous chapter) to me.. O-dai-ji-ni
จากคุณ : guest - [ 30 ส.ค. 45 03:32:15 A:133.68.126.131 X: ]
ความคิดเห็นที่ 4
Sometimes ordinary people's life is a memory of history.. I remember, when I was a pupil, one day our teacher told us that, Loas had changed her name... Combodia and Vietnam as well.. I was too young to understand anything. Then, some year later, our teacher had to response to policy from Ministry of Education (I mean Kra-suang-suek-sa).. she had to tell us to be aware of communist.. though we all didn't know exactly what it is..
จากคุณ : guest (again kha) - [ 30 ส.ค. 45 03:47:08 A:133.68.126.131 X: ]
ความคิดเห็นที่ 5
โอย....ตอนนี้หนักจัง ปวดหมอง ๆ แต่เชื่อว่าฝีมืออย่างพี่แมงฯต้องได้งานที่เชส กทม.แน่นอนเลย คนอะไรมากับดวงแท้ๆ
จากคุณ : JW - [ 30 ส.ค. 45 05:10:07 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นตอนที่บรรยายและวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดีมากครับ ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่ย่อยยับจากสงครามเมื่อไม่ถึงสามสิบปีมานี้จะพัฒนาอะไรๆได้เร็ว แถมบางอย่างอย่างแซงหน้า ประเทศไทยไปได้เสียอีก น่าแปลกครับ เหตุการณ์อย่างเดิมมาเกิดซ้ำอีก เป็นความบังเอิญที่น่าแปลก จะเรียกว่าดวงสมพงษ์กันได้ไหมนี่
จากคุณ : GTW - [ 30 ส.ค. 45 05:11:16 A:202.133.172.21 X: ]
ความคิดเห็นที่ 7
เหมือนในหนังเลยครับ อิจฉา"พี่แมงฯ"จังเลยชีวิตมีรสชาดดีจัง ตอนนั้นของผมก็ประมาณ 8 ขวบ เคยแต่อยู่ในเหตุการณ์ก่อน"เวียง(จันทร์)แตก"เท่านั้นเอง แต่ก็จำอะไรไม่ค่อยได้แล้วล่ะครับ รออ่าน "เรื่องของฉัน 43" นะครับ
จากคุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 30 ส.ค. 45 09:40:02 ]
ความคิดเห็นที่ 8
เอาใจช่วยพี่แมงกระพรุนอยู่นะคะ...แหม..ตอนนี้หนักขะหมองน่าดูเลยแหละ
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 30 ส.ค. 45 10:26:55 ]
ความคิดเห็นที่ 9
อื้อฮือ...ตอนนี้เล่นหนักจังนะพี่แมงฯ
จากคุณ : พิจิก27 - [ 30 ส.ค. 45 10:44:28 ]
ความคิดเห็นที่ 10
สนุกและมีสาระดีครับตอนนี้ การเล่าถึงชีวประวัติส่วนตัว ควรอ้างอิงถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ของชาติและของโลกในช่วงเวลานั้นๆด้วย ถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ไปในตัว พี่แมงฯ ทำได้ดีแล้วครับ ฟังถึงความวุ่นวายของฝูงชนที่บุกสถานฑูตอเมริกาแล้วนึกถึงภาพจากหนังเรื่อง The Killing Field และ The Deer Hunter ที่มาถ่ายทำในไทย จำได้ว่าเพลงธีมของ เดียร์ ฮันเตอร์ที่เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์คลาสสิค ไพเราะมาก ต้องขอโทษครับที่จำชื่อเพลงและคนเล่น คนแต่งไม่ได้ คงต้องรบกวนคุณ bib ช่วยจัดการอีกตามเคยละครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 30 ส.ค. 45 14:34:16 ]
ความคิดเห็นที่ 11
ใบปิดครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 30 ส.ค. 45 14:36:05 ]
ความคิดเห็นที่ 12
มาอ่านแล้วค่ะ (ตอนนี้ต้องเพิ่มสมาธิอีกหลายส่วน...แหะๆ)
จากคุณ : โคอาร่า - [ 30 ส.ค. 45 15:23:49 A:203.156.20.85 X: ]
ความคิดเห็นที่ 13
อ่านเรื่องเกี่ยวกับสงครามครั้งใด หดหู่ใจทุกที รออ่านตอนต่อไปนะคะ คงจะเป็นข่าวดีๆ แน่ๆ เลย
@ ^_^ @
จากคุณ : - โอ้โฮ - - [ 30 ส.ค. 45 16:15:14 ]
ความคิดเห็นที่ 14
วันนี้มาแบบ Good Morning Vietnam!!! เลยนะพี่ ว่าไปแล้ว ประเทศเวียตนาม ไม่ใช่สิ คนเวียตนามเป็นชนชาติที่น่าทึ่งทีเดียว ถ้าเพียงแต่ประเทศไม่มัวทะเลาะกับชาวบ้าน(หรือทะเลาะกันเองแต่ให้ชาวบ้านหนุนหลัง) ก็คงเป็นประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทย (ตอนนี้การท่องเที่ยวเวียตนาม เริ่มบูมมากขึ้นเรื่อยๆ ไทยเราต้องระวังให้ดี)
อะฮ่า พี่แมงฯ วนกลับมาเจอกามเทพคนเก่าของพี่อีกแล้ว เจอคุณเพ็ญศรีทีไรได้ลาภทุกที อยากรู้คราวนี้จะเกิดอะไรขึ้น
จากคุณ : bellissima - [ 30 ส.ค. 45 20:03:57 A:217.162.156.130 X: ]
ความคิดเห็นที่ 15
อ่านตอนนี้แล้วได้ความรู้เกี่ยวกับสงครามเวียดนามในอีกแง่มุมหนึ่งไปอีกหลายส่วน อืม...ถ้ามองในแง่นี้แล้ว อเมริกาไม่ได้เสียอะไรเท่าไหร่เลยเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ โฮะ ๆ เพิ่งสังเกตว่า ไอซ์เกิดปีเดียวกับปอง ลูกพี่แมงฯเลยค่ะ เอิ๊กส์
จากคุณ : Clear Ice - [ 30 ส.ค. 45 22:02:50 ]
ความคิดเห็นที่ 16
เดาว่าได้งานแน่ๆ เลย :) เรื่องสงคราวเวียดนาม ขอสารภาพว่ารู้สึกเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด คนอเมริกันรู้สึกกับเรื่องนี้มากกว่าสงครามโลกอีก
จากคุณ : scottie - [ 30 ส.ค. 45 23:12:39 ]
ความคิดเห็นที่ 17
มาช้าหน่อยค่ะ งวดนี้ มัวแต่ไปตามเก็บเซลล์สมองที่ตกๆหล่นๆ มาประกอบการอ่านตอนนี้ คุณแมงฯเขียนสนุกกว่าหนังสือประวัติศาสตร์แต่ได้ ความครบดีจังค่ะ คุณแมงฯกับคุณเพ็ญศรีเรียกว่ามีกรรมสัมพันธ์ กันมาไงคะ กรรมดี..จึงมาเกื้อกูลกัน ทักทายน้องๆแฟนคลับทุกคนค่ะ
จากคุณ : ปราณ - [ 31 ส.ค. 45 02:46:14 ]
ความคิดเห็นที่ 18
มาอ่านด้วยตวามกระหายค่ะ อ่านแล้ว เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงทั้งทางสังคมโลกและสังคมไทยในช่วงนั้นเลย คุณแมงเป็นนักเล่าเรื่อง (จริง) ที่น่าติดตามมาก อิจฉาชีวิตของพี่กับพี่ตุ่มที่ได้เจอเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงนั้นด้วยตนเอง ได้สู้ ดิ้นรนและหาทางออกจนอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ นี่...ถ้าน้องปองเค้ามีเวลาเข้ามาอ่าน เค้าคงจะภูมิใจในตัว "ป๋ากับแม่" มากๆ เลย ปล. ยังรออ่าน ตอนที่ 43 อยู่นะคะ
จากคุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 31 ส.ค. 45 11:01:17 A:203.148.232.36 X: ]
ความคิดเห็นที่ 19
ตอนที่แล้วไม่ได้มาคุย แต่ก็ตามอ่านตั้งแต่วันแรกที่ลงนะคะ ขอทักทายเพื่อนนักอ่านทุกท่านคะ สบายกันดีนะคะ อ่านตอนนี้แล้ว ใจมันร้อนรุ่มอยากอ่านต่อตอนที่ ๔๓ รู้ทั้งรู้แหละค่ะว่าพี่แมงฯ ได้งานทำแน่ๆ แต่ที่อยากรู้มากกว่านั้นคือเหตุการณ์หลังจากที่คุณเพ็ญศรีเปิดซองจดหมายไปจนถึงการตกลงกันน่ะค่ะ คิดว่าต้องมีอะไรสำคัญเป็นจุดพลิกผันตรงนี้แน่ๆ
จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [ 31 ส.ค. 45 12:50:19 ]
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนนี้เครียดจัง เราก็เครียดเพิ่งกลับจากไป trip ลุยปลาหยก ๆ เมื่อกี้เพื่อนที่อยู่กลุ่มเลี้ยงกุ้งเดียวกันเพิ่งโทรมาบอกว่า เจ้ากุ้งน้อยเป็นโรคเรืองแสงอ่ะอือ ทำไมไม่รักดีฟะ
จากคุณ : Licht (Miran) - [ 1 ก.ย. 45 19:52:07 ]
ความคิดเห็นที่ 21
อ่านแล้วนึกถึงข้อความจาก หนังสือ All Quiet on the Western Front ที่ว่า “สงครามไม่ได้พรากแค่ชีวิต แต่ยังพรากความเป็นมนุษย์ไปด้วย” อืม... พี่แมง วิเคราะห์ได้น่าสนใจดีครับ ตอนนี้ผมก็พยายามวิเคราะห์ศึกระหว่างอเมริกันกับอิรักอยู่ เพราะรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ พอสมควรมาตั้งแต่สมัยคลินตันแล้ว เห็นด้วยครับที่ว่าตอนนี้เวียดนามพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วมากโดยเฉพาะด้านการศึกษาที่พัฒนาล้ำหน้าไทยไปแล้ว
สำหรับเพลงที่ขอก็มี little thing mean a lot กับกีต้าร์ทีมสุดคลาสสิคจาก สุดยอดภาพยนตร์ Deer Hunter ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ปี 1978 ของผู้กำกับไมเคิล ชิมิโนที่ก็ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีนั้นไปด้วย ภาพความกดดันของเกมรัสเซียนลูเล็ตในหนังยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำหลายๆ คนมาจนกระทั่งปัจจุบัน
สำหรับกีต้าร์ทีมนี้เป็นผลงานของจอห์น วิลเลียม ชื่อว่า Cavatina จอห์น วิลเลียมคนเดียวกับสุดยอดคอมโพเซอส์ผู้สร้างสรรค์ทีมคลาสสิคมากมาย เช่น สตาร์วอร์,JAW,Indianajones,E.T. ฯลฯ คนนั้นแหล่ะ ในภาพยนตร์เรื่องนี้แกไม่ได้เป็นคอมโพสเซอส์ แต่เป็นนักดนตรีผู้บรรเลงกีต้าร์ครับ ส่วนคอมโพเซอส์ตัวจริงคือ Stanley Myers
little thing mean a lot ผมมีอยู่สองเวอร์ชัน แต่ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันเลย เพียงชื่อเหมือนกันเท่านั้นเลยเลือกอันที่คิดว่าพี่แมงขอมาลงให้
http://www.angelfire.com/folk/oldies/kitty_kallen___little_things_mean_a_lot.mp3
http://www.angelfire.com/folk/oldies/John_Williams___Cavatina_from_The_Deer_Hunter.mp3
จากคุณ : biblio - [ 1 ก.ย. 45 21:10:51 ]
ความคิดเห็นที่ 22
นึกถึงหนังที่เคยดู เห็นภาพเลยครับ
จากคุณ : Lazy Genius - [ 3 ก.ย. 45 20:05:03 ]
ความคิดเห็นที่ 23
ลุ้น ระทึกด้วยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงๆนะคะ (ป่าวหาว่าโกหกนะเอ้อ) เคยเห็นแต่ในหนัง....เรื่องอย่างนี้ไม่เกิดกับตัวเอง ก็แทบจะไม่เชื่อหู(ตา) แต่ยังไงๆ ก็ยังไม่อยากพิสูจน์ค่ะ เดี๋ยวหัวโกร๋น แล้วจนป่านเนี้ย ได้เจอคุณแก้วบ้างหรือเปล่าคะ
จากคุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:22:29 A:217.162.80.53 X: ]
ความคิดเห็นที่ 24
ฮ่วย ตอบผิดกระทู้ ขอโทษค่ะ
จากคุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:24:38 A:217.162.80.53 X: ]
ความคิดเห็นที่ 25
แหะ ๆ ขอโทษด้วยครับ มาช้าหน่อย ไปธุระต่างเมืองมาครับ มาตามอ่าน และ ตามเก็บ "เรื่องของฉัน" ต่อครับ ...คุณแมงกระพรุนวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงนั้นได้อย่างละเอียดและน่าอ่าน มากเลยครับ ...
คุณ biblio ครับ ผมชอบเพลง "Little Things Mean A Lot" มากเหมือนกัน เคยดาวน์โหลดมาฟัง ไม่ต่ำกว่าสิบเวอร์ชั่น แต่ไม่มีใครร้องเพลงนี้ได้ไพเราะ เหมือน Kitty Kallen สักคน ... ขอเอาเนื้อมาฝากด้วยนะครับ
LITTLE THINGS MEAN A LOT
- Kitty Kallen
Blow me a kiss across the room
Say I look nice when I'm not
Touch my hair as you pass my chair
Little things mean a lot
Give me your arm as we cross the street
Call me at six on the dot
A line a day when you're far away
Little things mean a lot
Don't have to buy me diamonds and pearls
Champagne, sables or such
I never care much for diamonds and pearls
'Cause honestly, honey, they just cost money
Give me your hand when I've lost my way
Give me your shoulder to cry on
Whether the day is bright or gray
Give me your heart to rely on
Send me the warmth of a secret smile
To show me you haven't forgot
For always and ever, now and forever
Little things mean a lot
Give me your hand when I've lost my way
Give me your shoulder to cry on
Whether the day is bright or gray
Give me your heart to rely on
Send me the warmth of a secret smile
To show me you haven't forgot
That always and ever, now and forever
Little things mean a lot
เอ้อ ขอชี้แจงข้อมูลของคุณ biblio หน่อยนะครับ คงไม่ว่ากัน John Williams นักบรรเลงกีตาร์คลาสสิกกับ John Williams นักแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ นามกระเดื่องเป็นคนละคนกันครับ บังเอิญชื่อมาซ้ำกันเท่านั้นเอง ตามไปดูรายละเอียด ได้ที่นี่ครับ http://plum.cream.org/williams/ ลิ้งค์ข้างบนนี้เกี่ยวกับ John Williams the classical guitarist แล้วก็มี ลิงค์ไปถึง John Williams the film composer ด้วยครับ มีรูปนักดนตรีทั้งสองท่านให้ดูด้วย ที่ http://www.mfiles.co.uk/Composers/John-Williams.htm มีแจ้งด้วยครับว่า มีคนสับสน credits ของ John Williams สองคนนี้บ่อยมากเกี่ยวกับ หนังเรื่อง "The Deer Hunter" ขอลอกมาจากเว็บเพจโดยตรงเลยนะครับ เขาว่าไว้อย่างงี้:
"One point to note that is frequently mis-quoted even in reference books,
is that John Williams the composer had no involvement with the Deer Hunter,
though John Williams the guitarist arranged and played the theme tune "Cavatina"
on guitar from the original song with music by Stanley Myers and words by Cleo Laine."
จากคุณ : ศุภา - [ 4 ก.ย. 45 08:59:58 A:24.94.209.67 X: ]
ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณคุณบิ๊บและคุณศุภามากครับ สำหรับลิงค์เพลง Cavatina รวมทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ John Williams เพราะผมก็สับสนเหมือนกันตอนที่คุณบิ๊บบอกว่าแกเล่นกีตาร์ด้วย
จากคุณ : มูโจ้ - [ 4 ก.ย. 45 15:09:29 A:203.144.143.254 X:203.144.134.86 ]
ความคิดเห็นที่ 27
http://plum.cream.org/williams/
http://www.mfiles.co.uk/Composers/John-Williams.htm
ขออนุญาตทำลิงค์ให้เสียเลยนะคะ น้องศุภา ขอบคุณมากค่ะ
สำหรับเนื้อเพลงโปรด
(ขำน้องเบลล์คนสวยหน่อยด้วย...กิ๊ก..กิ๊ก..)
จากคุณ : ปราณ - [ 4 ก.ย. 45 16:56:45 ]
ความคิดเห็นที่ 28
....................
..........
Yours truly,
จากคุณ : APO96330 - [ 4 ก.ย. 45 17:55:33 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104 ]
ความคิดเห็นที่ 29
ต่อไปเป็นรายการ “แมงฯตอบกระทู้” ตามธรรมเนียม หลังจากปะเรื่องของฉันตอนนี้แล้ว เครื่อง PC ที่ใช้อยู่ก็ถึงกาลชำรุดไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ ผู้สันทัดกรณีย์มาดูให้แล้วแจ้งว่า เมนบอร์ดเสีย ต้องเคลม อาจต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์ชีวิตของแมงฯช่วงนี้จึงลำเค็ญยิ่งนัก นี่หากต้องอยู่โดยไม่มีพีซีไม่มีอินเตอร์เนทจริง ๆ คงต้องชอกช้ำกว่านี้หลายเท่านัก ตอนนี้เลยต้องมายักยอกเอาเครื่องของปองมาใช้ขัดตาทัพไปพลาง ๆ ก่อน ไม่เข้าไม้เข้ามือเหมือนเดิม ผิดพลาดขออภัย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : guest - [ 30 ส.ค. 45 03:32:15 A:133.68.126.131 X: ]
สวัสดีครับ อ่านไม่ออกหรือครับ ยังไม่เห็นบอกว่า “ยอม” เลย ต้องบอกก่อนจึงจะเฉลย แล้วก็ต้องไขรหัสคำว่า โอไดจิอินิ ด้วยว่าแปลว่าอะไร แฮ่ม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : guest (again kha) - [ 30 ส.ค. 45 03:47:08 A:133.68.126.131 X: ] (อีกที)
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องรวมตัวกันอยู่เป็นสังคม เมื่อรวมตัวกันได้แล้วก็ต้องเลือกผู้นำของกลุ่มของสังคมนั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้า มาเป็นผู้นำ ในสมัยก่อนผู้นำส่วนใหญ่จะมีผลต่อการกำหนดแนวคิดของกลุ่มคนนั้น ๆ อย่างรุนแรงเสมอ เนื่องจากเป็นผู้นำได้เพราะแข็งแรงกว่ามีกำลังมากกว่า ผู้นำในสังคมนั้นเชื่อเช่นใด คนในสังคมก็จะถูกบังคับโน้มน้าวให้เชื่อเช่นนั้นเช่นกัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : JW - [ 30 ส.ค. 45 05:10:07 A:142.173.107.180 X: ]
แน่ะมาว่าพี่มากับดวง อ่านต่อไปเรื่อย ๆ แล้วจะเปลี่ยนแนวคิดว่า เออ..พี่เขามากับดวงจริง ๆ แต่เป็น ดวงจับกัง เหนื่อยแฮกไปทั้งชีวิต
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : GTW - [ 30 ส.ค. 45 05:11:16 A:202.133.172.21 X: ]
คุณพี่ GTW แกเป็นคนจริงจังกับชีวิตมาก ชอบอะไรแบบหนัก ๆ อย่างนี้มากกว่าไอ้ที่พร่ำเพ้อหวานแหววจนมดตอมจอเหมือนสี่ห้าตอนที่ผ่านมา..ใครสังเกตบ้างหรือไม่นั่งเงียบเชียว เพิ่งได้ยินเสียงก็ตอนนี้แหล่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ (อุ๊บ อิ๊บ) - [ 30 ส.ค. 45 09:40:02 ]
ขอบคุณครับ ที่จริงชีวิตพี่ในช่วงนั้นก็เป็นได้แค่คนดู แต่ก็ดีใจและถือเป็นบุญมหาบุญแล้วที่เรื่องไม่ได้เกิดในบ้านในเมืองของเรา พวกเราต้องช่วยกันภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงโปรดดลบันดาลให้ประเทศไทยแคล้วคลาดจากเรื่องเลวร้ายแบบนี้ตราบนานเท่านานด้วยเถิด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 30 ส.ค. 45 10:26:55 ]
ขอบคุณครับที่เอาใจช่วยย้อนหลัง เอาน่า หนักนิดเบาหน่อย หลากหลายรสชาติ ชีวิตมิใช่ดอกกุหลาบจะได้หวานชื่อไปตั้งแต่เกิดจนตาย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : พิจิก27 - [ 30 ส.ค. 45 10:44:28 ]
หนักไปหรือครับ ขอโทษทีช่วงนี้หมอสั่งให้เล่นเวทยกน้ำหนักเพื่อละลายความอ้วน เลยหนักธรรมชาติ หนักแบบไม่ได้ตั้งใจ ยังมีหนักกว่านี้อีกครับ โปรดอดใจรอ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : มูโจ้ - [ 30 ส.ค. 45 14:34:16 ]
ขอบคุณครับ สำหรับปิยะวาจา หนังสงครามเวียตนามของฮอลิวู้ดส่วนใหญ่แล้วจะพยายามสร้างให้เป็นแอบสแทรก ดูแล้วเครียด ดูเข้าใจยาก เพราะหากจะทำให้ตรงไปตรงมาแล้วมันชอกช้ำใจนัก บางเรื่องจึงแหกแนวสร้างซุปเปอร์แมนขึ้นมาให้สะใจไปเลย ตัวอย่างหรือ ก็ “แรมโบ้” ไง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : โคอาร่า - [ 30 ส.ค. 45 15:23:49 A:203.156.20.85 X: ]
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านอย่างเหนียวแน่นตลอดมา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : - โอ้โฮ - - [ 30 ส.ค. 45 16:15:14 ]
ขอบคุณครับ คุณโอ้โฮ เป็นแฟนพันธ์แท้อีกท่านหนึ่งที่ติดตามให้กำลังใจกันเสมอมา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : bellissima - [ 30 ส.ค. 45 20:03:57 A:217.162.156.130 X: ]
ใช่แล้วครับ คนเวียตนามนี่ถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับเป็นยิวแห่งเอเซียเลยละครับ สำหรับคุณเพ็ญศรียังเสมอต้นเสมอปลายให้ความเมตตากับแมงฯอยู่เหมือนเดินจนทุกวันนี้ เกือบสามสิบปีแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : Clear Ice - [ 30 ส.ค. 45 22:02:50 ]
คนที่มีมากกว่าแม้จะเสียมากแต่ในอัตราส่วนแล้วก็มักจะเสียน้อยกว่าคนที่มีน้อยกว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เอ๊ะ เขียนเองชักงงเองแล้วงานนี้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : scottie - [ 30 ส.ค. 45 23:12:39 ]
จริงครับ เหมือนหนามยอกอก อย่างไรก็อย่างนั้น พูดถึงทีไร เจ็บวูบไปทุกที
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : หมอปราณ - [ 31 ส.ค. 45 02:46:14 ]
แหม โล่งอกไปอีกเที่ยว คิดว่าคุณหมอปราณจะทิ้งกันเสียแล้ว งานนี้หมอมากับพระ คำว่ากรรมสัมพันธ์นี่ฟังไพเราะจับใจดี เป็นคำเดียวกันกับ “กรรมเวร” หรือเปล่าไม่ทราบครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 31 ส.ค. 45 11:01:17 A:203.148.232.36 X: ]
ขอบคุณครับ ดีใจที่ชอบ ตอนที่ 43 เพิ่งเขียนเสร็จครับ กำลังเกลาอยู่ ช่วงนี้แก่เฒ่าแล้วหูตาไม่ดี พีซีก็เสีย พัลวัลไปหมด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : หมูแดงจ้ะ - [ 31 ส.ค. 45 12:50:19 ]
แหม พลิกบ่อย ๆ ก็งงแย่สิคุณหมูแดง ไม่พลิกหรอกครับงานนี้ แบเบอร์มาเลย ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านมาตลอด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : Licht (Miran) - [ 1 ก.ย. 45 19:52:07 ]
ครับ เห็นเขาว่าคนเลี้ยงกุ้งนี่ก็เหมือนกับเอาเงินไปฝากให้คนอื่นเล่นไพ่ให้นะ ทำได้แค่นั่งลุ้นอย่างเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : biblio - [ 1 ก.ย. 45 21:10:51 ]
ขอบคุณจริง ๆ ครับสำหรับเพลงที่ขอไว้ทั้งสองเพลง เสียใจจังที่ยังดาวน์โหลดไม่ได้เพราะเครื่องพัง หวังว่าคงไม่มีมือดีมาบล๊อกเสียก่อนนะครับ ไม่งั้นละเสียดายแย่เลย เรื่องอเมริกันกับอิรัควิเคราะห์เสร็จเมื่อใดเอามาแบ่งกันอ่านบ้างนะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : Lazy Genius - [ 3 ก.ย. 45 20:05:03 ]
ขอบคุณครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:22:29 A:217.162.80.53 X: ] (อีกที)
เอ..ลุ้นตรงไหนหรือครับ แล้วแก้วนี่ใครหรือครับ ยังไม่ออกสักหน่อย กะว่าอีกตอนสองตอนแก้วจึงจะออก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ : bellissima - [ 3 ก.ย. 45 21:22:29 A:217.162.80.53 X: ] (อีกแล้ว)
ฮ่วย เจ้าตอบผิดกระทู้แล้วยังมาหลอกให้ข้อยตอบผิดตามไปด้วย เฮ็ดอิหยังกะด้อกะเดี้ยแท้น้อ เคยบ่อยนะที่ใจผูกพันอยู่กับอะไรมันมักจะวกไปที่นั่นโดยอัตโนมัติเสมอ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : ศุภา - [ 4 ก.ย. 45 08:59:58 A:24.94.209.67 X: ]
เป็นแฟนตัวจริงเสียงจริงอีกคนครับ มาที่ใด หนักแน่น ข้อมูลเพียบ เป็นประโยชน์และประเทืองความรู้ยิ่งนัก ยินดีตอนรับคุณศุภาเสมอนะครับ แล้วก็ขอบพระคุณสำหรับเนื้อเพลง Little things mean a lot คุณหมูแดงจ้ะน่าจะเขียนเป็นลำนำดูสักตั้งนะครับ ความหมายง่าย ๆ กินใจดีจริง ๆ เชียว เพลงนี้น่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : หมอปราณ - [ 4 ก.ย. 45 16:56:45 ] (อีกที)
แหม งวดนี้คุณหมอมาช้าแต่มาแบบทวินแอ๊กชั่น มีแถม ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับที่ลงมือทำลิงค์ให้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว มือเบ้า เบา สมเป็นหมอ เอ..แบบนี้สงสัยนักว่าคงหยิกไม่ค่อยเจ็บ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
++คุณ : APO96330 - [ 4 ก.ย. 45 17:55:33 A:203.152.14.135 X:10.10.10.104 ]
……………………..
……………..
Yours sincerely,
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากคุณ : แมงฯ - [ 4 ก.ย. 45 22:01:15 A:168.120.26.246 X: ]
ความคิดเห็นที่ 30
ฮ่วย ดาวน์โหลดไม่ทัน มัวแต่ชะล่าใจ โดนบล็อกไปเรียบร้อยแหล่ว
คุณบิ๊บครับ ขอโทษครับ ขอลิงค์ 2 เพลงข้างบนนี้อีกทีได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ : มูโจ้ - [ 5 ก.ย. 45 10:20:09 A:203.144.143.254 X:203.144.134.235 ]
ความคิดเห็นที่ 31
พี่แมงฯ
พี่แมงฯดวงจับกังจริงๆเหรอ
ของนู๋ดวงจับฉ่าย มีอะไรในตู้ก็โยนลงหม้อต้มหมดเลย
ฮ่าๆๆๆ
ช่วงนี้นู๋งานรัดตัวฮ่ะ รีบเก็บเกี่ยวแสงแดดก่อนจะหนาวอีกครั้ง ที่นี่หน้าหนาวจะฝนตกเยอะมากตกพรำๆได้ทั้งวันนะบางที โอกาสเหมาะๆก็ตกมาเป็นหิมะ
พี่แมงฯรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
พวกเรารออ่านตอนที่ 43 อยู่ค่ะ
หวัดดีเดอะคลับด้วยค่ะ
จากคุณ : JW - [ 5 ก.ย. 45 12:32:08 A:142.173.107.180 X: ]
เรื่องของฉัน ตอนที่ 41
ตอนไปถึงคลีนิคบำเพ็ญพยาบาลนั้นยังไม่สว่างดี เห็นพระเพิ่งเริ่มจะออกบิณฑบาตกัน ฉันจอดรถไว้หน้าร้านแล้ววิ่งลงไปกดกริ่งด้วยมือที่สั่นระรัวด้วยความตื่นเต้นผสมกับความเมาเรียกเพียงครั้งเดียว ผู้ช่วยพยาบาลคนหนึ่งก็เดินขยี้ตามาเปิดประตูเหมือนกับว่ารออยู่แล้วพาตุ่มซึ่งเดินตามลงมายืนตัวงออยู่ข้าง ๆ ฉันไปยังห้องเตรียมคลอด จากนั้นฉันก็ได้แต่เดินวนไปวนมาจุดบุหรี่สูบติด ๆ กันมวนต่อมวนอยู่ข้างนอกเพราะเห็นเขาทำกันในหนังและไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีไปกว่านั้น ได้ยินแต่เสียงตุ่มร้องโวย ๆ แว่ว ๆ ว่า เจ็บ..เจ็บ โอ๊ย.เจ็บ สลับกับการร้องเรียกหาแม่ ”แหม่ สิหาแหม่ ฮือ ฮือ” ตอนหลังเจ็บหนักเข้าหรืออาจเกรงว่าฉันที่อยู่ข้างนอนจะไม่รู้ถึงความเจ็บปวดนั้นก็เริ่มร้องดังขึ้นอีกว่า “เจ็บโว้ย เจ็บจริงโว้ย” อยู่เป็นระยะ ๆ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งฟ้าสว่างเต็มที่ เพื่อน ๆ หลายคนที่ขับรถผ่านหน้าคลีนิคเพราะเป็นทางผ่านจะไปหน้าแคมพ์เห็นรถฉันจอดอยู่ก็พากันจอดรถลงมาถามข่าวคราว พอได้ยินเสียงไอ้ตุ่มร้องโวย ๆ อยู่ในห้องคลอดก็รู้ว่าเที่ยวนี้เอาแน่ แต่ก็ต้องรีบขอตัวไปทำงานกันเพราะกลัวว่าจะเปิดแบงค์ไม่ทันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่างานเลิกแล้วจะรีบมาเยี่ยมเพราะทุกคนล้วนตื่นเต้นอยากเห็นหน้าหลานคนใหม่ว่าจะขี้ริ้วเหมือนพ่อหรือขี้เหร่เหมือนแม่ด้วยกันทั้งสิ้น
ลุถึงวันเสาร์แรมหกค่ำ เดือนเจ็ด ปีเถาะ เวลาแปดโมงเช้ายี่สิบนาทีเสียงโวยวายของตุ่มก็เงียบลงแทนที่ด้วยเสียงเล็ก ๆ ของเด็กทารกร้องแว้ ๆ พยาบาลผู้ช่วยซึ่งถามฉันแต่แรกว่าจะเข้าไปให้กำลังใจตุ่มตั้งแต่แรกในห้องทำคลอดหรือไม่แต่ฉันปฏิเสธไปเพราะความหวาดเสียวก็วิ่งออกมาเรียกฉันให้รีบเข้าไปข้างในไว ๆ จะได้เห็นลูกที่เป็นผู้ชายตั้งแต่แรกเกิด เมื่อฉันเข้าไปในห้องคลอดก็เห็นพยาบาลบำเพ็ญหิ้วขาลูกซึ่งเพิ่งจะตัดสายสะดือเสร็จห้อยหัวอยู่ ในความรู้สึกของฉันว่าลูกตัวเล็กมากเนื้อตัวที่เหี่ยวย่นไปทั้งตัวมีคราบสีขาว ๆ และอะไรที่ดูเป็นเมือก ๆ น่าเกลียดติดอยู่เต็มตัวไปหมด ได้แต่นึกในใจว่าลูกช่างน่าเกลียดนัก พยาบาลบำเพ็ญหันมาถามฉันว่า “ดีใจไหม..ได้ลูกผู้ชาย เดี๋ยวอาบน้ำล้างตัวเสร็จแล้วค่อยอุ้มนะ” ฉันก็เออ ๆ คะ ๆ ไปตามเรื่อง หันไปชะโงกดูตุ่มเห็นนอนหลับตาเหงื่อโชกหน้าเหยเกอยู่บนเตียงทำคลอด เลยอดถามแก้เขินไปไม่ได้ว่า “เป็นไง” ตุ่มทำปากตอบกลับมาโดยไม่ออกเสียงทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่ถอดรหัสได้ว่า “เจ็บฉิบหาย”
เมื่อฉันรับลูกที่พยาบาลอาบน้ำให้จนหมดจดห่อตัวด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่จนเหลือเพียงใบหน้าสีชมพูหลับตาพริ้มมาอุ้มแนบไว้กับอกนั้นช่องว่างในชีวิตชั้นก็เต็มตื้นขึ้นมาอีกช่องหนึ่ง ในใจก็คิดขณะที่ก้มหน้าพินิจพิจารณาดูลูกเพียงว่ามนุษย์เกิดใหม่ตัวเล็กกระจ้อยร่อยนี่เองคือสิ่งที่เป็นเลือดเป็นเนื้อเป็นส่วนผสมของฉันและตุ่ม เป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ที่ฉันจะต้องคอยแต่งเติมวาดระบายความรักและสิ่งที่ดีงามทั้งหลายลงไปให้เต็มผืน ทีแอบดีใจเป็นเบื้องแรกคือเนื้อตัวลูกตัวค่อนข้างขาวหน้าตาก็น่าเกลียดน่าชัง ไม่ดำเหมือนแม่ อวัยวะนั้นเล่าก็มีครบถ้วนบริบูรณ์ปากไม่แหว่งเพดานไม่โหว่เหมือนดังที่ไอ้พวกขี้เมาหลายคนพากันทำนายทายทักกันเอาไว้ก่อนหน้านั้น ฉันมองหน้าเล็ก ๆ สีชมพูของลูกอย่างอิ่มเอมพร้อมกับตั้งปณิธานที่เด็ดเดี่ยวไว้เป็นข้อแรกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่มีวันตีลูกเป็นอันขาด
ด้วยเหตุที่คลีนิคบำเพ็ญพยาบาลมีห้องพักที่ดูแล้วไม่น่านอนนัก ตุ่มจึงรบเร้าที่จะกลับไปนอนพักฟื้นที่บ้านหนองประจักษ์ มิใยที่ฉันจะทัดทานให้นอนดูอาการแปลกปลอมสักคืนสองคืนก่อนตุ่มก็ไม่ยอม ในที่สุดหลังจากคลอดลูกได้เพียงสองชั่วโมงตุ่มก็เดินกระย่องกระแย่งกลับมาขึ้นรถได้ด้วยตัวเองโดยมีฉันอุ้มลูกตามไปส่งให้เมื่อตุ่มเข้านั่งในรถได้เรียบร้อยแล้ว ฉันจ่ายค่าทำคลอดซึ่งรวมถึงค่าพยาบาลที่จะตามมาทำแผลแม่ละอาบน้ำทายาสะดือให้ลูกติดต่อกันอีกเจ็ดวันเป็นเงินรวมแปดร้อยห้าสิบบาท
เช้าวันนั้นไม่มีแดดเลยด้วยเป็นต้นฤดูฝนจึงมีเพียงสายฝนเม็ดเล็ก ๆ ตกปรอย ๆ เป็นสายเหมือนกับน้ำมนต์ที่พรมต้อนรับลูกคนแรกของเราเข้าสู่ความวุ่นวายของชีวิตในวันหน้าของเขา
เมื่อกลับถึงบ้านฉันกับ “ไอ้เตื้อง” ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่ตุ่มจ้างเอาจากอำเภอเพ็ญให้มาช่วยซักผ้าถูบ้าน ก็ต้องช่วยกันแปรสภาพห้องรับแขกให้เป็นที่นอนแม่ลูกอ่อนเพราะเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะสะดวกกว่าให้นอนในห้องนอน เนื่องจากในช่วงแรก ๆ คาดการณ์ว่าจะต้องมีแขก (ทั้งที่เป็นไทย เป็นลาว และเป็นฝรั่ง) ไปใครมาเป็นอันมาก กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาเหงื่อโชกไปทั้งคู่ ฉันสังเกตเห็นว่าในชั่วโมงแรก ๆ ของชีวิต ลูกนอนหลับเกือบตลอดเวลา หมอนหนุนหัวซึ่งทำเป็นหน้ากระต่ายสีฟ้าอ่อนนั้นรับหัวน้อย ๆ ของลูกได้พอดี มองไกล ๆ เหมือนกับว่าลูกมีหูเป็นกระต่าย ลูกจะร้องก็ต่อเมื่อทำแฉะหรือหิวนมน้ำเท่านั้นซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่ลูกเป็นเด็กปากหนัก เพราะทั้งฉันและตุ่มต่างก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนมาก่อนในชีวิต หากลูกเป็นเด็กปากพล่อย ร้องไห้ส่งเดชจ้า ๆ ไปทั้งวัน ฉันกับตุ่มคงกลุ้มไปจนทำอะไรไม่ถูกเป็นแน่แท้ ขนาดนาน ๆ ลูกจะร้องสักทียังทำอะไรกันไปไม่ถูกหมดทั้งพ่อใหม่ทั้งแม่ใหม่
พอตกบ่ายพ่อตาแม่ยายพี่ป้าน้าอาน้องสะใภ้จากอำเภอเพ็ญและเพื่อน ๆ ที่ทำงานก็แห่กันมาเต็มบ้านเต็มช่องไปหมด แต่ละคนต่างก็มีของรับขวัญหลานชายคนใหม่ติดไม้ติดมือกันมาถ้วนหน้า ที่เยอะที่สุดก็คงเป็นพวกเมาะเบาะผ้าอ้อม โมบายรูปดอกไม้พลาสติกสีฉูดฉาดซึ่งเมื่อไขลานแล้วจะหมุนไปรอบ ๆ พร้อมกับเสียงเพลงดังกรุ๋งกริ๋ง มาพร้อมกับพวงปลาเงินปลาทองใบลานแบบโบราณ และเสื้อผ้าเด็ก ที่เป็นประโยชน์มากคือผ้าอ้อมเพราะผ้าอ้อมที่ซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งสามโหลนั้นเอาเข้าจริงกลับไม่พอใช้เพราะลูกฉี่เก่งมาก แถมยัง “อึ” ออกมาเป็นสีดำ ๆ ฉันกับตุ่มเห็นเข้าทีแรกก็ตกใจกันจนเกือบสลบ เพราะคิดว่าลูกเป็นอะไร จนเพื่อน ๆ ที่เคยมีลูกแล้วมาบอกว่าเขาเรียกว่า “ขี้เทา” เป็นเรื่องปกติของเด็กเกิดใหม่ จึงค่อยคลายใจไปได้
สมัยนั้นยังไม่มีผ้าอ้อมวิทยาศาสตร์หรืออาจมีแต่หาได้ยากและมีราคาแพงจึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะซื้อหามาฝากกันได้ ผ้าอ้อมซึ่งเป็นผ้าฝ้ายพิมพ์ลายดอกไม้หรือไม่ก็เป็นลายตุ๊กตุ่นตุ๊กตาจุ๋มจิ๋มเมื่อเปื้อนเปียกจะต้องรีบแช่น้ำไว้จะได้ไม่เหม็นหืน พอได้จังหวะก็รีบซักเสียทีก่อนนำขึ้นตากแดดให้แห้งเพื่อนำมาพับไว้ใส่ตระกร้าให้พร้อมใช้ได้ต่อไป ที่เป็นปัญหามากเพราะช่วงนั้นเป็นฤดูฝนที่มีฝนตกฟ้าปิดอยู่เกือบทุกวันทำให้ผ้าอ้อมแห้งไม่ทันใช้ ต้องหาซื้อเพิ่มเติมมาอีกเป็นอันมาก เรื่องการนุ่งผ้าอ้อมเด็กนั้นเป็นเทคนิคทีแรกก็ใช้เพียงผืนเดียวเพราะลูกยังเล็กอยู่ พอตัวโตขึ้นมาอีกหน่อยต้องใช้สองผืน เทคนิคการนุ่งผ้าอ้อมให้ลูกนี้ตุ่มเป็นผู้ค้นพบแล้วนำมาสอนให้กับฉันอีกต่อหนึ่ง
ตุ่มขัดใจแม่ปัญญาไม่ยอมอยู่ไฟแบบโบราณโดยอ้างว่ายุ่งยากไม่รู้วิธีแต่ใช้วิธีฉีดยาแผนฝรั่งเอาแต่เรื่องหนึ่งที่ขัดไม่ได้คือเรื่องการจับลูกนอนคว่ำ ตามที่ฉันอ่านพบมาว่าหากจับลูกนอนคว่ำเสียตั้งแต่เล็ก ๆ ลูกก็จะมีหัวโหนกสวย ทั้งแม่ปัญญา แม่ของฉันเอง และยายเมื่อเห็นฉันจับลูกนอนคว่ำต่างก็โวยวายเสียราวกับว่าโลกจะถล่มทลาย หาว่าฉันนั้นมีจิตใจที่โหดเหี้ยมร้ายกาจนัก จับลูกตัวเองทรมานเสียตั้งแต่เกิดมาใหม่ ๆ จนฉันสุดที่จะทัดทานปล่อยให้ทวดให้ย่าให้ยายจับหลานนอนหงายเสียให้สมใจอยากไปตามเรื่อง เด็กทารกเวลานอนหงายจะมีอาการสะดุ้งแล้วก็ยิ้มคนเดียวเพราะเมื่อยหน้าเป็นพัก ๆ พวกยายพวกย่าก็จะดีใจวิ๊ดว้ายกระตู้วู้ ว่า “แม่ซื้อ” มาหยอกเล่นกับหลานไปโน่นเลย
พ้นจากเรื่องนอนก็มาถึงเรื่องนม ทีแรกทั้งฉันและตุ่มก็ตั้งใจว่าจะให้ลูกกินนมแม่ แต่เอาเข้าจริงพอให้ลูกดูดนมไอ้ตุ่มก็ทำท่าจั๊กกะจี้เสียไม่มีจนฉันพลอยขนลุกไปด้วย ลูกก็หลับหูหลับตาดูดเอาดูดเอาเสียงดังจ๊วบ ๆ ไม่รู้ว่าออกหรือไม่ออกได้ยินแต่เสียงตุ่มบ่นพึมพำว่านมไม่มี นมไม่มี ซึ่งฉันก็เห็นว่าจริงเพราะตุ่มเป็นผู้หญิงที่นมไม่มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลังจากนั้นพอใครมาเยี่ยมฉันจึงมีหน้าที่รีบบอกก่อนที่จะถามกันเสียอีกว่า “ไอ้ตุ่มมันไม่มีนม” แต่ต้องคอยชำเลืองระวังตัวตั้งท่าคอยหลบให้ดีเพราะพูดยังไม่ทันจบต้องมีอะไรที่โดยปกติจะไม่ลอยด้วยตัวของมันเองลอยมาแบบเดาทิศทางได้ยากยิ่งเสมอ ลูกคนแรกของฉันจึงโตเติบใหญ่มาจนมีแรงยืนเท้าสะเอวเถียงพ่อเถียงแม่ได้ฉอด ๆ จนทุกวันนี้ได้เพราะนมวัวผสมสารเคมียี่ห้อเอส 26 โดยแท้
(โปรดอ่านต่อไปได้อีกนิดที่ความคิดเห็นที่ 1)
จากคุณ : แมงกระพรุน - [ 23 ส.ค. 45 02:48:55 A:203.149.43.48 X: ]
ความคิดเห็นที่ 1
ดังที่บอกไว้แล้วว่าลูกคนนี้เป็นคนปากหนัก จะไม่ร้องไห้โยเยโดยไม่จำเป็น ฉันซึ่งรับหน้าที่เป็น “เวรกลางคืน” จึงไม่ต้องตื่นมากลางดึกเพื่อป้อนนมป้อนน้ำหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยนัก เสียแรงที่เตรียมตัวเป็นฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดีด้วยการชะลอการกินเหล้าลงไม่ยอมให้เมาและไม่ยอมออกไปซื้อยาสีฟันตอนค่ำคืนอีกเป็นเด็ดขาดเพราะเห่อลูก ส่วนชื่อของลูกนั้นไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรฉันก็ยืนกรานที่จะตั้งชื่อลูกด้วยตัวเอง ลงทุนไปซื้อหนังสือแนะวิธีตั้งลูกบุตรธิดามาเล่มหนึ่งนั่งพลิกซ้ายพลิกอยู่พักเดียวก็เลือกได้ชื่อสั้น ๆ ว่า “ธิติ” มีชื่อซึ่งทั้งฉันและตุ่มให้ความเห็นชอบลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า “ปอง”
เมื่อฉันโทรศัพท์ไปบอกแม่เรื่องปอง แม่ก็ดีใจหลายที่ได้หลานย่าคนแรกเป็นผู้ชายขมีขมันรีบนั่งรถไฟขึ้นมาเยี่ยมโดยมียายที่อ้อนแม่อีท่าไหนก็ไม่รู้จนแม่ใจอ่อนยอมออกค่ารถให้ตามขึ้นมารับขวัญ “หลานทวด” ที่อุดรด้วย ยายมาเที่ยวนี้ดูแก่ไปเยอะแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระชุ่มกระชวยและบ้าจี้อยู่เหมือนเดิม พอเห็นหน้าหลาน “คุณทวด” ก็รีบขมีขมันเข้าไปอุ้มหลานไปจูบไปกอดพร้อมกับควักสร้อยทองเส้นกระจิ๋วออกมาผูกข้อเท้ารับขวัญหลานก่อนที่จะถูกแม่ซึ่งกลายเป็น “คุณย่า” ไปแล้วแย่งไปอุ้มบ้าง แม่อุ้มไปก็พลิกตัวปองไปทางซ้ายทีขวาทีเหมือนกับจะดูให้แน่ใจว่าหลานมีอวัยวะครบ 32 หรือไม่ พักใหญ่ก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า “เอ..แม่ว่าขามันโก่ง ๆ พิกลนะ” ยายได้ยินดังนั้นก็ได้ทีแย่งคว้าตัวหลานไปทำพิธีดัดขาอาบน้ำรับขวัญฝากแม่ซื้อเสียยกใหญ่ก่อนที่จะสงบลงได้
เที่ยวนี้แม่กับยายพักอยู่ที่อุดรเสียหลายวันสิ่งที่ทั้งสองท่านเป็นห่วงเป็นใยมากที่สุดก็คงเป็นข้อที่ฉันกับตุ่ม “เลี้ยงลูกไม่เป็น” มิใยที่ตุ่มกับฉันจะรับปากรับคำอย่างไรทั้งสองก็หาได้คลายใจไม่ แม่ถึงกับออกปากว่าจะขอหลานไปเลี้ยงที่กรุงเทพซึ่งฉันก็ทัดทานไปในทันทีว่า “ไม่ให้” เป็นตายอย่างไรก็จะขอเลี้ยงลูกกันเอง แม่ก็พูดให้คิดขึ้นมาในทันทีว่า “แล้วเวลาพ่อกับแม่มันไปทำงานจะทำอย่างไร” เพราะที่จริงเรื่องคนเลี้ยงลูกนี้ฉันกับตุ่มไม่เห็นว่ามีความสำคัญแต่อย่างใดในครั้งแรก ด้วยคิดว่าลูกก็มิได้เป็นเด็กที่ร้องไห้โยเยโดยไม่มีเหตุผลอันควรน่าจะฝากไอ้เตื้องดูแลในช่วงกลางวันได้ แต่คิดไปคิดมาก็เริ่มเกิดความวิตกจริตเพราะไอ้เตื้องเองก็เพิ่งจะแตกเนื้อสาวไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนมาก่อน วัน ๆ ก็เอาแต่นอนฟังเพลงลูกทุ่งจะฝากฝีฝากไข้ให้เลี้ยงลูกแบเบาะได้อย่างไรเพราะตุ่มนั้นลางานได้เพียงเดือนเดียวก็ต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม
และแล้วฉันก็หาทางออกได้เมื่อได้ยินเสียงทวีร้องเพลงขี้เมาดังแว่วมาจากหลังบ้านด้วยนึกขึ้นได้ว่าน้องสาวคนเดียวของทวีเพิ่งจะเลิกกันกับผัวที่กรุงเทพฯ พาแม่อพยพมาอยู่กับทวีได้หลายเดือนแล้ว แม่ของทวีซึ่งเป็นหญิงชราท่าทางใจดีอยู่ว่าง ๆ ไม่ได้ทำอะไรได้แต่เดินไปเดินมาทั้งวัน เมื่อฉันออกปากแม่ของทวีก็ตกลงรับงานทันที ฉันกับตุ่มจึงโล่งใจไปอีกเปลาะหนึ่งที่อย่างน้อยก็มีคนที่เคยเลี้ยงลูกจนโตมาแล้วถึงสองคนมาดูแลลูกให้ ไม่ต้องยกให้แม่เอาลูกไปเลี้ยงตามคำขู่
ตอนนี้ตั้งใจให้สั้นกว่าที่เคยเพราะมีแถมรูป “ปอง” เทียบให้ดูระหว่างตอนที่มีอายุ 3 วันกับตอนที่มีอายุ 7,671 วัน
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 23 ส.ค. 45 02:53:07 ]
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจต้องการอ่านหรือคิดถึงต้องการกลับไปเยี่ยมเยียนตอนเก่า ๆ ของ “เรื่องของฉัน” ก็โปรดหาความสำราญได้ตามอัธยาศัยโดยเชื่อมต่อผ่านบัญชีลิงค์ที่จัดทำไว้ข้างล่าง เพื่อความสะดวกของท่าน ดังนี้
ตอน 1 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1436965/W1436965.html
ตอน 2 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1440773/W1440773.html
ตอน 3 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1443117/W1443117.html
ตอน 4 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1445429/W1445429.html
ตอน 5 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1456012/W1456012.html
ตอน 6 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1460357/W1460357.html
ประมวลภาพ http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1490077/W1490077.html
ตอน 8 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1464968/W1464968.html
ตอน 9 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1470662/W1470662.html
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1477240/W1477240.html
ตอน 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1481216/W1481216.html
ตอน 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1485998/W1485998.html
ตอน 13 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1494536/W1494536.html
ตอน 14 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1499324/W1499324.html
ตอน 15 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1504247/W1504247.html
ตอน 16 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1508332/W1508332.html
ตอน 17 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1514598/W1514598.html
ตอน 18 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1520834/W1520834.html
ตอน 19 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1523540/W1523540.html
ตอน 20 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1529607/W1529607.html
ตอน 21 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1534304/W1534304.html
ตอน 22 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1540028/W1540028.html
ตอน 23 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1544259/W1544259.html
ตอน 24 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1548649/W1548649.html
ตอน 25 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1555260/W1555260.html
ตอน 26 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1560823/W1560823.html
ตอน 27 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1566759/W1566759.html
ตอน 28 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1573112/W1573112.html
ตอน 29 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1575450/W1575450.html
ตอน 30 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1582032/W1582032.html
ตอน 31 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1583775/W1583775.html
ตอน 32 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1590782/W1590782.html
ตอน 33 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1596804/W1596804.html
ตอน 34 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1607455/W1607455.html
ตอน 35 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1621948/W1621948.html
ตอน 36 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1637369/W1637369.html
ตอน 37 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1652212/W1652212.html
ตอน 37/1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1655967/W1655967.html
ตอน 38 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1665734/W1665734.html
ตอน 39 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1680517/W1680517.html
ตอน 40 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1694257/W1694257.html
หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็ที่ Off-Site backup ที่นี่ครับ
http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=jellyfish
ด้วยความปรารถนาดี
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 23 ส.ค. 45 02:56:08 ]
ความคิดเห็นที่ 3
ตรวจสอบบัญชีลิงค์อีกครั้งหนึ่งแล้ว พบว่ามีข้อผิดพลาดจึงขอแก้ไขบัญชีลิงค์ตอนที่ 10 – 12 เสียใหม่ดังนี้
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1477240/W1477240.html
ตอน 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1481216/W1481216.html
ตอน 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1485998/W1485998.html
ขออภัยในความผิดพลาดครับ
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 23 ส.ค. 45 03:18:03 ]
ความคิดเห็นที่ 4
เย้ ดีใจจัง ตอนที่ 41 อุ๊บอิ๊บ มาเป็นคนแรก
ขอ post ก่อนนะครับ
จากคุณ : อุ๊บ อิ๊บ - [ 23 ส.ค. 45 08:39:00 A:203.147.4.197 X: ]
ความคิดเห็นที่ 5
อ่านถึงตอนไม่มีนมแล้วขำกลิ้งเลยค่ะ แม่ซื้อคืออะไรคะ?
จากคุณ : scottie - [ 23 ส.ค. 45 09:49:36 ]
ความคิดเห็นที่ 6
และแล้ว...วันนี้หลานชายก็มาโชว์โฉมอีกคน ผมว่าหน้าตาแกเหมือนพี่ตุ่มแม่แกนิ...พี่แมงฯ
จากคุณ : พิจิก27 - [ 23 ส.ค. 45 09:52:52 A:202.129.29.44 X: ]
ความคิดเห็นที่ 7
ป๊าด...นึกว่านายแบบที่ไหน...สาวๆติดตรึมชัวร์ ตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ ว่าจะมาสร้างหน้ารวมลิงค์ให้แต่ช้าไปต๋อยแล้วค่ะ ตอนเด็กๆเค้าก็ว่าแม่ซื้อคือ จะใช้คำว่าอะไรดีล่ะ อืม.... Guardian ของเด็กน้อยคอยปกป้องคุ้มครองภัยอ่ะค่ะ น่าจะได้ใจความประมาณเนี้ย...
-------------------------------------------------------------------------------------------
คุยเรื่องไปเที่ยวมาให้ฟังนิดนึง ไปเที่ยวเกาะแวนคูเวอร์มาค่ะ นั่งเรือเฟอรี่ไป ชั่วโมงกว่าๆถึง แล้วไปทำคอนแทคเลนส์หายไปข้างหนึ่ง แว่นสำรองก็ไม่ได้เอาไปด้วยเลยได้รูปมาหน่อยเดียว ไปเที่ยวแล้วคิดถึงบ้านกันค่ะ อยู่บ้านดีๆไม่ว่าดี ว่าแล้วก็วางแผนเที่ยวต่อค่ะ ฮี่ๆๆๆ
จากคุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 10:49:38 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 8
Thank you ka, Khun Mang-ga-prun. Khun JW ka, where is the Vancouver Island? Are you talking about Vancouver in British Columbia, Canada? (I am confused ka because if it in British Columbia, it should be Victoria that you need to take a ferry na ka.)
จากคุณ : B - [ 23 ส.ค. 45 12:43:24 A:134.173.10.70 X: ]
ความคิดเห็นที่ 9
ว่าจะโพสรูปให้ดูแต่โหลดรูปลงคอมฯไม่ได้น่ะ คุณบี เข้าใจถูกแล้วค่ะ เจอยู่ที่บีซี นั่งเฟอรี่ไปที่เกาะค่ะ แต่ไปลงที่เมืองนาไนโม มันจะอยู่กลางๆหน่อย เมืองวิคตอเรียจะอยู่ทางใต้ ขับรถขึ้นมาทางเหนืออีกไปที่เมืองคอร์ทนี กับโคมอซ ลืมถามพี่แมงฯว่าน้องปองเรียนจบที่ม. อะไรน่ะค่ะ ครุยสีฟ้านี่คณะอะไรคะ ขอทักทายแฟนคลับด้วยค่ะ
จากคุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 13:16:57 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 10
โห น้องปอง ตอน 3 วัน จ้ำหม่ำจังเลยค่ะ โตมาแล้วหล่อเหลาเชียว เรื่อง "แม่ซื้อ" เคยได้ยินมาเหมือนที่น้องเจย์ว่านะคะ คล้ายๆ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ วิญญาณ หรืออะไรก็ไม่รู้ ที่จะคอยปกป้องเด็กแรกเกิด เวลาที่จู่ๆ เด็กก็หัวเราะหรือยิ้มขึ้นมา เขาเชื่อกันว่าแม่ซื้อกำลังหยอกล้ออยู่ แต่ทำไมเรียกว่าแม่ซื้อ ไม่เรียกว่าแม่ขาย ก็ไม่รู้นะคะ อิอิ
จากคุณ : - โอ้โฮ - - [ 23 ส.ค. 45 13:19:50 ]
ความคิดเห็นที่ 11
อ่า ลิ้งค์แรกๆ อยู่ตรงไหนคะ ได้โปรดดดด อยากอ่านค่ะ
จากคุณ : bee007 - [ 23 ส.ค. 45 17:18:35 ]
ความคิดเห็นที่ 12
ทักทายค่ะ..ทักทายทุกคน น้องเจ....สนุกไหมคะ น้องโอ้โฮ น้อง scottie น้องพิจิก 27 และ to คุณอุ๊บอิ๊บ คุณ B คุณbee007 เวลคัมทู"เดอะคลับ" ค่ะ เอ...ลิงค์แรกๆรวมอยุ่ข้างบนนะคะ คุณ bee007ช่วยดูคคห.ที่สองค่ะ แหม..ช่วยเชียร์คุณตุ่มตอนเจ็บท้องเลยค่ะ แต่พอเห็นลูกแล้วลืมเจ็บลืมปวดเป็นปลิดทิ้ง นะคะ ที่จริงตอนนี้เขาให้"คุณพ่อ"เข้าไปร่วมขบวนการเจ็บด้วย ไม่ให้ยืนสบายอยู่ข้างนอกค่ะ อิ..อิ..และทางหมอว่ากันว่า มีเจ็บปวดสามอย่างในกระบวนความเจ็บที่สุดๆคือ ปวดฟัน ปวดนิ่ว และปวดท้องคลอดค่ะ นึกถึงตัวเองนั้น นอกจากเจ็บอยู่นานแล้วยังโดนเฉือนแหวะท้องออกมาอีกค่ะอิ๊..อิ๊..แถมหลังจากเจ็บอยู่ 12 ชม.แล้วนั้น หมอดมยายังมาให้เลือก อีกว่าต้องการดมยาหรือแทงหลัง โธ่.. ไม่มีสติจะเลือกแล้วค่ะ ตอนนั้น...ตอบไปว่า whatever แล้วผลอยไปเลย ตื่นมาอีกที เห็นลูกจ้องหน้า เราเป๋งเลยค่ะ....ว่าแต่ บทนี้หนูปองมาอ่านไหมคะนี่
จากคุณ : ปราณ - [ 23 ส.ค. 45 18:26:07 ]
ความคิดเห็นที่ 13
เข้ามาช้าไปนิดแต่ต้องมาแน่นอนค่ะ...หวัดดีทู้กท่านค่ะ และ"ปอง"น่ารักดีค่ะ...มีความสุขทุกวันนะคะ
จากคุณ : ริมเส้นขอบฟ้า - [ 23 ส.ค. 45 19:23:00 ]
ความคิดเห็นที่ 14
มาช้าแต่ก็มา อิอิ
จากคุณ : GTW - [ 23 ส.ค. 45 20:12:17 A:202.133.156.104 X: ]
ความคิดเห็นที่ 15
"เจ็บฉิบหาย" สั้นๆ แต่กินใจ...อิ๊บอ๋าย พี่แมงฯ เบลว่า ปองกะเบลนี่น่าจะเหมาะกันนะพ่อ เอ๊ย...พี่ เบลเกิด แรม 4 ค่ำ เดือนเจ็ด ปีขาล (แก่กว่าปีเดียวไม่เป็นไรเนาะ) 8.30 น. เป๊ะ ทักทายมิตรรักนักอ่านทุกท่านด้วยค่ะ
จากคุณ : bellissima - [ 24 ส.ค. 45 04:43:36 A:217.162.156.85 X: ]
ความคิดเห็นที่ 16
@^_^@
จากคุณ : Taratorn - [ 24 ส.ค. 45 06:08:32 A:194.80.32.12 X:10.38.40.120 ]
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านแล้ว เห็นภาพเลยค่ะ "แหม่ สิหาแหม่ ฮือ ฮือ" นึกถึงวันคลอดเจ้าคนแรก ชัดเจนเลยค่ะ เจ็บมากๆ เจียนจะตาย คิดถึงแม่คนแรก พอได้ลูกมา รักลูกและรักแม่เพิ่มขึ้นอีกเป็นกองเลย (เอ้อ...น้องปองน่ารักนะค่ะ เหมือนนายแบบเลย :)
จากคุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 24 ส.ค. 45 14:25:20 A:203.148.232.36 X: ]
ความคิดเห็นที่ 18
เวลาถามแม่เกี่ยวกับเรื่องเลี้ยงเด็กทีไรก็เห็นว่าลำบากทุกที แม่นี่เก่งจริงๆที่สู้รบกับเราได้ ... ตอนนี้เราก็ต้องมาเลี้ยงลูก แต่เป็นลูกกุ้ง แต่ยังกะเด็กเล็กๆ ต้องให้อาหารทุก 4 ชั่วโมง ถ้ากินหมดเร็วก็ต้องให้เพิ่มอีกทุกๆ 2 ชั่วโมง ต้องคอยดูน้ำ ดูดตะกอน ดูว่าแข็งแรงไหม แสนสนุก
จากคุณ : Licht (Miran) - [ 24 ส.ค. 45 19:37:50 ]
ความคิดเห็นที่ 19
บทเพลงพระราชนิพนธ์ คำหวาน ที่พี่แมงขอไว้ในการตอบกระทู้ครั้งที่แล้วครับ มีสองเวอร์ชัน แบบมีเนื้อร้องกับแบบบรรเลง จะสังเกตเห็นว่าจังหวะความเร็วช้าต่างกัน เนื่องจากความเหมาะสมในการใส่คำร้อง
เพลงพระราชนิพนธ์คำหวาน: Sweet Words เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๐ ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาคภาษาอังกฤษและภาษาไทย
http://www.angelfire.lycos.com/jazz/kingsong/KamWarn.mp3
http://www.angelfire.lycos.com/jazz/kingsong/SweetWords.mp3
จากคุณ : biblio - [ 24 ส.ค. 45 20:52:55 ]
ความคิดเห็นที่ 20
ตามมาดูรูปได้ที่นี่ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H1712268/H1712268.html#19
ไม่ได้ใบ้หวยนะคะ
ฮ่าๆๆๆๆ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [ 25 ส.ค. 45 05:26:16 ]
ความคิดเห็นที่ 21
อิอิ...ยังตามอ่านอย่างติดหนึบค่ะ...เป็นความเรียงที่มีหลายรสชาติมาก :)
จากคุณ : โคอาร่า - [ 25 ส.ค. 45 15:30:35 A:203.156.23.184 X: ]
ความคิดเห็นที่ 22
อะโห..คุณปองอายุสามวัน ทำผมทรงเบ็คแฮมซะด้วย ฮ่า ๆๆๆ โตขึ้นแล้วหน้าหวานจังแฮะ เอิ๊กส์ ขำพี่ตุ่มง่ะค่ะ "เจ็บฉิบหาย" สั้น ๆ แต่ได้ใจความ ฮี่ ๆ รออ่านต่อค่ะ ^^
จากคุณ : Clear Ice - [ 25 ส.ค. 45 22:01:20 ]
ความคิดเห็นที่ 23
พี่ตุ่มเข้าใจเอาสองภาพมาคู่กันนะ คนดูต้องตะลึง..ตะลึง..ตึง..ตึง...ลูกชายยิ้ม..น่ารักมากค่ะ..คนดูเห็นแล้วต้องแล้วต้องยิ้มตอบกลับไปด้วย..ดีใจด้วยนะคะ..ย้อนหลังความสุขในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 26 ส.ค. 45 10:26:26 ]
ความคิดเห็นที่ 24
________________________________________________________________________________________
ก่อนอื่นคงต้องขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามอ่านเรื่องของฉันมาอย่างเหนียวแน่นจนย่างเข้าถึงตอนที่ 42 แล้ว ที่ต้องยอมรับกับทุกท่านว่าเชยมากคือเขียนกันไปอ่านกันมาตั้งนมนานเพิ่งจะเห็นชื่อ “เรื่องของฉัน” ปรากฏอยู่ในหน้าแรกของ โต๊ะห้องสมุด แล้วมีรูปมือยกนิ้วหัวแม่โป้งด้วย ธรรมดาไม่เคยหยุดแวะหน้านี้จะตรงเข้าไปยัง “ถนนนักเขียน” เลย ทราบมาว่าเรื่องที่จะปรากฏตรงนี้ได้ต้องมีผู้อ่านสละเวลาโหวตให้ จึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ และขออภัยที่กระเปิ้บกระป้าบจนไม่ได้สังเกตและไม่ได้กล่าวคำขอบคุณไว้ก่อนหน้านี้ ต่อไปเป็นรายการตอบคำถามตามประเพณีปฏิบัติอันดีงามครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ - [ 23 ส.ค. 45 08:39:00 A:203.147.4.197 X: ]
ขอแสดงความยินดีครับที่ได้อ่านตอนนี้เป็นคนแรกอุตส่าห์เข้ามาเช็คตั้งวันละห้าหกครั้ง เกรงใจจริง ๆ แต่นี่ดีนะที่กลุ่มแม่บ้านคอนคาเค้ฟเขามีนัดประชุมวิสามันกัน เลยกลับมาไม่ทัน
________________________________________________________________________________________
++คุณ : scottie - [ 23 ส.ค. 45 09:49:36 ]
ถึงกับกลิ้งเลยหรือครับ พอจะนึกภาพออกละว่า หากหุ่นผอม ๆ เพรียว ๆ คงกลิ้งไม่ได้เป็นแน่ เกี่ยวกับเรื่องแม่ซื้อ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า [น] เทวดาหรือผีที่ประจำทารก ขยายความโดยคัดลอกจากหนังสือเลขที่ ISBN 974-89015-6-4 เป็นความรู้เพิ่มเติมดังนี้ คนโบราณเชื่อว่า มนุษย์ที่จะเกิดมานั้นผีจะปั้นเป็นหุ่นขึ้นมาก่อน แล้วจึงหาวิญญาณมาใส่ จากนั้นจึงส่งมาเกิดในครรภ์สตรี ในอดีตการแพทย์ยังไม่เจริญเด็กที่มาเกิดจะมีโอกาสตายหรือรอดพอพอกัน เด็กที่ตายมักตายภายใน 3 วันอันเป็นที่มาของคำแช่งที่ขอให้ตายภายใน 3 วัน 7 วัน เชื่อกันว่าเพราะแม่ผีที่ปั้นหุ่นนั้นเห็นว่าเด็กน่ารัก จึงทำให้เด็กตายเพื่อนำไปเลี้ยงดูเอง ถ้าผีไม่ชอบใจจึงจะปล่อยให้มนุษย์เลี้ยง นี่เองจึงเป็นเหตุให้คนในสมัยก่อนเมื่อเห็นเด็กอ่อนแรกคลอดจะต้องรีบทำพูดว่า “น่าเกลียดน่าชัง” เพื่อหลอกมิให้ผีมาเอาเด็กไปเลี้ยง (เดี๋ยวนี้พูดกันเพี้ยนไปเป็นน่ารักน่าชักเสียแล้วเลยไม่รู้เรื่องกันไปทั้งผีทั้งคน) ชื่อเด็กนั้นก็ต้องตั้งให้น่าเกลียดน่ากลัวเข้าไว้ เช่น หอย อึ่ง ปิ๊ด หมึก อ่าง เป็นต้น พอเด็กเกิดมาแล้วตัวแม่เองก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจ (ที่จริงหมดแรงต่างหาก) เพื่อหลอกผีว่าแม้แต่แม่ของเด็กเองยังเกลียด หมอตำแยจะต้องเอาเด็กใส่กระด้ง ร่อนเบา ๆ แล้วร้องว่า “สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใครมารับไปเด้อ” หากมีการเตรียมการกันไว้ก่อนจะต้องหาหญิงใจดี เลี้ยงลูกเก่งมาเป็น “แม่ซื้อ” โดยหญิงนั้นจะขอซื้อเด็กจากหมอตำแย ให้สตางค์แก่หมอตำแยเล็กน้อยพอเป็นพิธีว่าได้ซื้อเด็กไปแล้วผีห้ามมาแย่งคืน แต่หากไม่มีหญิงมารับเป็นแม่ซื้อหน้าม้า หมอตำแยก็จะรับเป็นแม่ซื้อเสียเอง ส่วนฝรั่งนั้นไม่เชื่อเรื่องผี จึงเรียก “แม่ซื้อ” เป็นเทวดาประจำตัวเด็ก Guardian Angle ไป
________________________________________________________________________________________
จากคุณ : พิจิก27 - [ 23 ส.ค. 45 09:52:52 A:202.129.29.44 X: ]
เอ..จะขัดใจกันก็ตรงนี้แหล่ะ มีแต่คนเขาว่า “ขี้เหร่เหมือนพ่อ”
________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 10:49:38 A:142.173.107.180 X: ]
แหมนี่ถ้าไม่รู้จักน้องเจย์มาก่อนนะ ได้ยินเสียงร้องอุทานว่า “ป๊าด” นี่ต้องนึกว่าลาวมาเองแน่นอน คนลาวจะนิยมอุทานคำว่า ปัดติโถะ กันจนติดปาก ภายหลังเห็นว่ายาวนักเลยย่อเหลือเพียง “ป๊าด” แบบที่น้องเจย์อุทานเปี๊ยบเลย แนะเห็นมะ คุณ Scottie น้องเจย์ยืนยันอีกคนแล้วนะ เรื่อง Guardian Angle
________________________________________________________________________________________
++คุณ : B - [ 23 ส.ค. 45 12:43:24 A:134.173.10.70 X: ]
ยินดีต้อนรับครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 13:16:57 A:142.173.107.180 X: ] (อีกที)
ครุยสีฟ้าก็คณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้า จบบัญชี-บัญชี กว่าจะจบแทบตาย แต่จบแล้วกลับไม่ได้ใช้วิชา ไปเป็นคนขายหุ่นยนต์ ตอนนี้เรียน MBA ที่เอแบคภาคค่ำทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยกำลังจะจบแล้วผอมเสียจนคนทักว่าไม่มีลำไส้ พ่อก็หมดแรงส่งพอดี
________________________________________________________________________________________
++คุณ : - โอ้โฮ - - [ 23 ส.ค. 45 13:19:50 ]
ขอบคุณครับ ทีนี้รู้แล้วนะครับว่าทำไมเขาจึงไม่เรียก “แม่ขาย”
________________________________________________________________________________________
++คุณ : bee007 - [ 23 ส.ค. 45 17:18:35 ]
หาตัวเชื่อมเจอหรือยังไม่ทราบครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : หมอปราณ - [ 23 ส.ค. 45 18:26:07 ]
แหม คุณหมอปราณมาคราวนี้เขย่าขวัญดีแท้ แมงฯมีนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีตั้งหลายเม็ด ยังไม่ได้ไปเอาออกเลย กะว่าจะรอให้ปวดเสียก่อนค่อยไปให้หมอเจาะพุงเอาออก ไฉนเลยหมอปราณมาขู่กันได้ว่าปวดนิ่วนั้นสาหัสนักจนข้าน้อยชักจะหวั่นไหว ชักเสียวจริง ๆ แล้วสิเรา ปองยังไม่ได้อ่านเลยครับ เรียกให้อ่านอยู่เหมือนกัน เห็นทำหน้าเบ้ ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าแปลว่าอะไร
________________________________________________________________________________________
++คุณ : ริมเส้นขอบฟ้า - [ 23 ส.ค. 45 19:23:00 ]
สวัสดีครับ ตกลงรูปสมุนน่ารักที่เอามาแบ่งกันชมนี่น่ะ เป็นตัวจริงจริงหรือเปล่าครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : GTW - [ 23 ส.ค. 45 20:12:17 A:202.133.156.104 X: ]
“มาช้าแต่ก็มา อิอิ“ ตื้นตันจริง ๆ ครับคุณพี่ ค่อย ๆ เดินก็ได้ครับ ระวังจะหกล้มหกลุกไป
________________________________________________________________________________________
++คุณ : bellissima - [ 24 ส.ค. 45 04:43:36 A:217.162.156.85 X: ]
เอ๊า..ถ้าอย่างนั้นน้องเอ๊ยหลานเบลก็ต้องซ้อมเรียก “อาแมงฯ” เป็นการอุ่นเครื่องไว้ก่อน แล้ว “อา” จะช่วยเชียร์ให้ ว่าแต่ว่า พ่อหนุ่มมาดเข้มที่นั่งหน้ายุ่งอยู่ในรูปด้วยกันเมื่อวันก่อนน่ะจะยอมรื้อ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : Taratorn - [ 24 ส.ค. 45 06:08:32 A:194.80.32.12 X:10.38.40.120 ]
ถามลูกชายคนเล็กแล้ว เห็นบอกว่า ^-^ แปลว่ายิ้มธรรมดา แต่ถ้า @^_^@ แปลว่าคนยิ้มใส่แว่น
________________________________________________________________________________________
++คุณแม่ลูกสาม - [ 24 ส.ค. 45 14:25:20 A:203.148.232.36 X: ]
ครับ รู้แล้วพวกเรารักแม่กันให้มาก ๆ นะครับ อ้อ ขอบคุณครับที่ชมว่าปองน่ารัก น่ารักจริงครับ แต่นิสัยไม่ดี อายุเกือบจะสามสิบอยู่รอมร่อแล้วยังไม่เลิกไถเงินพ่อใช้สักที
________________________________________________________________________________________
++คุณ : Licht (Miran) - [ 24 ส.ค. 45 19:37:50 ]
เอาใจช่วยนะครับ ซ้อมไว้ครับ เลี้ยงลูกกุ้งก็ดีไปอย่างที่เลี้ยงแล้วมักจะได้เงิน แต่เลี้ยงลูกคนโอกาสได้เงินมีน้อยมาก
________________________________________________________________________________________
++คุณ : biblio - [ 24 ส.ค. 45 20:52:55 ]
นึกแล้วว่าต้องไม่ผิดหวัง ขอบคุณจริง ๆ ครับ ไพเราะจริง ๆ ครับ เชื่อว่าคนคงจะโหลดไปฟังกันตรึม (ยกเว้นน้องเจย์) ไม่ทราบนักร้องชื่อคุณวิยะดาหรือเปล่าครับ คุณบิ๊บพอจะทราบไหมครับว่าใครเป็นคนทำดนตรี (เรียบเรียงเสียงประสาน) ต่อเนื่องนะครับไม่เกรงใจนะครับ เดี๋ยวจะเสียจังหวะ ขอเพลง Little things mean a lot ด้วยได้ไหมครับ มีกี่เวอร์ชั่นเอาหมดเล้ย
________________________________________________________________________________________
++คุณ : โคอาร่า - [ 25 ส.ค. 45 15:30:35 A:203.156.23.184 X: ]
แหม หายหน้าไปนาน คิดถึงจัง คิดว่าคุณหมีโคฯหนีไปทำ “ไข่เคาะ” ขายอยู่ที่ไหนเสียแล้ว
________________________________________________________________________________________
++คุณ : Clear Ice - [ 25 ส.ค. 45 22:01:20 ]
ภาษาไทยแท้ ๆ มักจะให้ความหมายในเชิงความรู้สึกได้จะแจ้งตรงประเด็นเสมอโดยไม่ต้องขยายความให้เยิ่นเย้อ เสียดายว่าคำไทยแท้ ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกมองถูกจัดให้เป็นคำหยาบช้าสามาลย์ไปเสียฉิบ คนเลยแหยงไม่ค่อยกล้าที่จะนำมาใช้กัน น้องไอ้ซ์นี่ช่างสังเกตนะเรื่องผมทรงแบ็คส์น่ะ เหมือนจริง ๆ ด้วย
________________________________________________________________________________________
++คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 26 ส.ค. 45 10:26:26 ]
เห็นยิ้ม ๆ อย่างนี้แหล่ะครับ โหดเหี้ยมไร้ปราณีนัก..เวลาหน้ามืดจะไถเงินพ่อ
________________________________________________________________________________________
พรุ่งนี้อย่าลืมนะครับ “เรื่องของฉัน” ตอนที่ 42 ที่เก่าเวลาเดิม ตอนนี้อาจจะหนักไปนิดสำหรับหลาย ๆ คน แต่ก็สนุกเหมือนเดิมนะ
________________________________________________________________________________________
จากคุณ : แมงฯ - [ 29 ส.ค. 45 02:23:53 A:203.149.39.218 X: ]
ความคิดเห็นที่ 25
เป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นเช่นกันคะ เขียนความเรียงได้น่าอ่านจริงๆ ชื่นชมคุณยิ่งนัก :-)
จากคุณ : เพลง - [ 29 ส.ค. 45 05:57:52 A:203.113.34.239 X: ]
ความคิดเห็นที่ 26
ธ่อ...พี่แมงฯ เพิ่งจะเห็นกระทู้แนะนำหรือนี่ หวังว่าแควนๆที่โหวตให้ไม่น้อยใจไปก่อนนะ เรื่องป๊าด...นั้น เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นทอมมาจีบเพื่อนอีกที ทอมนี้เป็นคนอีสาน ตลกมาก ฮาสุดๆ เค้าก็ชอบอุทานว่า ป๊าด...บ่อย และดังๆ เลยเอามาใช้บ้างเพื่อให้เข้ากับท้องเรื่อง แหะๆๆ เพิ่งรู้ว่าน้องปองเป็นรุ่นน้องสถาบันเดียวกันอีกแล้ว เจเรียนภาคกลางวันจบเมื่อปี 1999 นี้เอง ตอนนั้นค่าหน่วยกิต หน่วยละ 3000 ตอนนี้คงซัก 3500 หรือ 4000 ได้แล้วมั้ง ทำไมโลกนี้กลมจริงหนอ
จากคุณ : JW - [ 29 ส.ค. 45 12:19:11 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 27
พี่แมงฯแปะตอน 42 แล้วนะ ตามไปดูได้ที่ถนนนักเขียนค่ะ
จากคุณ : JW - [ 30 ส.ค. 45 05:11:41 A:142.173.107.180 X: ]
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งฟ้าสว่างเต็มที่ เพื่อน ๆ หลายคนที่ขับรถผ่านหน้าคลีนิคเพราะเป็นทางผ่านจะไปหน้าแคมพ์เห็นรถฉันจอดอยู่ก็พากันจอดรถลงมาถามข่าวคราว พอได้ยินเสียงไอ้ตุ่มร้องโวย ๆ อยู่ในห้องคลอดก็รู้ว่าเที่ยวนี้เอาแน่ แต่ก็ต้องรีบขอตัวไปทำงานกันเพราะกลัวว่าจะเปิดแบงค์ไม่ทันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่างานเลิกแล้วจะรีบมาเยี่ยมเพราะทุกคนล้วนตื่นเต้นอยากเห็นหน้าหลานคนใหม่ว่าจะขี้ริ้วเหมือนพ่อหรือขี้เหร่เหมือนแม่ด้วยกันทั้งสิ้น
ลุถึงวันเสาร์แรมหกค่ำ เดือนเจ็ด ปีเถาะ เวลาแปดโมงเช้ายี่สิบนาทีเสียงโวยวายของตุ่มก็เงียบลงแทนที่ด้วยเสียงเล็ก ๆ ของเด็กทารกร้องแว้ ๆ พยาบาลผู้ช่วยซึ่งถามฉันแต่แรกว่าจะเข้าไปให้กำลังใจตุ่มตั้งแต่แรกในห้องทำคลอดหรือไม่แต่ฉันปฏิเสธไปเพราะความหวาดเสียวก็วิ่งออกมาเรียกฉันให้รีบเข้าไปข้างในไว ๆ จะได้เห็นลูกที่เป็นผู้ชายตั้งแต่แรกเกิด เมื่อฉันเข้าไปในห้องคลอดก็เห็นพยาบาลบำเพ็ญหิ้วขาลูกซึ่งเพิ่งจะตัดสายสะดือเสร็จห้อยหัวอยู่ ในความรู้สึกของฉันว่าลูกตัวเล็กมากเนื้อตัวที่เหี่ยวย่นไปทั้งตัวมีคราบสีขาว ๆ และอะไรที่ดูเป็นเมือก ๆ น่าเกลียดติดอยู่เต็มตัวไปหมด ได้แต่นึกในใจว่าลูกช่างน่าเกลียดนัก พยาบาลบำเพ็ญหันมาถามฉันว่า “ดีใจไหม..ได้ลูกผู้ชาย เดี๋ยวอาบน้ำล้างตัวเสร็จแล้วค่อยอุ้มนะ” ฉันก็เออ ๆ คะ ๆ ไปตามเรื่อง หันไปชะโงกดูตุ่มเห็นนอนหลับตาเหงื่อโชกหน้าเหยเกอยู่บนเตียงทำคลอด เลยอดถามแก้เขินไปไม่ได้ว่า “เป็นไง” ตุ่มทำปากตอบกลับมาโดยไม่ออกเสียงทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่ถอดรหัสได้ว่า “เจ็บฉิบหาย”
เมื่อฉันรับลูกที่พยาบาลอาบน้ำให้จนหมดจดห่อตัวด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่จนเหลือเพียงใบหน้าสีชมพูหลับตาพริ้มมาอุ้มแนบไว้กับอกนั้นช่องว่างในชีวิตชั้นก็เต็มตื้นขึ้นมาอีกช่องหนึ่ง ในใจก็คิดขณะที่ก้มหน้าพินิจพิจารณาดูลูกเพียงว่ามนุษย์เกิดใหม่ตัวเล็กกระจ้อยร่อยนี่เองคือสิ่งที่เป็นเลือดเป็นเนื้อเป็นส่วนผสมของฉันและตุ่ม เป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ที่ฉันจะต้องคอยแต่งเติมวาดระบายความรักและสิ่งที่ดีงามทั้งหลายลงไปให้เต็มผืน ทีแอบดีใจเป็นเบื้องแรกคือเนื้อตัวลูกตัวค่อนข้างขาวหน้าตาก็น่าเกลียดน่าชัง ไม่ดำเหมือนแม่ อวัยวะนั้นเล่าก็มีครบถ้วนบริบูรณ์ปากไม่แหว่งเพดานไม่โหว่เหมือนดังที่ไอ้พวกขี้เมาหลายคนพากันทำนายทายทักกันเอาไว้ก่อนหน้านั้น ฉันมองหน้าเล็ก ๆ สีชมพูของลูกอย่างอิ่มเอมพร้อมกับตั้งปณิธานที่เด็ดเดี่ยวไว้เป็นข้อแรกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่มีวันตีลูกเป็นอันขาด
ด้วยเหตุที่คลีนิคบำเพ็ญพยาบาลมีห้องพักที่ดูแล้วไม่น่านอนนัก ตุ่มจึงรบเร้าที่จะกลับไปนอนพักฟื้นที่บ้านหนองประจักษ์ มิใยที่ฉันจะทัดทานให้นอนดูอาการแปลกปลอมสักคืนสองคืนก่อนตุ่มก็ไม่ยอม ในที่สุดหลังจากคลอดลูกได้เพียงสองชั่วโมงตุ่มก็เดินกระย่องกระแย่งกลับมาขึ้นรถได้ด้วยตัวเองโดยมีฉันอุ้มลูกตามไปส่งให้เมื่อตุ่มเข้านั่งในรถได้เรียบร้อยแล้ว ฉันจ่ายค่าทำคลอดซึ่งรวมถึงค่าพยาบาลที่จะตามมาทำแผลแม่ละอาบน้ำทายาสะดือให้ลูกติดต่อกันอีกเจ็ดวันเป็นเงินรวมแปดร้อยห้าสิบบาท
เช้าวันนั้นไม่มีแดดเลยด้วยเป็นต้นฤดูฝนจึงมีเพียงสายฝนเม็ดเล็ก ๆ ตกปรอย ๆ เป็นสายเหมือนกับน้ำมนต์ที่พรมต้อนรับลูกคนแรกของเราเข้าสู่ความวุ่นวายของชีวิตในวันหน้าของเขา
เมื่อกลับถึงบ้านฉันกับ “ไอ้เตื้อง” ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่ตุ่มจ้างเอาจากอำเภอเพ็ญให้มาช่วยซักผ้าถูบ้าน ก็ต้องช่วยกันแปรสภาพห้องรับแขกให้เป็นที่นอนแม่ลูกอ่อนเพราะเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะสะดวกกว่าให้นอนในห้องนอน เนื่องจากในช่วงแรก ๆ คาดการณ์ว่าจะต้องมีแขก (ทั้งที่เป็นไทย เป็นลาว และเป็นฝรั่ง) ไปใครมาเป็นอันมาก กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาเหงื่อโชกไปทั้งคู่ ฉันสังเกตเห็นว่าในชั่วโมงแรก ๆ ของชีวิต ลูกนอนหลับเกือบตลอดเวลา หมอนหนุนหัวซึ่งทำเป็นหน้ากระต่ายสีฟ้าอ่อนนั้นรับหัวน้อย ๆ ของลูกได้พอดี มองไกล ๆ เหมือนกับว่าลูกมีหูเป็นกระต่าย ลูกจะร้องก็ต่อเมื่อทำแฉะหรือหิวนมน้ำเท่านั้นซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่ลูกเป็นเด็กปากหนัก เพราะทั้งฉันและตุ่มต่างก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนมาก่อนในชีวิต หากลูกเป็นเด็กปากพล่อย ร้องไห้ส่งเดชจ้า ๆ ไปทั้งวัน ฉันกับตุ่มคงกลุ้มไปจนทำอะไรไม่ถูกเป็นแน่แท้ ขนาดนาน ๆ ลูกจะร้องสักทียังทำอะไรกันไปไม่ถูกหมดทั้งพ่อใหม่ทั้งแม่ใหม่
พอตกบ่ายพ่อตาแม่ยายพี่ป้าน้าอาน้องสะใภ้จากอำเภอเพ็ญและเพื่อน ๆ ที่ทำงานก็แห่กันมาเต็มบ้านเต็มช่องไปหมด แต่ละคนต่างก็มีของรับขวัญหลานชายคนใหม่ติดไม้ติดมือกันมาถ้วนหน้า ที่เยอะที่สุดก็คงเป็นพวกเมาะเบาะผ้าอ้อม โมบายรูปดอกไม้พลาสติกสีฉูดฉาดซึ่งเมื่อไขลานแล้วจะหมุนไปรอบ ๆ พร้อมกับเสียงเพลงดังกรุ๋งกริ๋ง มาพร้อมกับพวงปลาเงินปลาทองใบลานแบบโบราณ และเสื้อผ้าเด็ก ที่เป็นประโยชน์มากคือผ้าอ้อมเพราะผ้าอ้อมที่ซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งสามโหลนั้นเอาเข้าจริงกลับไม่พอใช้เพราะลูกฉี่เก่งมาก แถมยัง “อึ” ออกมาเป็นสีดำ ๆ ฉันกับตุ่มเห็นเข้าทีแรกก็ตกใจกันจนเกือบสลบ เพราะคิดว่าลูกเป็นอะไร จนเพื่อน ๆ ที่เคยมีลูกแล้วมาบอกว่าเขาเรียกว่า “ขี้เทา” เป็นเรื่องปกติของเด็กเกิดใหม่ จึงค่อยคลายใจไปได้
สมัยนั้นยังไม่มีผ้าอ้อมวิทยาศาสตร์หรืออาจมีแต่หาได้ยากและมีราคาแพงจึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะซื้อหามาฝากกันได้ ผ้าอ้อมซึ่งเป็นผ้าฝ้ายพิมพ์ลายดอกไม้หรือไม่ก็เป็นลายตุ๊กตุ่นตุ๊กตาจุ๋มจิ๋มเมื่อเปื้อนเปียกจะต้องรีบแช่น้ำไว้จะได้ไม่เหม็นหืน พอได้จังหวะก็รีบซักเสียทีก่อนนำขึ้นตากแดดให้แห้งเพื่อนำมาพับไว้ใส่ตระกร้าให้พร้อมใช้ได้ต่อไป ที่เป็นปัญหามากเพราะช่วงนั้นเป็นฤดูฝนที่มีฝนตกฟ้าปิดอยู่เกือบทุกวันทำให้ผ้าอ้อมแห้งไม่ทันใช้ ต้องหาซื้อเพิ่มเติมมาอีกเป็นอันมาก เรื่องการนุ่งผ้าอ้อมเด็กนั้นเป็นเทคนิคทีแรกก็ใช้เพียงผืนเดียวเพราะลูกยังเล็กอยู่ พอตัวโตขึ้นมาอีกหน่อยต้องใช้สองผืน เทคนิคการนุ่งผ้าอ้อมให้ลูกนี้ตุ่มเป็นผู้ค้นพบแล้วนำมาสอนให้กับฉันอีกต่อหนึ่ง
ตุ่มขัดใจแม่ปัญญาไม่ยอมอยู่ไฟแบบโบราณโดยอ้างว่ายุ่งยากไม่รู้วิธีแต่ใช้วิธีฉีดยาแผนฝรั่งเอาแต่เรื่องหนึ่งที่ขัดไม่ได้คือเรื่องการจับลูกนอนคว่ำ ตามที่ฉันอ่านพบมาว่าหากจับลูกนอนคว่ำเสียตั้งแต่เล็ก ๆ ลูกก็จะมีหัวโหนกสวย ทั้งแม่ปัญญา แม่ของฉันเอง และยายเมื่อเห็นฉันจับลูกนอนคว่ำต่างก็โวยวายเสียราวกับว่าโลกจะถล่มทลาย หาว่าฉันนั้นมีจิตใจที่โหดเหี้ยมร้ายกาจนัก จับลูกตัวเองทรมานเสียตั้งแต่เกิดมาใหม่ ๆ จนฉันสุดที่จะทัดทานปล่อยให้ทวดให้ย่าให้ยายจับหลานนอนหงายเสียให้สมใจอยากไปตามเรื่อง เด็กทารกเวลานอนหงายจะมีอาการสะดุ้งแล้วก็ยิ้มคนเดียวเพราะเมื่อยหน้าเป็นพัก ๆ พวกยายพวกย่าก็จะดีใจวิ๊ดว้ายกระตู้วู้ ว่า “แม่ซื้อ” มาหยอกเล่นกับหลานไปโน่นเลย
พ้นจากเรื่องนอนก็มาถึงเรื่องนม ทีแรกทั้งฉันและตุ่มก็ตั้งใจว่าจะให้ลูกกินนมแม่ แต่เอาเข้าจริงพอให้ลูกดูดนมไอ้ตุ่มก็ทำท่าจั๊กกะจี้เสียไม่มีจนฉันพลอยขนลุกไปด้วย ลูกก็หลับหูหลับตาดูดเอาดูดเอาเสียงดังจ๊วบ ๆ ไม่รู้ว่าออกหรือไม่ออกได้ยินแต่เสียงตุ่มบ่นพึมพำว่านมไม่มี นมไม่มี ซึ่งฉันก็เห็นว่าจริงเพราะตุ่มเป็นผู้หญิงที่นมไม่มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลังจากนั้นพอใครมาเยี่ยมฉันจึงมีหน้าที่รีบบอกก่อนที่จะถามกันเสียอีกว่า “ไอ้ตุ่มมันไม่มีนม” แต่ต้องคอยชำเลืองระวังตัวตั้งท่าคอยหลบให้ดีเพราะพูดยังไม่ทันจบต้องมีอะไรที่โดยปกติจะไม่ลอยด้วยตัวของมันเองลอยมาแบบเดาทิศทางได้ยากยิ่งเสมอ ลูกคนแรกของฉันจึงโตเติบใหญ่มาจนมีแรงยืนเท้าสะเอวเถียงพ่อเถียงแม่ได้ฉอด ๆ จนทุกวันนี้ได้เพราะนมวัวผสมสารเคมียี่ห้อเอส 26 โดยแท้
(โปรดอ่านต่อไปได้อีกนิดที่ความคิดเห็นที่ 1)
จากคุณ : แมงกระพรุน - [ 23 ส.ค. 45 02:48:55 A:203.149.43.48 X: ]
ความคิดเห็นที่ 1
ดังที่บอกไว้แล้วว่าลูกคนนี้เป็นคนปากหนัก จะไม่ร้องไห้โยเยโดยไม่จำเป็น ฉันซึ่งรับหน้าที่เป็น “เวรกลางคืน” จึงไม่ต้องตื่นมากลางดึกเพื่อป้อนนมป้อนน้ำหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยนัก เสียแรงที่เตรียมตัวเป็นฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดีด้วยการชะลอการกินเหล้าลงไม่ยอมให้เมาและไม่ยอมออกไปซื้อยาสีฟันตอนค่ำคืนอีกเป็นเด็ดขาดเพราะเห่อลูก ส่วนชื่อของลูกนั้นไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรฉันก็ยืนกรานที่จะตั้งชื่อลูกด้วยตัวเอง ลงทุนไปซื้อหนังสือแนะวิธีตั้งลูกบุตรธิดามาเล่มหนึ่งนั่งพลิกซ้ายพลิกอยู่พักเดียวก็เลือกได้ชื่อสั้น ๆ ว่า “ธิติ” มีชื่อซึ่งทั้งฉันและตุ่มให้ความเห็นชอบลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า “ปอง”
เมื่อฉันโทรศัพท์ไปบอกแม่เรื่องปอง แม่ก็ดีใจหลายที่ได้หลานย่าคนแรกเป็นผู้ชายขมีขมันรีบนั่งรถไฟขึ้นมาเยี่ยมโดยมียายที่อ้อนแม่อีท่าไหนก็ไม่รู้จนแม่ใจอ่อนยอมออกค่ารถให้ตามขึ้นมารับขวัญ “หลานทวด” ที่อุดรด้วย ยายมาเที่ยวนี้ดูแก่ไปเยอะแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระชุ่มกระชวยและบ้าจี้อยู่เหมือนเดิม พอเห็นหน้าหลาน “คุณทวด” ก็รีบขมีขมันเข้าไปอุ้มหลานไปจูบไปกอดพร้อมกับควักสร้อยทองเส้นกระจิ๋วออกมาผูกข้อเท้ารับขวัญหลานก่อนที่จะถูกแม่ซึ่งกลายเป็น “คุณย่า” ไปแล้วแย่งไปอุ้มบ้าง แม่อุ้มไปก็พลิกตัวปองไปทางซ้ายทีขวาทีเหมือนกับจะดูให้แน่ใจว่าหลานมีอวัยวะครบ 32 หรือไม่ พักใหญ่ก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า “เอ..แม่ว่าขามันโก่ง ๆ พิกลนะ” ยายได้ยินดังนั้นก็ได้ทีแย่งคว้าตัวหลานไปทำพิธีดัดขาอาบน้ำรับขวัญฝากแม่ซื้อเสียยกใหญ่ก่อนที่จะสงบลงได้
เที่ยวนี้แม่กับยายพักอยู่ที่อุดรเสียหลายวันสิ่งที่ทั้งสองท่านเป็นห่วงเป็นใยมากที่สุดก็คงเป็นข้อที่ฉันกับตุ่ม “เลี้ยงลูกไม่เป็น” มิใยที่ตุ่มกับฉันจะรับปากรับคำอย่างไรทั้งสองก็หาได้คลายใจไม่ แม่ถึงกับออกปากว่าจะขอหลานไปเลี้ยงที่กรุงเทพซึ่งฉันก็ทัดทานไปในทันทีว่า “ไม่ให้” เป็นตายอย่างไรก็จะขอเลี้ยงลูกกันเอง แม่ก็พูดให้คิดขึ้นมาในทันทีว่า “แล้วเวลาพ่อกับแม่มันไปทำงานจะทำอย่างไร” เพราะที่จริงเรื่องคนเลี้ยงลูกนี้ฉันกับตุ่มไม่เห็นว่ามีความสำคัญแต่อย่างใดในครั้งแรก ด้วยคิดว่าลูกก็มิได้เป็นเด็กที่ร้องไห้โยเยโดยไม่มีเหตุผลอันควรน่าจะฝากไอ้เตื้องดูแลในช่วงกลางวันได้ แต่คิดไปคิดมาก็เริ่มเกิดความวิตกจริตเพราะไอ้เตื้องเองก็เพิ่งจะแตกเนื้อสาวไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนมาก่อน วัน ๆ ก็เอาแต่นอนฟังเพลงลูกทุ่งจะฝากฝีฝากไข้ให้เลี้ยงลูกแบเบาะได้อย่างไรเพราะตุ่มนั้นลางานได้เพียงเดือนเดียวก็ต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม
และแล้วฉันก็หาทางออกได้เมื่อได้ยินเสียงทวีร้องเพลงขี้เมาดังแว่วมาจากหลังบ้านด้วยนึกขึ้นได้ว่าน้องสาวคนเดียวของทวีเพิ่งจะเลิกกันกับผัวที่กรุงเทพฯ พาแม่อพยพมาอยู่กับทวีได้หลายเดือนแล้ว แม่ของทวีซึ่งเป็นหญิงชราท่าทางใจดีอยู่ว่าง ๆ ไม่ได้ทำอะไรได้แต่เดินไปเดินมาทั้งวัน เมื่อฉันออกปากแม่ของทวีก็ตกลงรับงานทันที ฉันกับตุ่มจึงโล่งใจไปอีกเปลาะหนึ่งที่อย่างน้อยก็มีคนที่เคยเลี้ยงลูกจนโตมาแล้วถึงสองคนมาดูแลลูกให้ ไม่ต้องยกให้แม่เอาลูกไปเลี้ยงตามคำขู่
ตอนนี้ตั้งใจให้สั้นกว่าที่เคยเพราะมีแถมรูป “ปอง” เทียบให้ดูระหว่างตอนที่มีอายุ 3 วันกับตอนที่มีอายุ 7,671 วัน
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 23 ส.ค. 45 02:53:07 ]
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจต้องการอ่านหรือคิดถึงต้องการกลับไปเยี่ยมเยียนตอนเก่า ๆ ของ “เรื่องของฉัน” ก็โปรดหาความสำราญได้ตามอัธยาศัยโดยเชื่อมต่อผ่านบัญชีลิงค์ที่จัดทำไว้ข้างล่าง เพื่อความสะดวกของท่าน ดังนี้
ตอน 1 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1436965/W1436965.html
ตอน 2 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1440773/W1440773.html
ตอน 3 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1443117/W1443117.html
ตอน 4 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1445429/W1445429.html
ตอน 5 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1456012/W1456012.html
ตอน 6 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1460357/W1460357.html
ประมวลภาพ http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1490077/W1490077.html
ตอน 8 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1464968/W1464968.html
ตอน 9 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1470662/W1470662.html
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1477240/W1477240.html
ตอน 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1481216/W1481216.html
ตอน 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1485998/W1485998.html
ตอน 13 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1494536/W1494536.html
ตอน 14 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1499324/W1499324.html
ตอน 15 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1504247/W1504247.html
ตอน 16 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1508332/W1508332.html
ตอน 17 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1514598/W1514598.html
ตอน 18 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1520834/W1520834.html
ตอน 19 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1523540/W1523540.html
ตอน 20 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1529607/W1529607.html
ตอน 21 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1534304/W1534304.html
ตอน 22 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1540028/W1540028.html
ตอน 23 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1544259/W1544259.html
ตอน 24 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1548649/W1548649.html
ตอน 25 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1555260/W1555260.html
ตอน 26 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1560823/W1560823.html
ตอน 27 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1566759/W1566759.html
ตอน 28 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1573112/W1573112.html
ตอน 29 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1575450/W1575450.html
ตอน 30 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1582032/W1582032.html
ตอน 31 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1583775/W1583775.html
ตอน 32 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1590782/W1590782.html
ตอน 33 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1596804/W1596804.html
ตอน 34 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1607455/W1607455.html
ตอน 35 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1621948/W1621948.html
ตอน 36 http://pantip.inet.co.th/cafe/writer/topic/W1637369/W1637369.html
ตอน 37 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1652212/W1652212.html
ตอน 37/1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1655967/W1655967.html
ตอน 38 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1665734/W1665734.html
ตอน 39 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1680517/W1680517.html
ตอน 40 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1694257/W1694257.html
หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็ที่ Off-Site backup ที่นี่ครับ
http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=jellyfish
ด้วยความปรารถนาดี
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 23 ส.ค. 45 02:56:08 ]
ความคิดเห็นที่ 3
ตรวจสอบบัญชีลิงค์อีกครั้งหนึ่งแล้ว พบว่ามีข้อผิดพลาดจึงขอแก้ไขบัญชีลิงค์ตอนที่ 10 – 12 เสียใหม่ดังนี้
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1477240/W1477240.html
ตอน 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1481216/W1481216.html
ตอน 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1485998/W1485998.html
ขออภัยในความผิดพลาดครับ
จากคุณ : แมงฯ (ใครดี) - [ 23 ส.ค. 45 03:18:03 ]
ความคิดเห็นที่ 4
เย้ ดีใจจัง ตอนที่ 41 อุ๊บอิ๊บ มาเป็นคนแรก
ขอ post ก่อนนะครับ
จากคุณ : อุ๊บ อิ๊บ - [ 23 ส.ค. 45 08:39:00 A:203.147.4.197 X: ]
ความคิดเห็นที่ 5
อ่านถึงตอนไม่มีนมแล้วขำกลิ้งเลยค่ะ แม่ซื้อคืออะไรคะ?
จากคุณ : scottie - [ 23 ส.ค. 45 09:49:36 ]
ความคิดเห็นที่ 6
และแล้ว...วันนี้หลานชายก็มาโชว์โฉมอีกคน ผมว่าหน้าตาแกเหมือนพี่ตุ่มแม่แกนิ...พี่แมงฯ
จากคุณ : พิจิก27 - [ 23 ส.ค. 45 09:52:52 A:202.129.29.44 X: ]
ความคิดเห็นที่ 7
ป๊าด...นึกว่านายแบบที่ไหน...สาวๆติดตรึมชัวร์ ตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ ว่าจะมาสร้างหน้ารวมลิงค์ให้แต่ช้าไปต๋อยแล้วค่ะ ตอนเด็กๆเค้าก็ว่าแม่ซื้อคือ จะใช้คำว่าอะไรดีล่ะ อืม.... Guardian ของเด็กน้อยคอยปกป้องคุ้มครองภัยอ่ะค่ะ น่าจะได้ใจความประมาณเนี้ย...
-------------------------------------------------------------------------------------------
คุยเรื่องไปเที่ยวมาให้ฟังนิดนึง ไปเที่ยวเกาะแวนคูเวอร์มาค่ะ นั่งเรือเฟอรี่ไป ชั่วโมงกว่าๆถึง แล้วไปทำคอนแทคเลนส์หายไปข้างหนึ่ง แว่นสำรองก็ไม่ได้เอาไปด้วยเลยได้รูปมาหน่อยเดียว ไปเที่ยวแล้วคิดถึงบ้านกันค่ะ อยู่บ้านดีๆไม่ว่าดี ว่าแล้วก็วางแผนเที่ยวต่อค่ะ ฮี่ๆๆๆ
จากคุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 10:49:38 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 8
Thank you ka, Khun Mang-ga-prun. Khun JW ka, where is the Vancouver Island? Are you talking about Vancouver in British Columbia, Canada? (I am confused ka because if it in British Columbia, it should be Victoria that you need to take a ferry na ka.)
จากคุณ : B - [ 23 ส.ค. 45 12:43:24 A:134.173.10.70 X: ]
ความคิดเห็นที่ 9
ว่าจะโพสรูปให้ดูแต่โหลดรูปลงคอมฯไม่ได้น่ะ คุณบี เข้าใจถูกแล้วค่ะ เจอยู่ที่บีซี นั่งเฟอรี่ไปที่เกาะค่ะ แต่ไปลงที่เมืองนาไนโม มันจะอยู่กลางๆหน่อย เมืองวิคตอเรียจะอยู่ทางใต้ ขับรถขึ้นมาทางเหนืออีกไปที่เมืองคอร์ทนี กับโคมอซ ลืมถามพี่แมงฯว่าน้องปองเรียนจบที่ม. อะไรน่ะค่ะ ครุยสีฟ้านี่คณะอะไรคะ ขอทักทายแฟนคลับด้วยค่ะ
จากคุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 13:16:57 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 10
โห น้องปอง ตอน 3 วัน จ้ำหม่ำจังเลยค่ะ โตมาแล้วหล่อเหลาเชียว เรื่อง "แม่ซื้อ" เคยได้ยินมาเหมือนที่น้องเจย์ว่านะคะ คล้ายๆ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ วิญญาณ หรืออะไรก็ไม่รู้ ที่จะคอยปกป้องเด็กแรกเกิด เวลาที่จู่ๆ เด็กก็หัวเราะหรือยิ้มขึ้นมา เขาเชื่อกันว่าแม่ซื้อกำลังหยอกล้ออยู่ แต่ทำไมเรียกว่าแม่ซื้อ ไม่เรียกว่าแม่ขาย ก็ไม่รู้นะคะ อิอิ
จากคุณ : - โอ้โฮ - - [ 23 ส.ค. 45 13:19:50 ]
ความคิดเห็นที่ 11
อ่า ลิ้งค์แรกๆ อยู่ตรงไหนคะ ได้โปรดดดด อยากอ่านค่ะ
จากคุณ : bee007 - [ 23 ส.ค. 45 17:18:35 ]
ความคิดเห็นที่ 12
ทักทายค่ะ..ทักทายทุกคน น้องเจ....สนุกไหมคะ น้องโอ้โฮ น้อง scottie น้องพิจิก 27 และ to คุณอุ๊บอิ๊บ คุณ B คุณbee007 เวลคัมทู"เดอะคลับ" ค่ะ เอ...ลิงค์แรกๆรวมอยุ่ข้างบนนะคะ คุณ bee007ช่วยดูคคห.ที่สองค่ะ แหม..ช่วยเชียร์คุณตุ่มตอนเจ็บท้องเลยค่ะ แต่พอเห็นลูกแล้วลืมเจ็บลืมปวดเป็นปลิดทิ้ง นะคะ ที่จริงตอนนี้เขาให้"คุณพ่อ"เข้าไปร่วมขบวนการเจ็บด้วย ไม่ให้ยืนสบายอยู่ข้างนอกค่ะ อิ..อิ..และทางหมอว่ากันว่า มีเจ็บปวดสามอย่างในกระบวนความเจ็บที่สุดๆคือ ปวดฟัน ปวดนิ่ว และปวดท้องคลอดค่ะ นึกถึงตัวเองนั้น นอกจากเจ็บอยู่นานแล้วยังโดนเฉือนแหวะท้องออกมาอีกค่ะอิ๊..อิ๊..แถมหลังจากเจ็บอยู่ 12 ชม.แล้วนั้น หมอดมยายังมาให้เลือก อีกว่าต้องการดมยาหรือแทงหลัง โธ่.. ไม่มีสติจะเลือกแล้วค่ะ ตอนนั้น...ตอบไปว่า whatever แล้วผลอยไปเลย ตื่นมาอีกที เห็นลูกจ้องหน้า เราเป๋งเลยค่ะ....ว่าแต่ บทนี้หนูปองมาอ่านไหมคะนี่
จากคุณ : ปราณ - [ 23 ส.ค. 45 18:26:07 ]
ความคิดเห็นที่ 13
เข้ามาช้าไปนิดแต่ต้องมาแน่นอนค่ะ...หวัดดีทู้กท่านค่ะ และ"ปอง"น่ารักดีค่ะ...มีความสุขทุกวันนะคะ
จากคุณ : ริมเส้นขอบฟ้า - [ 23 ส.ค. 45 19:23:00 ]
ความคิดเห็นที่ 14
มาช้าแต่ก็มา อิอิ
จากคุณ : GTW - [ 23 ส.ค. 45 20:12:17 A:202.133.156.104 X: ]
ความคิดเห็นที่ 15
"เจ็บฉิบหาย" สั้นๆ แต่กินใจ...อิ๊บอ๋าย พี่แมงฯ เบลว่า ปองกะเบลนี่น่าจะเหมาะกันนะพ่อ เอ๊ย...พี่ เบลเกิด แรม 4 ค่ำ เดือนเจ็ด ปีขาล (แก่กว่าปีเดียวไม่เป็นไรเนาะ) 8.30 น. เป๊ะ ทักทายมิตรรักนักอ่านทุกท่านด้วยค่ะ
จากคุณ : bellissima - [ 24 ส.ค. 45 04:43:36 A:217.162.156.85 X: ]
ความคิดเห็นที่ 16
@^_^@
จากคุณ : Taratorn - [ 24 ส.ค. 45 06:08:32 A:194.80.32.12 X:10.38.40.120 ]
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านแล้ว เห็นภาพเลยค่ะ "แหม่ สิหาแหม่ ฮือ ฮือ" นึกถึงวันคลอดเจ้าคนแรก ชัดเจนเลยค่ะ เจ็บมากๆ เจียนจะตาย คิดถึงแม่คนแรก พอได้ลูกมา รักลูกและรักแม่เพิ่มขึ้นอีกเป็นกองเลย (เอ้อ...น้องปองน่ารักนะค่ะ เหมือนนายแบบเลย :)
จากคุณ : คุณแม่ลูกสาม - [ 24 ส.ค. 45 14:25:20 A:203.148.232.36 X: ]
ความคิดเห็นที่ 18
เวลาถามแม่เกี่ยวกับเรื่องเลี้ยงเด็กทีไรก็เห็นว่าลำบากทุกที แม่นี่เก่งจริงๆที่สู้รบกับเราได้ ... ตอนนี้เราก็ต้องมาเลี้ยงลูก แต่เป็นลูกกุ้ง แต่ยังกะเด็กเล็กๆ ต้องให้อาหารทุก 4 ชั่วโมง ถ้ากินหมดเร็วก็ต้องให้เพิ่มอีกทุกๆ 2 ชั่วโมง ต้องคอยดูน้ำ ดูดตะกอน ดูว่าแข็งแรงไหม แสนสนุก
จากคุณ : Licht (Miran) - [ 24 ส.ค. 45 19:37:50 ]
ความคิดเห็นที่ 19
บทเพลงพระราชนิพนธ์ คำหวาน ที่พี่แมงขอไว้ในการตอบกระทู้ครั้งที่แล้วครับ มีสองเวอร์ชัน แบบมีเนื้อร้องกับแบบบรรเลง จะสังเกตเห็นว่าจังหวะความเร็วช้าต่างกัน เนื่องจากความเหมาะสมในการใส่คำร้อง
เพลงพระราชนิพนธ์คำหวาน: Sweet Words เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๐ ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาคภาษาอังกฤษและภาษาไทย
http://www.angelfire.lycos.com/jazz/kingsong/KamWarn.mp3
http://www.angelfire.lycos.com/jazz/kingsong/SweetWords.mp3
จากคุณ : biblio - [ 24 ส.ค. 45 20:52:55 ]
ความคิดเห็นที่ 20
ตามมาดูรูปได้ที่นี่ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H1712268/H1712268.html#19
ไม่ได้ใบ้หวยนะคะ
ฮ่าๆๆๆๆ
จากคุณ : JW (Chelsey) - [ 25 ส.ค. 45 05:26:16 ]
ความคิดเห็นที่ 21
อิอิ...ยังตามอ่านอย่างติดหนึบค่ะ...เป็นความเรียงที่มีหลายรสชาติมาก :)
จากคุณ : โคอาร่า - [ 25 ส.ค. 45 15:30:35 A:203.156.23.184 X: ]
ความคิดเห็นที่ 22
อะโห..คุณปองอายุสามวัน ทำผมทรงเบ็คแฮมซะด้วย ฮ่า ๆๆๆ โตขึ้นแล้วหน้าหวานจังแฮะ เอิ๊กส์ ขำพี่ตุ่มง่ะค่ะ "เจ็บฉิบหาย" สั้น ๆ แต่ได้ใจความ ฮี่ ๆ รออ่านต่อค่ะ ^^
จากคุณ : Clear Ice - [ 25 ส.ค. 45 22:01:20 ]
ความคิดเห็นที่ 23
พี่ตุ่มเข้าใจเอาสองภาพมาคู่กันนะ คนดูต้องตะลึง..ตะลึง..ตึง..ตึง...ลูกชายยิ้ม..น่ารักมากค่ะ..คนดูเห็นแล้วต้องแล้วต้องยิ้มตอบกลับไปด้วย..ดีใจด้วยนะคะ..ย้อนหลังความสุขในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร
จากคุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 26 ส.ค. 45 10:26:26 ]
ความคิดเห็นที่ 24
________________________________________________________________________________________
ก่อนอื่นคงต้องขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามอ่านเรื่องของฉันมาอย่างเหนียวแน่นจนย่างเข้าถึงตอนที่ 42 แล้ว ที่ต้องยอมรับกับทุกท่านว่าเชยมากคือเขียนกันไปอ่านกันมาตั้งนมนานเพิ่งจะเห็นชื่อ “เรื่องของฉัน” ปรากฏอยู่ในหน้าแรกของ โต๊ะห้องสมุด แล้วมีรูปมือยกนิ้วหัวแม่โป้งด้วย ธรรมดาไม่เคยหยุดแวะหน้านี้จะตรงเข้าไปยัง “ถนนนักเขียน” เลย ทราบมาว่าเรื่องที่จะปรากฏตรงนี้ได้ต้องมีผู้อ่านสละเวลาโหวตให้ จึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ และขออภัยที่กระเปิ้บกระป้าบจนไม่ได้สังเกตและไม่ได้กล่าวคำขอบคุณไว้ก่อนหน้านี้ ต่อไปเป็นรายการตอบคำถามตามประเพณีปฏิบัติอันดีงามครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : อุ๊บ อิ๊บ - [ 23 ส.ค. 45 08:39:00 A:203.147.4.197 X: ]
ขอแสดงความยินดีครับที่ได้อ่านตอนนี้เป็นคนแรกอุตส่าห์เข้ามาเช็คตั้งวันละห้าหกครั้ง เกรงใจจริง ๆ แต่นี่ดีนะที่กลุ่มแม่บ้านคอนคาเค้ฟเขามีนัดประชุมวิสามันกัน เลยกลับมาไม่ทัน
________________________________________________________________________________________
++คุณ : scottie - [ 23 ส.ค. 45 09:49:36 ]
ถึงกับกลิ้งเลยหรือครับ พอจะนึกภาพออกละว่า หากหุ่นผอม ๆ เพรียว ๆ คงกลิ้งไม่ได้เป็นแน่ เกี่ยวกับเรื่องแม่ซื้อ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า [น] เทวดาหรือผีที่ประจำทารก ขยายความโดยคัดลอกจากหนังสือเลขที่ ISBN 974-89015-6-4 เป็นความรู้เพิ่มเติมดังนี้ คนโบราณเชื่อว่า มนุษย์ที่จะเกิดมานั้นผีจะปั้นเป็นหุ่นขึ้นมาก่อน แล้วจึงหาวิญญาณมาใส่ จากนั้นจึงส่งมาเกิดในครรภ์สตรี ในอดีตการแพทย์ยังไม่เจริญเด็กที่มาเกิดจะมีโอกาสตายหรือรอดพอพอกัน เด็กที่ตายมักตายภายใน 3 วันอันเป็นที่มาของคำแช่งที่ขอให้ตายภายใน 3 วัน 7 วัน เชื่อกันว่าเพราะแม่ผีที่ปั้นหุ่นนั้นเห็นว่าเด็กน่ารัก จึงทำให้เด็กตายเพื่อนำไปเลี้ยงดูเอง ถ้าผีไม่ชอบใจจึงจะปล่อยให้มนุษย์เลี้ยง นี่เองจึงเป็นเหตุให้คนในสมัยก่อนเมื่อเห็นเด็กอ่อนแรกคลอดจะต้องรีบทำพูดว่า “น่าเกลียดน่าชัง” เพื่อหลอกมิให้ผีมาเอาเด็กไปเลี้ยง (เดี๋ยวนี้พูดกันเพี้ยนไปเป็นน่ารักน่าชักเสียแล้วเลยไม่รู้เรื่องกันไปทั้งผีทั้งคน) ชื่อเด็กนั้นก็ต้องตั้งให้น่าเกลียดน่ากลัวเข้าไว้ เช่น หอย อึ่ง ปิ๊ด หมึก อ่าง เป็นต้น พอเด็กเกิดมาแล้วตัวแม่เองก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจ (ที่จริงหมดแรงต่างหาก) เพื่อหลอกผีว่าแม้แต่แม่ของเด็กเองยังเกลียด หมอตำแยจะต้องเอาเด็กใส่กระด้ง ร่อนเบา ๆ แล้วร้องว่า “สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใครมารับไปเด้อ” หากมีการเตรียมการกันไว้ก่อนจะต้องหาหญิงใจดี เลี้ยงลูกเก่งมาเป็น “แม่ซื้อ” โดยหญิงนั้นจะขอซื้อเด็กจากหมอตำแย ให้สตางค์แก่หมอตำแยเล็กน้อยพอเป็นพิธีว่าได้ซื้อเด็กไปแล้วผีห้ามมาแย่งคืน แต่หากไม่มีหญิงมารับเป็นแม่ซื้อหน้าม้า หมอตำแยก็จะรับเป็นแม่ซื้อเสียเอง ส่วนฝรั่งนั้นไม่เชื่อเรื่องผี จึงเรียก “แม่ซื้อ” เป็นเทวดาประจำตัวเด็ก Guardian Angle ไป
________________________________________________________________________________________
จากคุณ : พิจิก27 - [ 23 ส.ค. 45 09:52:52 A:202.129.29.44 X: ]
เอ..จะขัดใจกันก็ตรงนี้แหล่ะ มีแต่คนเขาว่า “ขี้เหร่เหมือนพ่อ”
________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 10:49:38 A:142.173.107.180 X: ]
แหมนี่ถ้าไม่รู้จักน้องเจย์มาก่อนนะ ได้ยินเสียงร้องอุทานว่า “ป๊าด” นี่ต้องนึกว่าลาวมาเองแน่นอน คนลาวจะนิยมอุทานคำว่า ปัดติโถะ กันจนติดปาก ภายหลังเห็นว่ายาวนักเลยย่อเหลือเพียง “ป๊าด” แบบที่น้องเจย์อุทานเปี๊ยบเลย แนะเห็นมะ คุณ Scottie น้องเจย์ยืนยันอีกคนแล้วนะ เรื่อง Guardian Angle
________________________________________________________________________________________
++คุณ : B - [ 23 ส.ค. 45 12:43:24 A:134.173.10.70 X: ]
ยินดีต้อนรับครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : JW - [ 23 ส.ค. 45 13:16:57 A:142.173.107.180 X: ] (อีกที)
ครุยสีฟ้าก็คณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้า จบบัญชี-บัญชี กว่าจะจบแทบตาย แต่จบแล้วกลับไม่ได้ใช้วิชา ไปเป็นคนขายหุ่นยนต์ ตอนนี้เรียน MBA ที่เอแบคภาคค่ำทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยกำลังจะจบแล้วผอมเสียจนคนทักว่าไม่มีลำไส้ พ่อก็หมดแรงส่งพอดี
________________________________________________________________________________________
++คุณ : - โอ้โฮ - - [ 23 ส.ค. 45 13:19:50 ]
ขอบคุณครับ ทีนี้รู้แล้วนะครับว่าทำไมเขาจึงไม่เรียก “แม่ขาย”
________________________________________________________________________________________
++คุณ : bee007 - [ 23 ส.ค. 45 17:18:35 ]
หาตัวเชื่อมเจอหรือยังไม่ทราบครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : หมอปราณ - [ 23 ส.ค. 45 18:26:07 ]
แหม คุณหมอปราณมาคราวนี้เขย่าขวัญดีแท้ แมงฯมีนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีตั้งหลายเม็ด ยังไม่ได้ไปเอาออกเลย กะว่าจะรอให้ปวดเสียก่อนค่อยไปให้หมอเจาะพุงเอาออก ไฉนเลยหมอปราณมาขู่กันได้ว่าปวดนิ่วนั้นสาหัสนักจนข้าน้อยชักจะหวั่นไหว ชักเสียวจริง ๆ แล้วสิเรา ปองยังไม่ได้อ่านเลยครับ เรียกให้อ่านอยู่เหมือนกัน เห็นทำหน้าเบ้ ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าแปลว่าอะไร
________________________________________________________________________________________
++คุณ : ริมเส้นขอบฟ้า - [ 23 ส.ค. 45 19:23:00 ]
สวัสดีครับ ตกลงรูปสมุนน่ารักที่เอามาแบ่งกันชมนี่น่ะ เป็นตัวจริงจริงหรือเปล่าครับ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : GTW - [ 23 ส.ค. 45 20:12:17 A:202.133.156.104 X: ]
“มาช้าแต่ก็มา อิอิ“ ตื้นตันจริง ๆ ครับคุณพี่ ค่อย ๆ เดินก็ได้ครับ ระวังจะหกล้มหกลุกไป
________________________________________________________________________________________
++คุณ : bellissima - [ 24 ส.ค. 45 04:43:36 A:217.162.156.85 X: ]
เอ๊า..ถ้าอย่างนั้นน้องเอ๊ยหลานเบลก็ต้องซ้อมเรียก “อาแมงฯ” เป็นการอุ่นเครื่องไว้ก่อน แล้ว “อา” จะช่วยเชียร์ให้ ว่าแต่ว่า พ่อหนุ่มมาดเข้มที่นั่งหน้ายุ่งอยู่ในรูปด้วยกันเมื่อวันก่อนน่ะจะยอมรื้อ
________________________________________________________________________________________
++คุณ : Taratorn - [ 24 ส.ค. 45 06:08:32 A:194.80.32.12 X:10.38.40.120 ]
ถามลูกชายคนเล็กแล้ว เห็นบอกว่า ^-^ แปลว่ายิ้มธรรมดา แต่ถ้า @^_^@ แปลว่าคนยิ้มใส่แว่น
________________________________________________________________________________________
++คุณแม่ลูกสาม - [ 24 ส.ค. 45 14:25:20 A:203.148.232.36 X: ]
ครับ รู้แล้วพวกเรารักแม่กันให้มาก ๆ นะครับ อ้อ ขอบคุณครับที่ชมว่าปองน่ารัก น่ารักจริงครับ แต่นิสัยไม่ดี อายุเกือบจะสามสิบอยู่รอมร่อแล้วยังไม่เลิกไถเงินพ่อใช้สักที
________________________________________________________________________________________
++คุณ : Licht (Miran) - [ 24 ส.ค. 45 19:37:50 ]
เอาใจช่วยนะครับ ซ้อมไว้ครับ เลี้ยงลูกกุ้งก็ดีไปอย่างที่เลี้ยงแล้วมักจะได้เงิน แต่เลี้ยงลูกคนโอกาสได้เงินมีน้อยมาก
________________________________________________________________________________________
++คุณ : biblio - [ 24 ส.ค. 45 20:52:55 ]
นึกแล้วว่าต้องไม่ผิดหวัง ขอบคุณจริง ๆ ครับ ไพเราะจริง ๆ ครับ เชื่อว่าคนคงจะโหลดไปฟังกันตรึม (ยกเว้นน้องเจย์) ไม่ทราบนักร้องชื่อคุณวิยะดาหรือเปล่าครับ คุณบิ๊บพอจะทราบไหมครับว่าใครเป็นคนทำดนตรี (เรียบเรียงเสียงประสาน) ต่อเนื่องนะครับไม่เกรงใจนะครับ เดี๋ยวจะเสียจังหวะ ขอเพลง Little things mean a lot ด้วยได้ไหมครับ มีกี่เวอร์ชั่นเอาหมดเล้ย
________________________________________________________________________________________
++คุณ : โคอาร่า - [ 25 ส.ค. 45 15:30:35 A:203.156.23.184 X: ]
แหม หายหน้าไปนาน คิดถึงจัง คิดว่าคุณหมีโคฯหนีไปทำ “ไข่เคาะ” ขายอยู่ที่ไหนเสียแล้ว
________________________________________________________________________________________
++คุณ : Clear Ice - [ 25 ส.ค. 45 22:01:20 ]
ภาษาไทยแท้ ๆ มักจะให้ความหมายในเชิงความรู้สึกได้จะแจ้งตรงประเด็นเสมอโดยไม่ต้องขยายความให้เยิ่นเย้อ เสียดายว่าคำไทยแท้ ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกมองถูกจัดให้เป็นคำหยาบช้าสามาลย์ไปเสียฉิบ คนเลยแหยงไม่ค่อยกล้าที่จะนำมาใช้กัน น้องไอ้ซ์นี่ช่างสังเกตนะเรื่องผมทรงแบ็คส์น่ะ เหมือนจริง ๆ ด้วย
________________________________________________________________________________________
++คุณ : นิดนิดหน่อยหน่อย - [ 26 ส.ค. 45 10:26:26 ]
เห็นยิ้ม ๆ อย่างนี้แหล่ะครับ โหดเหี้ยมไร้ปราณีนัก..เวลาหน้ามืดจะไถเงินพ่อ
________________________________________________________________________________________
พรุ่งนี้อย่าลืมนะครับ “เรื่องของฉัน” ตอนที่ 42 ที่เก่าเวลาเดิม ตอนนี้อาจจะหนักไปนิดสำหรับหลาย ๆ คน แต่ก็สนุกเหมือนเดิมนะ
________________________________________________________________________________________
จากคุณ : แมงฯ - [ 29 ส.ค. 45 02:23:53 A:203.149.39.218 X: ]
ความคิดเห็นที่ 25
เป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นเช่นกันคะ เขียนความเรียงได้น่าอ่านจริงๆ ชื่นชมคุณยิ่งนัก :-)
จากคุณ : เพลง - [ 29 ส.ค. 45 05:57:52 A:203.113.34.239 X: ]
ความคิดเห็นที่ 26
ธ่อ...พี่แมงฯ เพิ่งจะเห็นกระทู้แนะนำหรือนี่ หวังว่าแควนๆที่โหวตให้ไม่น้อยใจไปก่อนนะ เรื่องป๊าด...นั้น เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นทอมมาจีบเพื่อนอีกที ทอมนี้เป็นคนอีสาน ตลกมาก ฮาสุดๆ เค้าก็ชอบอุทานว่า ป๊าด...บ่อย และดังๆ เลยเอามาใช้บ้างเพื่อให้เข้ากับท้องเรื่อง แหะๆๆ เพิ่งรู้ว่าน้องปองเป็นรุ่นน้องสถาบันเดียวกันอีกแล้ว เจเรียนภาคกลางวันจบเมื่อปี 1999 นี้เอง ตอนนั้นค่าหน่วยกิต หน่วยละ 3000 ตอนนี้คงซัก 3500 หรือ 4000 ได้แล้วมั้ง ทำไมโลกนี้กลมจริงหนอ
จากคุณ : JW - [ 29 ส.ค. 45 12:19:11 A:142.173.107.180 X: ]
ความคิดเห็นที่ 27
พี่แมงฯแปะตอน 42 แล้วนะ ตามไปดูได้ที่ถนนนักเขียนค่ะ
จากคุณ : JW - [ 30 ส.ค. 45 05:11:41 A:142.173.107.180 X: ]
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)